ตอนที่ 95 โดนกอดตรงกำแพงเข้าแล้ว
ผู้เฒ่าคนนั้นเกิดความกังวลใจจนไม่มีกระจิตกระใจจะเปิดท้ายขายของต่อ เขารีบเก็บข้าวของเดินจากไป แต่พอมาถึงริมถนนได้ไม่นาน ก็เห็นรถมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งขับเข้ามา
สุดท้ายก็ชนเขาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวทันที……….
“แย่แล้ว เกิดอุบัติเหตุรถชน มีคนตายด้วย” เสียงของใครคนหนึ่งในตลาดได้ตะโกนออกมา กลุ่มคนเหล่านั้นต่างก็ห้อมล้อมกันเข้าไปดู
ชุนเถาและหวาเหวินก็เดินออกมาพอดี เมื่อกวาดมองออกไปยังผู้เฒ่าที่อยู่บนพื้น ใบหน้าก็ซีดเผือดไร้เลือดฝาดในทันที
“คุณหนู ทั้งหมดที่คุณหนูทำนายแม่นยำมากจริง ๆ คะ” ชุนเถากระซิบข้างหูของหวาเหวินเบาๆ
หวาเหวินกลับแสดงสีหน้าเรียบเฉย แล้วพูดออกไปว่า “นี่คือชะตากรรม ชีวิตของเขาไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง ถูกกำหนดให้กลายเป็นคนจน ถ้าใช้ชีวิตอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวในช่วงชีวิตที่แสนลำบากข่มขื่นได้ ตลอดชั่วชีวิตของเขาก็จะแคล้วคลาดปลอดภัย แต่เขาหลับเลือกที่จะทำการค้าขายอย่างฉ้อโกง ดังนั้นจึงทำให้อายุขัยสั้นลงโทษใครไม่ได้”
หวาเหวินเดินเล่นอย่างมือเปล่า แถมยังต้องมาพบเจอกับอุบัติเหตุทางรถยนต์อีก เธอจึงไม่มีกระจิตกระใจจะซื้อของอีกแต่อย่างใด
หลังจากที่ขึ้นรถแล้ว ชุนเถาก็ขับตรงไปยังเฟิงหวาหลี่ทันที
หวาเหวินนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบ ๆ
เธอมีความสามารถอย่างหนึ่งมาตั้งแต่เด็ก ๆ แม้แต่คุณย่าเองก็ไม่รู้
นั้นก็คือการทำนายโชคชะตา ไม่ต้องใช้ช่วงเวลาตกฟากของวัน เดือน ปีและเวลาเกิดแต่อย่างใด เพียงแค่มอง หรือเพียงแค่เสี่ยงเซียมซี เธอก็สามารถทำนายดวงชะตาในช่วงเวลาอันสั้นได้แล้ว
เธอมีกระบอกเซียมซีอยู่หนึ่งกระบอก เป็นของที่มองไม่เห็น แม้แต่คนอื่นก็มองไม่เห็น
มีเพียงหวาเหวินเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ ตอนเธออายุได้ 10 ขวบเธอได้ตามคุณย่าขึ้นไปไหว้พระบนเขาอู่ไถ และก็ได้พบเจอกับนักบวชคนหนึ่ง
ตอนนั้นเธอยังไม่รู้ความ แต่แล้วต่อมาเธอก็ได้เข้าใจ ว่าของสิ่งนี้สามารถดูดวงได้
ไม้เซียมซีของผู้เฒ่าคนนั้นเมื่อสักครู่ก็คือหมายเลข 79 ซึ่งเมื่อเซียมซีออกมาแล้ว
ผู้เฒ่าคนนั้นกลับมองไม่เห็นแม้แต่ตัวอักษร ชุนเถาเองก็มองไม่เห็น แต่หวาเหวินกลับมองเห็นได้อย่างชัดเจน
บนนั้นมีตัวอักษรจารึกไว้อย่างชัดเจน —— ไว้ 4 ประโยค
ชั่วชีวิตไร้ซึ่งความสุขสม ทุกข์ระทมข้นแค้นน้ำตานอง คอยแต่หวังวาสนาสุขสมปอง ไม่ทันมองต้องมาตายสิ้นชีวา
