ตอนที่79ความเจ็บปวดทรมาน
หวาเหวินพยักหน้า
“วันนี้เป็นวันอะไร?”เขายิ้มพร้อมกับนั่งลงประจำที่
เสื้อเชิ๊ตสีขาวสบายๆที่เจียงหยู่สวมใส่เป็นรุ่นอลิมิเต็ดของแบรนด์หรูแบรนด์หนึ่ง
ตำแหน่งของแขนเสื้อล้วนเป็นเพชรส่องประกายวิบวับถึงเขาจะสวมใส่แบบแบบง่ายๆสบายๆแต่ก็ทำให้คุณรู้สึกว่าดูเป็นคนมีระดับเลยทีเดียว
พูดได้ว่ามีกลิ่นอายของตระกูลผู้ดีสูงส่งมากเลยทีเดียว
“ไม่ใช่”
“งั้นเธอก็มีเรื่องขอร้องฉันใช่ไหม?จะกู้เงินฉันเหรอ?”เจียงหยู่พูดหยอกล้อ
หวาเหวินส่ายหน้า“ฉันไม่ได้ขาดแคลนเงิน”
“งั้นมันเกิดอะไรขึ้นเหวินเหวิน….ถ้าเธอไม่บอกฉันก็ไม่กล้ากินจริงๆนะกลัวว่าจะเป็นเหมือนกับงานเลี้ยงที่หงเหมิน”(งานเลี้ยงที่หงเหมินคือจัดงานเลี้ยงฉลองให้แก่ความสำเร็จของหลิวปังที่ด่านหงเหมินนอกเมืองเสียนหยางอออกไปซึ่งแท้ที่จริงแล้วภายในงานจะซุ่มซ่อนอาวุธและมือสังหารไว้เพื่อลอบสังหารหลิวปัง)
หวาเหวินอดที่จะกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยไม่ได้“ความจริงแล้วฉันทำตั้งใจทำเพื่อขอบคุณนายไม่ต้องกังวลไปหรอก”
“ขอบคุณ?ขอบคุณอะไร?”เจียงหยู่อึ้งงันไป
จึงได้ครุ่นคิดอยู่สักพักหรือว่าเป็นเพราะซื้อรถรุ่นออดี้A8ให้สองคัน?
หวาเหวินมองไปทางเขาเงียบๆก่อนจะพูดขึ้นว่า“วันที่คุณย่าของฉันเสียไปนายก็เป็นธุรปะปังให้กับตระกูลหวาแล้วก็ยังดูแลฉันด้วย……วันที่ประกาศพินัยกรรม…..นายก็ช่วยฉันพูด…..ถึงแม้ว่าฉันจะมีนิสัยแข็งกระด้างก็ตามแต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้บุญคุณคนนะเมื่อดูจากสถานะที่ไม่มีจุดบกพร่องอะไรของคุณแล้วฉันไม่รู้ว่าต้องซื้ออะไรให้ดังนั้นวันนี้แม่นายมาหาพอดีฉันเลยถามว่านายชอบกินอะไรก็เลยทำออกมาบางส่วนนายลองชิมก่อนนะว่ามันเป็นยังไง?”
ไม่ทันรอให้เจียงหยู่ได้พูดหวาเหวินก็พูดเสริมขึ้นว่า
“ฉันไม่ค่อยเข้าครัวบ่อยดังนั้นฝีมืออาจจะไม่ได้ดีขนาดนั้น”
“ไม่เป็นไรฉันจะลองดู”
เจียงหยู่จึงหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบกระดูกหมูผัดซอสชิ้นหนึ่งอย่างไม่ลังเล
หลังจากนั้นก็ตั้งใจเคี้ยวอย่างจริงจังหลับตาเพื่อเสพรสชาติ
“อื้ออร่อยฝีมือไม่เลว”เขาชื่นชม
ความจริงแล้วพูดได้ว่าเรื่องเหล่านี้สำหรับนิสัยของเธอแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ
เจียงหยู่ไม่ได้ขาดเหลืออะไรหวาเหวินจึงเลยลงมือทำอาหารด้วยตัวเองให้เขากินการกระทำนี้สร้างความอบอุ่นใจไม่น้อย
เจียงหยู่รู้แค่เพียงว่าการทำดีกับเธอเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากจริงๆ
เมื่อช่วงบ่ายหวาเหวินถามคุณนายเจียงแล้วก็ได้รู้ว่าเจียงหยู่เป็นคนที่ดื้อรั้นมากหลายปีมานี้ตอนเด็กชอบกินอะไรตอนนี้ก็ชอบกินอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยน
หวาเหวินทำกระดูกหมูผัดซอสผัดกระเจี๊ยบเนื้อผัดมันฝรั่งปลานึ่งเนื้อวัวเต้าเจี๊ยวแล้วก็ยังมีไข่เจียวปลาเงิน
นอกจากนี้ก็ยังมีซุบมะเขือเทศสันเนื้อแต่มันไม่ถึงกับอร่อยมากนัก
ความจริงแล้วหวาเหวินจะเข้าครัวเองน้อยมากแต่เธอก็ยังมีพรสวรรค์
ชุนเถาและหยินซิ่นเป็นลูกมือและคอยชี้แนะอยู่ข้างๆหวาเหวินเป็นเจ้ามือหลักของที่ทำออกมาจึงไม่ดูแพ้เชฟในโรงแรมแต่อย่างใด
จึงกลายเป็นคืนที่เจียงหยู่เจริญอาหารที่สุดพริบตาเดียวก็ปาข้าวไปสามถ้วยแล้ว
หวาเหวินไม่รู้จะรู้ต้องสึกอย่างไรจะเป็นความภาคภูมิใจหรือว่าประสบความสำเร็จดี?
เวลา20.00น.
มีคนได้รับบาดเจ็บเกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยเจียงเฉิง
ผู้ชายคนหนึ่งได้บอกเลิกกับผู้หญิงคนหนึ่งแต่ผู้หญิงกลับรับไม่ได้กับเรื่องนี้จึงได้คว้าเอามีดปอกผลไม้แทงจนได้รับบาดเจ็บอย่างแสนสาหัส
มีเพื่อนร่วมชั้นโทรไปแจ้งความทางตำรวจจึงได้ส่งรถมาสามคัน
ป๋ายห้าวตามหัวหน้าและเพื่อนร่วมทำงานมาปฏิบัติหน้าที่อยู่ในบริเวณนี้พอดีได้รับรายงานจากโทรศัพท์
เด็กนักเรียนที่เกิดเรื่องเป็นคนที่หวาฟ้านรู้จักพอดีดังนั้นเธอจึงได้มายังสถานที่เกิดเหตุด้วย
เมื่อทั้งสองเจอหน้ากันต่างก็รู้ลึกลำบากใจไม่น้อย
หลังจากที่ป๋ายห้าวได้บอกเลิกไปก็ได้ทำการลบทุกช่องทางการติดต่อของหวาฟ้านทั้งหมด
หวาฟ้านเสียใจอยู่นานมากช่วงนี้จึงยังไม่ค่อยมีกระจิตกระใจทำอะไรตอนเรียนจึงได้ดูหดหู่เหงาหงอยไม่มีชีวิตชีวา
“เธอ…..สบายดีไหม?”
เมื่ออยู่ในมุมส่วนตัวป๋ายห้าวจึงได้เรียกหวาฟ้านมาด้านข้าง
หวาฟ้านมองไปทางเขาด้วยความเศร้าใจ“นายคิดว่าไงละ?”
“เสี่ยวฟ้านความรักมันไม่ใช่ทุกอย่างนะ….เธอดูแลตัวเองดีๆใช้ชีวิตให้ดีๆ”
ป๋ายห้าวมองไปทางหวาฟ้านด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยดีนักนี่เพิ่งจะผ่านไปไม่กี่วันเธอกลับดูผอมลงมากทีเดียว
“ป๋ายห้าวนายมาพูดเรื่องนี้ตอนนี้ไม่คิดว่าตลกไปหน่อยเหรอ?”