ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 73

ตอนที่ 73

ตอนที่73ทุกคนตาร้อน

เมื่อทนายโกพูดเรื่องนี้จบสายตาของคนเหล่านั้นต่างร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด

ไม่เพียงแต่พี่น้องของตระกูลหวาเหล่านั้นรวมทั้งคุณนายหวาและคุณผู้ชายหวาต่างก็อึ้งงันไป

พินัยกรรมของนายหญิงนั้นเป็นความลับหากนายหญิงยังไม่ตายก็ไม่มีใครรู้ว่าในนั้นเขียนไว้ว่าอย่างไร?

รวมทั้งหวาเหวินด้วยเธอเองก็ไม่รู้ว่าทำไมคุณย่าถึงจัดสรรไว้แบบนี้?

ตอนนี้ตระกูลหวาไม่โชติช่วงเหมือนเมื่อก่อนของที่อยู่ในมือของนายหญิงแท้จริงแล้วไม่น้อยเลย

เมื่ออ่านมาแบบนี้ก็ยากจะเลี่ยงความตื่นตกใจของทุกคน…….

หวาหรุงอิจฉาริษยาอย่างมากเธอไม่ยอม“ฉันไม่ยอม…..มันอะไรกัน?ทำไมไม่ได้แม้แต่น้ำสักถ้วย?ฉันเองก็เคยดูแลปรนนิบัติคุณย่าเหมือนกัน…..จัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดต่างๆนานาฉันให้ทั้งซองแดงทั้งของขวัญไปไม่น้อยทำไมพอตายไปถึงยกสมบัติเหล่านี้ให้น้องห้า?หรือว่าเราเป็นแม่เลี้ยงเหรอ?”

หวาหรุงพูดขึ้นทุกคนต่างก็มองไปหวาเหวินด้วยสายตาลึกซึ้ง

ความจริงแล้วผลลัพธ์นี้ไม่เหนือความคาดหมายของหวาเหวินนัก

นายหญิงเป็นคนลำเอียงมาตั้งแต่ไหนแต่ไรเมื่อจากไปเธอจึงทิ้งของเล็กๆน้อยให้แก่หลานสาวสุดรักโดยไร้ความเห็นใดๆ

เจ็บปวดใจก็เจ็บปวดใจอยู่หรอกแต่ของนี่มันไม่มากเกินไปเหรอ?

ตอนนี้ขนาดพี่ใหญ่หวาซวงยังอดกลั้นอารมณ์ไว้ไม่อยู่เลย“บ้านบนภูเขาจงชุ่ยมือมูลค่าเป็นสิบล้านวิลล่าเฟิงหวาหลี่ที่น้องห้าอยู่ก็คำนวณราคาไม่ได้แล้วรถเบนท์ลีย์สีดำของคุณย่าคันนั้นถ้าขายก็ได้อย่างน้อย2.2ล้านเครื่องเพชรมีมูลค่าอย่างน้อย5ล้านบวกกับเงินทุนและหุ้นส่วนในเครือตระกูลหวา…..รวมๆกันแล้วก็เกินกว่าร้อยล้านทีเดียวตอนนี้ครอบครัวเราไม่ได้เฟื่องฟูเหมือนเมื่อก่อนเงินกว่าร้อยล้านนี้ก็ไม่ได้น้อยเลย…..แต่คุณย่ากลับยกทั้งหมดนี้ให้น้องห้า…….มันหักหามน้ำใจคนอื่นที่เหลือ4คนเกินไป”

คุณหนายหวาและคุณชายหวาทั้งสองคนต่างมองหน้ากันโดยไม่รู้ว่าจะพูดว่ายังไงดี?

สามีของหวาซวงจางเด๋อข่ายเองก็คล้อยตามภรรยาของเขาและตั้งใจพูดดังเสียงอย่างจริงจัง“ใช่นายหญิงทำแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลย…..ในเมื่อจากไปแล้วคนที่ใหญ่ที่สุดในบ้านก็คือคุณพ่อแล้วครับ?คุณพ่อและคุณแม่ต้องเป็นธรรมนะครับสมบัติเหล่านี้ต้องกระจายกันมาแก้ไขกันให้จบๆในวันนี้เลยไม่สามารถยกทั้งหมดให้น้องห้าได้นะครับ?อีกอย่าง……ตอนนี้น้องห้าก็เป็นภรรยาของตระกูลเจียงแล้วไม่ขัดสนเรื่องเงินทองอย่างแน่นอนใช่ไหมครับ?”

หวาเหวินทำได้เพียงแค่นั่งฟังอยู่เงียบๆไม่คิดจะพูดแทรกขึ้นแต่อย่างใด

เจียงหยู่ก็เข้าใจว่าคนเหล่านี้ล้วนหน้าเลือดกันทั้งนั้น

ตอนนายหญิงแก่ตายไปไม่เห็นจะร้องไห้กันสักคนพอตอนแบ่งมรดกทำเป็นฉลาดหลักแหลมกันขึ้นมาเชียว

ทุกคนต่างมองมาทางหวาเหวินด้วยความอิจฉาตาร้อนกันทั้งนั้น

ทำมาเป็นการใช้คำพูดสวยหรูเอาในตอนนี้คงจะเป็นมะนาวที่สุกงอมเอาแล้วละ

มะนาวที่เปรี้ยวไม่เท่าไหร่หรอกที่เก่งสุดก็น่าจะเป็นการแต่งงานของทั้งสองคน

หวาซวงและหวาหรุงทั้งสองคนต่างก็มีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้วไม่ถือว่าเป็นคนของตระกูลหวาแล้วแต่ก็ยังมีความเห็นแก่ตัวอยู่มากทีเดียว

ตรงกันข้ามกับหวาผิงที่เป็นดารานักแสดงเงินไม่ขาดมือไม่แคร์ว่าคุณย่าจะยกสมบัติให้ใคร?

ส่วนหวาฟ้านก็เป็นถึงนักประพันธ์จิตใจงดงามเข้ากระดูกดำและไม่ได้ละโมบโลภมากกับสมบัติเหล่านี้เงินที่ใช้ในชีวิตประจำวันก็เพียงพอแล้ว

ดังนั้นคนที่น่าจะกระโดดวิ่งแจ้นที่สุดก็น่าจะเป็นพี่ใหญ่กับพี่รอง

หวาเจิ้นเยว่มองไปทางบรรดาลูกสาวจากนั้นก็มองไปทางหวาเหวินอีกครั้ง

“เหวินเหวินเรื่องนี้ลูกจะว่าไง?”

เยี่ยมพ่อแท้ๆกลับโยนหายนะมาให้แก่ลูกสาวคนเล็ก

ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้รู้สึกลำบากใจใช่ไหมเนี่ย?เขาไม่อยากผิดใจจึงถามหวาเหวินไปตรงๆ

ถ้าหวาเหวินพูดออกไปจะไม่เป็นการผิดใจต่อพี่สาวทั้งสี่คนเหรอ?

ถ้าไม่พูดแล้วเอาแต่ยืนมองสมบัติที่คุณย่าเหลือทิ้งไว้ให้ถูกยกให้กับคนอื่นอย่างนั้นเหรอ?

เจียงหยู่มองไปทางหวาเหวินด้วยความรู้สึกเจ็บปวดกับเด็กน้อยคนนี้ในชั่วพริบตาเดียว
“ทนายโกคนก็มาพร้อมหน้าแล้วคุณชี้แจงเถอะ”หวาเจิ้นเยว่กล่าวนำ

“ครับทุกท่านผมขอชี้แจงพินัยกรรมตามประสงค์ของนายหญิงแก่ตระกูลหวาให้ทุกคนได้ทราบนะครับเมื่อ3ปีก่อนนายหญิงหวาและก็เป็นคุณผู้หญิงของโจวยู่หลานขอร้องให้ผมเขียนพินัยกรรมชุดนี้ขึ้นมาในพินัยกรรมระบุไว้อย่างชัดเจนทั้งบ้านบนภูเขาจงชุ่ยวิลล่าเฟิงหวาหลี่รถเบนท์ลีย์ในนามของเธอ1คันเครื่องเพชรที่ฝากไว้ในธนาคาร2ชุดแล้วก็เงินและหุ้นส่วนของเธอ……ขอยกมรดกทั้งหมดนี้ให้แก่คุณหนูคนที่5ของตระกูลหวา——หวาเหวิน”

เมื่อพูดจบสายตาของทุกคนต่างก็จับจ้องไปทางหวาเหวินทันที

สายตาพิฆาตของแต่ละคนนี้ทำให้เจียงหยู่สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกขึ้นมา

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท