ตอนที่78ของขวัญขอบคุณ
เจียงหยู่:แม่ฉันไปบ้านเราแล้วใช่ไหม?
เจียงหยู่เป็นคนที่ฉลาดมากพูดได้ว่ามีความรู้มากทีเดียว
คำว่าเราถูกดึงเข้ามาในความรู้สึกที่ไม่สนิทใจระหว่างเขาและหวาเหวิน
หวาเหวิน:อื้อคุณแม่เพิ่งไป
เจียงหยู่:แม่มาทำอะไรทำให้เธอลำบากใจรึเปล่า?
หวาเหวิน:แม่นายเองทำไมนายไม่รู้อะไรเลยละ?
เอาะเถอะหลายวันมานี้เธอเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีกับนายแซ่เจียงคนนี้มาตลอดแล้วยังคงหยอกเย้าอย่างไม่น่าเชื่ออีกด้วย
เจียงหยู่แสยะยิ้มออกมา
เจียงหยู่:แม่ฉันไปพูดเรื่องให้เธอมีลูกอะไรด้วยไหม?
หวาเหวิน:ไม่เลยพูดเรื่องนี้มันเร็วเกินไปพวกเราเพิ่งจะแต่งงานกันกี่วันเอง?จะว่าไปแล้วพวกเราก็ไม่ได้แต่งกันจริงๆสักหน่อย
เจียงหยู่:เรื่องโกหกสุดท้ายอาจจะกลายเป็นจริงในอนาคตก็ได้ละครทีวีมากมายก็มีให้เห็นตั้งเยอะแยะ
หวาเหวิน:นายดูละครเยอะเกินแล้ว
เจียงหยู่:แม่ฉันก็ยังดีฉันรู้สึกว่าแม่ไม่เหมือนกับคนที่สามารถทำให้ลูกสะใภ้ลำบากใจได้เลยแต่ถ้าแม่รังแกเธอเธอบอกฉันนะ
หวาเหวิน:ทำไม?นายจะมาช่วยฉันสู้กับแม่นายเหรอ?
เจียงหยู่:ไม่เธอแค่บอกฉันฉันจะสามารถโต้กลับแม่ของฉันอยู่เบื้องหลังเธอได้
เมื่อหวาเหวินเห็นประโยคนี้ก็หลุดขำออกมาอย่างมีความสุข
ไม่ไกลนักชุนเถาและหยินซิ่นมองตากันด้วยรอยยิ้มหลังจากที่คุณหนูแต่งงานไปไม่สิต้องพูดว่าหลังจากที่คุณหนูแต่งงานกับคุณผู้ชาย
ดูเหมือนเธอจะยิ้มมากขึ้นเรื่อยๆ
หวาเหวินก็คิดไม่ถึงว่าเจียงหยู่ผู้สืบทอดตระกูลที่มีอิทธิพลฐานะสูงส่งเป็นคนที่สามารถพลิกผันสถานการณ์ได้เก่งกาจขนาดนี้
ถึงแม้ว่าในมุมส่วนตัวจะเป็นคนที่ขี้แซวชอบพูดแต่ความแตกต่างนี้ช่าง……ทำให้คนยากจะพรรณนาออกมาได้
หวาเหวิน:จริงๆแล้วแม่มาเยี่ยมฉันได้ยินมาว่าช่วงนี้ฉันสุขภาพไม่ค่อยดีเลยเอาของบำรุงมาให้ไม่น้อยเลยของแพงๆทั้งนั้นด้วย
เจียงหยู่:ไม่เป็นไรเธอมีเงินเธอเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น
หวาเหวิน:ก็ได้คุณชายเจียงนายรับต่อต้านแม่นายเป็นอาชีพอย่างนั้นเหรอ?
เจียงหยู่:เอาเถอะคุณย่าคุณชายเจียงฉันใส่ร้ายแม่ฉันเพื่อเธอดังนั้นเธอต้องให้รางวัลฉันสักหน่อยแล้ว?ตัวอย่างเช่นจูบสักครั้งอะไรงี้…..
ความจริงแล้วเจียงหยู่นั้นเป็นคนที่ชอบแกล้งมากเพราะจากที่เขาสังเกตการณ์ในหลายวันมานี้หวาเหวินเป็นคนที่ไม่ค่อยทันคนเท่าไหร่นัก
หากคิดจะเข้าใกล้เธอเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ตีสนิทเธอคาดกว่าคงจะยากมาก
เมื่อเห็นประโยคนี้แก้มของหวาเหวินก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเธอยังไม่คุ้นเคยกับอะไรเหล่านี้
พูดได้ว่าเธอเป็นคนที่ไม่เคยมีความรักกับใครมาก่อนพอแต่งงานแล้วกลายเป็นเป็นภรรยาสถานะใหม่นี้เธอก็ยังปรับตัวไม่ได้มากมายเท่าไหร่
ประโยคพูดจาแทะโลมของเจียงหยู่เธอจึงไม่ตอบกลับไปแต่อย่างใด
เวลา18.30น.
เจียงหยู่เลิกงานกลับมาถึงบ้านก็เห็นหวาเหวินนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องอาหาร
“คุณผู้ชายกลับมาพอดีเลยคุณหนูกำลังรอทานข้าวอยู่คะ”
“เธอบอกว่าจะไม่กินอะไรตั้งแต่บ่ายแล้วนิ?”เจียงหยู่เกินความคาดหมาย
เพราะเขาแทบจะไม่เคยเห็นหวาเหวินกินอาหารตอน6โมงเย็นมาก่อน
หยินซิ่นแลบลิ้นออกมาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงต่ำๆว่า“คุณผู้ชายคุณหนูของพวกเราเข้าครัวด้วยตัวเองเลยนะคะทำมื้อค่ำให้คุณผู้ชายทานบอกว่าจะทานข้าวกับคุณผู้ชายด้วย”
“ทำไมดีขนาดนั้น…..ไม่ได้แกล้งใช่ไหม?”ประโยคนี้เจียงหยู่พึมพำกับตัวเองในใจ
ความสุขที่พลันปรากฏขึ้นมาเขาไม่คุ้นเคยเลยจริงๆ
เจียงหยู่ถอดเสื้อนอกออกล้างมือจากนั้นก็เดินมายังห้องอาหาร
บนโต๊ะมีอาหารจัดวางอยู่6อย่าง
มองดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วก็ไม่เลวเลยทีเดียวกลิ่นยังดึงดูดให้น่าลิ้มลองไม่น้อยอีกด้วย
เขามองไปทางหวาเหวินวันนี้หวาเหวินสวมใส่เสื้อเชิ้ตแบบง่ายๆสีขาวสไตล์วินเทจแขนระบาย
ดูสไตล์ชาววังหน่อยๆดูโกงอายุไปได้มากทีเดียวพูดได้ว่าดูไม่เหมือนกับเด็กมัธยมเลยสักนิดเดียว
“หยินซื่นบอกว่าเธอทำมื้อค่ำเอง…..ให้ฉัน?”เจียงหยู่ยังไม่อยากเชื่อ