ในตอนนั้นหวาเหวินก็ชี้ชะตาได้ว่าคนๆนี้ไม่มีทางร่ำรวยเงินทองได้ เขาจะไม่มีทางได้เสพสุขตลอดชั่วชีวิตของเขา
ดังนั้นเงินจำนวน 9200 หยวนที่เขาหลอกลวงมาจากเจ้าอ้วนคนนั้นเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบเดือน
แต่ยังไม่ทันเดินพ้นตลาด เขาก็ถูกมอเตอร์ไซค์ชนเข้าอย่างจัง
ไม่ต้องถามก็รู้ ว่ายังไงก็ไม่รอด
ในตอนที่หวาเหวินใช้ชีวิตอยู่บนภูเขาจงชุ่ยเมื่อก่อนนั้น เธอเองก็ไม่ได้ทำนายชะตาเท่าไหร่นัก
เธอค่อนข้างกลัว ถึงอย่างไรของสิ่งนี้ก็เป็นของทางไสยศาสตร์ กลัวจะทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน
ต่อมา 3 วันก่อนที่คุณย่าจะเสียชีวิตลง เธอได้ทำนายชะตาว่าจะโชคดีหรือโชคร้ายครั้งหนึ่ง ผลลัพธ์ที่ออกมากลับกลายเป็นลางร้าย
คุณย่าที่เตรียมใจมาแล้วก็ถึงคราวสิ้นอายุขัยลง……
แล้ววันนี้มันก็มีจุดกำเนิดมาจากผู้เฒ่าคนนี้ จึงได้ลองทำนายสักครั้ง
เรื่องเหล่านี้ ชุนเถาและหยินซิ่งเองก็รู้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่กลับไม่รู้ว่าคุณหนูนั้นจะเก่งมากมายขนาดนี้
หลังจากที่กลับมาถึงเฟิงหวาหลี่ในเวลากลางคืน หวาเหวินก็เอาแต่อ่านหนังสือ เธอรู้สึกกระหายน้ำ จึงเตรียมจะลงไปเทน้ำดื่มข้างล่าง
ชุนเถากำลังวุ่นวายกับการทำความสะอาด ส่วนหยินซิ่งก็กำลังอุ่นสตูอยู่ในครัว
เมื่อเจียงหยู่กลับมาถึง ก็เห็นแค่เพียงหวาเหวินที่กำลังนั่งจิบชาดอกไม้อยู่ภายในห้องรับแขก
เขาถอดเสื้อนอกออก “เหวินเหวิน เธอยังไม่นอนเหรอ?”
“ยังคะ”
“วันนี้ออกไปข้างนอกมาเหรอ? เห็นเธอมัดผมอย่างเรียบร้อยเป็นพิเศษ” เขาเงยหน้าขึ้น แล้วมองไปทางเธออย่างลึกซึ้ง
“ค่ะ ออกไปรอบหนึ่ง ไปร้านน้ำชากับพี่สี่มา”
“ครั้งต่อไปถ้าจะไปร้านน้ำชาบอกฉันด้วยสิ ฉันเองก็ชอบ” เขายิ้ม และตั้งใจจะหยอกเย้าเธอ
แต่เธอกลับไม่สนใจ แล้วก้มหน้าลงอ่านหนังสือต่อ
เจียงหยู่ยื่นหน้าเข้าไปหาอย่างไม่ละอายใจ จนเข้าใกล้เธอ
ไม่นานหวาเหวินก็ได้กลิ่นเหล้าอย่างแสบจมูกมากคละคลุ้งออกมา
“นายดื่มเหล้ามาเหรอ?” เธอขมวดคิ้ว
“อื้อ ไปดื่มเป็นเพื่อนลูกค้า” เขาตอบกลับอย่างซื่อตรง
หวาเหวินไม่ชอบกลิ่นเหล้า ดังนั้นเธอจึงยืนขึ้นอย่างรังเกียจ
แต่หลังจากที่เดินไปไม่กี่ก้าว ก็ถูกเจียงหยู่เรียกดักไว้
“เหวินเหวิน”
เธอหันกลับมาอย่างไม่ใส่ใจ แล้วก็เห็นว่าผู้ชายคนนี้กำลังเดินเข้ามา
บรรยากาศรอบตัวเริ่มกดดันลง หวาเหวินพิงกำแพงที่อยู่ด้านหลังโดยไม่รู้ตัว
จากนั้นเจียงหยู่ก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นมายันกำแพงไว้ กั้นทางเดินของเธอไว้
นี่……..เท่ากับว่าเธอเองกำลังถูกกอดอยู่ตรงผนังนะสิ?