ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 86

ตอนที่ 86

ตอนที่86แบล็กเมล์มืออาชีพ

เดิมทีคิดว่าหวาเหวินจะปฏิเสธถึงอย่างไรเธอก็กินข้าวดึกมากอยู่แล้ว

แต่ไหนจะรู้ว่าเธอกลับชี้ไปทางร้านเล็กริมถนน“ไปกินที่นั่นเถอะ”

เมื่อเจียงหยู่ได้ยินก็ขับรถออกไปช้าๆก่อนที่รถโรลส์-รอยซ์มาจอดอยู่ริมถนน

ทั้งสองคนลงจากรถแล้วตรงเข้าไปยังร้านเล็กๆที่หวาเหวินชี้นั้นทันที

มันเป็นร้านบะหมี่เกี๊ยวเล็กๆแห่งหนึ่งถึงมันจะเล็กแต่ก็สะอาดมากทีเดียว

“ทั้งสองคนรับอะไรดีละ?”

เถ้าแก่เป็นหญิงสาววัยกลางคนอายุราวๆ40กว่าๆใบหน้ายิ้มแย้มดูสะดุดตามาก

หวาเหวินมองไปทางเมนูแล้วก็ชี้ๆ“ฉันเอาบะหมี่เกี๊ยวยัดไส้กำหล่ำ”

“ได้จ๊ะ”

“ผมเอาเกี๊ยวปลา1ที่ครับ”เจียงหยู่พูด

ในร้านblackRoseclubเมื่อกี้นี้พวกเขาทั้งสองยังกินกันไม่อิ่มเท่าไหร่นักเพราะสถานที่แห่งนั้นไม่เหมาะที่จะนั่งกินข้าวนอกจากร้องเพลงแล้วก็เต้นรำ

ทั้งสองคนนั่งลงตรงข้ามกันเจียงหยู่ค้นพบว่ามีหลายครั้งที่หวาเหวินนั้นเงียบมาก

ไม่ว่าจะกินข้าวก็ล้วนไม่มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาดูสุภาพมีมารยาทมากจริงๆ

ไม่เหมือนกับผู้หญิงสมัยนี้กลับคล้ายคลึงกับธิดาในสมัยโบราณมากกว่าอีก

“เธอระมัดระวังตัวขนาดนี้ฉันละสงสัยจริงๆว่าเธอข้ามเวลามาจากสมัยโบราณรึเปล่า?”

หวาเหวินอึ้งงันไปจากนั้นก็ยิ้มน้อยๆออกมา

“ยิ้มอะไร?”

“สมองใหญ่ๆของนายน่าจะเหมาะกับเขียนนิยายมากกว่าไม่เหมาะที่จะเป็นประธาน”หวาเหวินก้มหน้าลง

ทั้งสองคนต่างพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องสัพเพเหระทั่วไปหวาเหวินนั้นค่อนข้างพูดน้อยโดยทั่วไปแล้วไม่ว่าเจียงหยู่จะถามอะไรเธอก็มักจะตอบอย่างนั้น

แต่ก็ก้าวไกลมากกว่าเมื่อก่อนอย่างน้อยตอนนี้เธอก็ยิ้มได้

ทั้งสองคนไม่ได้กลายเป็นคนแปลกหน้าขนาดนั้น

สิ่งที่พวกขาไม่รู้ก็คือในช่วงเวลานี้โพสต์เพื่อแบล็กเมล์ของหวาเหวินอย่างมืดฟ้ามัวดินได้เริ่มปรากฏออกมาแล้ว

ในช่วงแรกสุดก็เป็นชื่อเสียงของคุณนายของคุณชายตระกูลเจียงรอบหนึ่งแล้วเป็นข้อมูลแบล็กเมล์ที่ไม่ทราบที่มาที่ไป

ถูกคนที่มีเจตนาร้ายปล่อยออกไประดับความร้อนแรงก็แผ่ขยายออกไปอย่างช้าๆและยังเป็นที่นิยมในการค้นหาอีกด้วย

คนที่เห็นก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

เนื้อหาในนั้นเขียนประมาณว่าก่อนหน้านั้นคุณนายของคุณชายเจียงได้มีความสัมพันธ์แบบส่วนตัวกับคุณชายตระกูลแซ่ต่อมาเป็นเพราะทั้งสองตระกูลเกิดขัดสนเรื่องผลประโยชน์แซ่จื๋อจ้วนจึงได้ปฏิเสธการแต่งงานตระกูลหวาไม่ยอมเสียหน้าเลยไปคว้าเอาตระกูลเจียงมาเป็นตัวสำรองแล้วก็ยังขอสินสอดทองหมั้นจากตระกูลเจียงอีก500ล้านเท่ากับเป็นการขายลูกสาวกินพูดแล้วยากที่จะรับได้คนที่เขียนโพสต์นี้ก็ฉลาดมากทีเดียว

บทความนี้ได้สร้างความปั่นป่วนโกลาหลให้กับโลกโซเชียลไม่น้อย………

จนกระทั่งเพื่อนชาวเน็ตที่ไม่รู้ความจริงชัดเจนต่างก็ถูกชักจูงจนตั้งต้นเป็นทีมขึ้นมาแบล็กลิตส์หวาเหวิน

หวาผิงเห็นข่าวเป็นคนแรกสุดเพราะเธอเป็นดาราย่อมมีความสัมพันธ์กับสื่อมวลชนมากอยู่แล้ว

หลังจากที่หวาผิงได้ยินเรื่องนี้จากผู้ช่วยก็รีบเข้าไปเปิดอ่านโพสต์นี้จากในWeiboจนถึงขั้นสำลักออกมาทันที

ด้านล่างยังมีคำวิพากวิจารณ์จากชาวเน็ตไม่น้อยอีกด้วย

ชาวเน็ตคนที่1:ตระกูลหวาจนมากจริงๆนะสิถึงกับขายลูกสาวด้วยเงินจำนวน500ล้านลูกสาวนางเลี่ยมด้วยทองรึยังไง?

ชาวเน็ตคนที่2:ก่อนหน้านั้นผู้หญิงคนนั้นก็เคยหลับนอนกับแซ่จื๋อจ้วนมาก่อนไม่ใช่เหรอ?ไม่รู้ว่าจะบริสุทธิ์รึเหล่า?อย่างนี้คุณชายเจียงก็เก็บรองเท้าที่เคยใส่แล้วขึ้นมาใช้ร่วมกันนะสิ?

ชาวเน็ตคนที่3:คุณหนูห้าของตระกูลหวานั้นก็สวยนะถ้าฉันเป็นเจียงหยู่ฉันก็ยอมทุกคนล้วนชอบของสวยๆงามๆอยู่แล้ว

ชาวเน็ตคนที่4:ไม่เห็นว่าหวาเหวินจะสวยตรงไหนเลยคนที่สวยที่สุดในตระกูลหว่าคือหวาผิงต่างหากเป็นราชินีที่ทรงพลังหวาเหวินเหมือนกับซาลาเปาลูกหนึ่งมันน่าคับอกคับใจจริงๆ

ชาวเน็ตคนที่5:แตงลูกนี้อร่อยจริงๆพวกเธอกล้าล่วงเกินตระกูลสูงส่งไม่กลัวว่าถึงตอนนั้นเขาจะทำการตรวจเอาเหรอ?

เมื่อหวาผิงอ่านจบก็อยากตายเสียให้ได้จากนั้นก็โยนโทรศัพท์ไปไว้ด้านข้าง

“สื่อไหนเป็นคนเขียนทำลายชื่อเสียงของน้องห้าทำลายชื่อเสียงของตระกูลหวาฉันจะอัดมันให้ตายเลย”

“เธออย่าเพิ่งโมโหไปมันไม่ใช่ฝีมือสื่อนี่เป็นสมาชิกคนหนึ่งในWeiboแต่ก็เห็นได้ชัดว่ายอมเสียเงินเพื่อซื้อความร้อนแรงและกระแสทางอินเทอร์เน็ต…..พวกเราสงสัยว่าจะมีคนตั้งใจแบล็กเมล์คุณหนูห้าไม่รู้ว่าคุณหนูห้าไปล่วงเกินใครเขาไว้?”

“คนอย่างน้องห้า…..ไม่ค่อยเหมือนว่าจะสามารถล่วงเกินใครได้?หรือว่า……แซ่จื๋อจ้วน?”หวาผิงคิดถึงแค่เพียงแซ่จื๋อจ้วนคนเดียว

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท