ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 74

ตอนที่ 74

ตอนที่74ปกป้องภรรยาอย่างแข็งกร้าว

เมื่อหวาเจิ้นเยว่โยนทุกอย่างไปให้หวาเหวินทุกคนจึงรอให้เธอเอ๋ยปากออกมา

หวาเหวินเงยหน้าขึ้นก่อนจะมองไปรอบๆริมฝีปากอ้าขึ้นเล็กน้อย“ฉันเคารพความคิดเห็นของคุณย่า”

เมื่อพูดจบความเกลียดชังก็ถาโถมเข้ามาไม่น้อยทันที

หมายความว่ายังไง?เห็นกันชัดๆอยู่แล้วว่าไม่อยากแบ่ง

ก็บอกอยู่ว่าเคารพความคิดเห็นของคุณย่าพูดชัดแล้วนะยังไม่ยอมตัดใจกันอีก?

หวาหรุงก็ไม่ได้สบอารมณ์นักก่อนจะยื่นหน้าออกไปทางหวาเหวิน“น้องห้าพูดแบบนี้….มันไม่ถูกต้องนะ?เคารพความคิดเห็นของคุณย่า?ตอนที่คุณย่าทำพินัยกรรมไว้เมื่อสามปีก่อนเดาว่าน่าจะไม่มีสติแน่ๆพวกเราก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของคุณย่าล้วนเป็นพี่น้องกันเธอได้พินัยกรรมไปกว่าร้อยล้านคนเดียวเธอว่ามันเกินไปหน่อยเหรอ?ตอนเธอแต่งงานกับตระกูลเจียงเธอก็ไม่อยู่ในบ้านที่เตรียมไว้ให้แต่มาอยู่ในวิลล่าเฟิงหวาหลี่แทนเราก็ไม่ว่าอะไร?แต่หุ้นส่วนเงินทุนของบริษัทในตอนนี้ก็เหมาไปหมดเธอจะไม่ให้เรามีชีวิตรอดเลยเหรอ?”

“พี่รองก็พูดตลกเนอะทำไมฉันจะไม่ให้พวกพี่มีชีวิตรอดกันละ?หลายปีมานี้…..พวกพี่แต่ละคนไม่ได้ดีกว่าฉันเลยเหรอ?พี่ใหญ่พี่รองได้ไปเรียนมหาลัยในอเมริกา….กลับมาก็รับช่วงต่อธุรกิจโครงการสำคัญหลายๆโครงการพวกพี่ก็เป็นคนคัดเลือกพี่สามไม่ได้ไปเรียนต่างประเทศแต่ก็ยังเรียนในมหาวิทยาลัยที่โด่งดังภายในประเทศเมื่อเรียนจบก็ได้ใช้ความสัมพันธ์ของครอบครัวเราไต่ขึ้นไปเป็นดารานักแสดงส่วนพี่สี่เข้มงวดน้อยหน่อยหลังจากเรียนจบก็ได้เข้าเป็นอาจารย์สอนเป็นนักประพันธ์อยู่ภายในองค์กรถึงจะแก่ตัวลงก็ยังมีเงินเดือนแล้วฉันละ?ตอนฉัน8เดือนยังไม่ทันได้อย่านมก็ถูกย้ายไปเลี้ยงดูอยู่บนภูเขาจงชุ่ย….คุณย่าสงสารฉันเลยไปอยู่เป็นเพื่อนฉันหลายปีฉันไม่เคยได้ไปเรียนอย่าว่าแต่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเลยหลายปีมานี้…..ฉันใช้ชีวิตอยู่แต่บ้านไม่ไปไหนไม่ทำอะไรราวกับแม่ชีแต่พวกพี่กลับมาพูดว่าฉันไม่ให้ทางรอดแก่พวกพี่?ฉันขอถามหน่อยเถอะ….ใครกันแน่ที่ไม่ให้ทางรอด?”ในตอนที่หวาเหวินพูดประโยคนี้ก็ได้แสดงอารมณ์โกรธเคืองออกไปจนเกือบจะทำลายโต๊ะไปแล้ว

ทุกคนณที่นี่ต่างก็ตะลึงตาค้างไป…….

ใครๆก็ต่างคิดไม่ถึงว่าน้องห้าที่ปกติจะดูอ่อนโยนและอ่อนแอคนนี้ในตอนนี้จะกล้าพูดจาก้าวร้าวขนาดนี้ได้?แม้กระทั้งหวาฟ้านและหวาผิงก็ตื่นตกใจไม่น้อย

หวาฟ้านมองไปทางหวาเหวินอย่างไม่อยากจะเชื่อ

ชุนเถาและหยินซิ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังของคุณหนูรู้สึกสบายใจอยู่ภายในใจ………

กำลังคิดอยู่ภายในใจคุณหนูของพวกเราไม่เคยแสดงอำนาจมาก่อนพวกเธอยกให้เธอเป็นแมวป่วยมาตลอด?

เมื่อพูดจบคุณนายหวาได้ยินก็รู้สึกไม่สบายใจก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ดคราบน้ำตา

“เหวินเหวินหลายปีมานีแม่และพ่อของลูกขอโทษลูกจากใจจริง….ลูกอย่าไปโทษพี่ๆเขาเลยนะพี่ๆเขาก็รู้สึกลำบากใจไม่ต่างกัน….ย่าของลูกลำเอียงต่อลูกทุกคนล้วนรู้เรื่องนี้ดีแต่…..หลายปีมานี้ความจริงแล้วพวกเธอก็ทำอะไรๆหลายๆอย่างให้นายหญิงหวาไม่น้อยมาถึงตอนนี้จะไม่คิดแบ่งให้แก่พี่ๆของลูกเรื่องนี้….พูดไปก็ละอายใจ….เหวินเหวินลูกเห็นแก่หน้าแม่หน่อยได้ไหมเรามาคุยกันดีๆถึงอย่างไรก็เป็นคนในครอบครัวไม่ใช่เหรอ?”

ถึงแม้ว่าคุณนายหวาจะพูดจาไพเราะแค่ไหนก็ตามแต่…..สุดท้ายก็ยังลลำเอียงเข้าข้างพี่ๆคนอื่นอยู่ดี

เห็นชัดๆว่าต้องให้หวาเหวินแบ่งสมบัติเหล่านี้ให้กับทุกคน

ความจริงแล้วหวาเหวินไม่ได้สนใจสมบัติเหล่านี้หรอกไม่ได้ต้องการเงินของคุณย่าเธอก็ปฏิบิติตัวดีมาตลอด

เธอแทบกลืนน้ำลายไม่ลง…..

มีสิทธิ์อะไรกัน?

ไม่ทันรอให้หวาเหวินพูดแต่อย่างใดเจียงหยู่ก็ประคองหวาเหวินขึ้นมาก่อนยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า“ในเมื่อทุกคนคือครอบครัวเดียวกันผมขอพูดแนวคิดของผมหน่อยละกันนะครับ…..ผมขอถามสักเล็กน้อยสินสอดที่ผมให้กับเหวินเหวิน….เหวินเหวินได้เอาไปกี่ส่วนครับ?”

คำถามนี้ทุกคนถึงกับพูดไม่ออก

นอกจากเงินทุนช่วยเหลือสนับสนุน500ล้านแล้วเจียงหยู่ก็ยังให้ค่าสินสอดไปเพิ่มอีกด้วยว่ากันว่าเมอร์เซเดส-เบนซ์Eได้ถึง10คันทีเดียวนอกจากนี้ก็ยังมีตึกเทียนซี๋อีกว่า5000ไร่

แล้วก็ยังมีภาพวาดที่มีชื่อเสียงและนาฬิกาข้อมือบางยี่ห้อมีถึงสองสามกล่องแต่ของเหล่านี้หวาเหวินกลับไม่ได้รับอะไรเลย

“สินสอดเหวินเหวินไม่ได้รับก็ไม่เป็นไรถือว่าให้คุณพ่อกับคุณแม่ไปก็แล้วกันถึงอย่างไรถ้าไม่มีพวกท่านก็ไม่มีเหวินเหวิน….ผมคิดว่าสิ่งของที่คุณย่าเหลือไว้ให้หวินเหวินคงจะเอาไว้ให้คิดถึงมากกว่าหากพวกคุณทำเธอลำบากใจสามีอย่างผมก็คงจะเจ็บปวดใจมากไม่น้อยเช่นกัน”

หวาเหินมองไปทางเจียงหยู่ด้วยความไม่น่าเชื่อเธอไม่คิดมาก่อนว่าเขาจะพูดและสู้กับตระกูลหวาเหวินเพื่อเธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท