ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 100

ตอนที่ 100

ตอนที่ 100 ฉันสายแล้ว

หลังจากที่มีความคิดนี้ เธอก็รีบสลัดออกในทันที

เธอต้องควบคุมตัวเองให้นิ่งเข้าไว้ เพราะหลังจากสามปี เธอก็ต้องออกจากตระกูลเจียงแล้ว

ปีนี้เธอเพิ่งจะอายุ 22 ปี อีกสามปีก็จะ 25 ปีแล้ว

ถึงตอนนั้นเมื่อต้องออกจากตระกูลเจียง เธอจะพาชุนเถาและหยินซิ่งไปอยู่ต่างประเทศ

เธออาจจะปักหลักอยู่ที่สวิสเซอร์แลนด์ เพื่อเป็นโยชน์ต่อการทำงานวิจัยสมบัติล่ำค่าที่หาได้ยากเหล่านั้น

แน่นอนว่า เรื่องนี้เป็นเพียงความคิดในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น

ตระกูลเจียงให้การสนับสนุนช่วยเหลือตระกูลหวาเป็นจำนวนเงิน 500 ล้านหยวน เรื่องนี้โด่งดังไปทั่วโลกเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าคุณย่าจะไม่อยู่แล้วก็ตาม แต่เธอก็ไม่สามารถทรยศต่อข้อตกลงได้

ระยะเวลา 3 ปี ถ้าเจียงหยู่ไม่ได้ทำเรื่องที่เป็นการหักหลังต่อคำสัญญา เธอก็ยังเคารพต่อคำสัญญา

แต่…..

ที่เขาลูบผมของตัวเองเมื่อสักครู่มันหมายความว่ายังไง?

ผมของเธอ ไม่ใช่ใครจะมาลูบได้ง่าย ๆ นะ?

หวาเหวินนอนคิดเพ้อเจ้ออยู่นานกว่าจะหลับลงในที่สุด

เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันที่สอง ซึ่งสายมากแล้ว เธอจึงไม่ได้กินข้าวเช้าแต่อย่างใด

ในตอนที่ชุนเถามาส่งเธอที่มหาวิทยาลัยนั้น เธอได้ดื่มนมถั่วเหลืองในรถไปแล้ว 1 แก้ว

นี่เป็นวันที่สองของการเข้าเรียนอย่างเป็นทางการ และต้องไปรายงานตัวกับอาจารย์

เพราะหวาเหวินมาสาย ดังนั้นเมื่อเธอมาถึง อาจารย์ก็ได้เข้าไปพูดคุยกับนักนักศึกษาในห้องเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วันนี้หวาเหวินสวมใส่เสื้อขนสัตว์สีเหลืองแอปริคอทที่ใส่มาเมื่อวานตัวนั้น และกางเกงยีนส์เช่นเดิม

เธอยังคงสวมหมวก และปล่อยผมเช่นเดิมด้วย

เพื่อความโลคลาส เธอจึงถือกระเป๋าผ้าสีข้าวไม่มีโลโก้มาด้วยหนึ่งใบ

หวาเหวินเคาะประตูเบาๆ …..

อาจารย์ชายวัยกลางคนสวมแว่นตาจึงได้หันมา

นักศึกษาทั้งหมดในห้องเรียนก็พากับหันมามองที่ประตูด้วย

“มีอะไร?” ใบหน้าที่เคร่งขรึมของอาจารย์คนนั้น ดูเหมือนจะไม่ใช่คนพูดดีแต่อย่างใด

“สวัสดีค่ะอาจารย์ นักศึกษาใหม่มารายงานตัวค่ะ”

“นี่มันกี่โมงแล้ว? เธอมาสายไป 15 นาทีเต็ม หรือว่าเธอไม่รู้?”

เมื่ออาจารย์ได้ยินว่าเป็นนักเรียนใหม่ที่ต้องการมารายงานตัว อารมณ์ก็ขุ่นเคืองขึ้นมาเล็กน้อย

เขาไม่ชอบนักศึกษาที่ไม่รู้จักกฎกติกา

ระดับชั้นที่หวาเหวินมาถึง ไม่ใช่ชั้นปีที่ 1 แต่อย่างใด

เพราะเธอมีอายุ 22 ปีแล้ว ไม่เหมาะสมที่จะเป็นนักเรียนใหม่ชั้นปีที่หนึ่งแต่อย่างใด

ยิ่งไปกว่านั้นนักศึกษาใหม่ก็ยังไม่ได้เรียนอะไรมากนัก ดังนั้นเจียงหยู่เลยขอคำปรึกษาจากอาจารย์ใหญ่ ตัดสินใจให้เธอมาเรียนสาขาประวัติศาสตร์ในชั้นปีสาม

“ขอโทษด้วยคะ เมื่อคืนฉันนอนไม่ค่อยหลับ เลยทำให้มาสาย” หวาเหวินกล่าวคำขอโทษ

“เธอชื่อว่าอะไร?” อาจารย์ถามขึ้นด้วยใบหน้าอย่าเบื่อหน่าย

ในเวลานี้อาจารย์คนนั้นมองไม่เห็นรูปร่างหน้าตาของหวาเหวินอย่างชัดเจนแต่อย่างใด เพราะเธอใส่หมวก และยังปล่อยผมลงมาปิดคลุมใบหน้าไปกว่าครึ่งอีกด้วย

เหล่านักศึกษาภายในห้องต่างก็มองมา แต่ก็ยังมองไม่เห็นใบหน้าที่ชัดเจนแต่อย่างใด

“เสี่ยวเหวิน”

เธอไม่ต้องการเปิดเผยสถานะ เลยไม่ได้บอกชื่อจริงออกไปแต่อย่างใด

“เสี่ยวเหวิน?” อาจารย์ทวนชื่ออีกครั้ง ด้วยความประหลาดใจ

หลังจากที่ประชุมในตอนเช้าแล้ว อาจารย์ใหญ่ก็ได้ทำการพูดคุยกับอาจารย์ท่านนี้เป็นพิเศษ ว่าวันนี้จะมีนักศึกษาผู้หญิงมาในชั้นเรียนของพวกเขา

เบื้องหลังของนักศึกษาคนนี้ยิ่งใหญ่มาก ห้ามเขาดูแคลนโดยเด็ดขาด

เขาเกือบลืมไป ดังนั้นจึงได้รีบเปลี่ยนน้ำเสียง “อื้อ โอเค เธอเข้ามานั่งได้”

“ขอบคุณค่ะอาจารย์”

หวาเหวินเดินเข้ามาในห้องเรียนอย่างช้า ๆ พร้อมกับมองไปรอบห้องแวบหนึ่ง แล้วก็เห็นว่าในมุมห้องด้านหลังสุดมีที่ว่างอยู่หนึ่งที่พอดี

เธอกำลังเดินไปด้านหลังอย่างช้า ๆ จากนั้นก็วางกระเป๋าลงบนโต๊ะ

“เสี่ยวเหวิน เธอมานั่งข้างหน้าเถอะ ซุนจิ้ง เธอไปนั่งด้านหลังไป”

อาจารย์ท่านั้นก็ให้เปลี่ยนที่นั่งทันที

“อาจารย์ ทำไมละคะ….หนูไม่อยากนั่งข้างหลังนิ” นักศึกษาที่ชื่อว่าซุนจิ้งมีรูปร่างอวบอ้วน ใส่แว่นตา แสดงอาการไม่พอใจออกมาทางสีหน้า

ยังไม่ทันรอให้อาจารย์เอ๋ยปากออกมาแต่อย่างใด หวาเหวินก็รีบพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องหรอกค่ะ อาจารย์ หนูนั่งตรงนี้ก็ได้ สายตาหนูดี มองเห็นได้ปกติค่ะ”

“งั้นก็ได้……งั้นตอนนี้อาจารย์จะขอพูดต่ออีกสักหน่อย”

เมื่ออาจารย์ได้ยินคำพูดนี้จากเธอ ก็ไม่ได้บีบบังคับให้แลกที่แต่อย่างใด

หลังจากที่อาจารย์ได้ทำการพูดคุยเสร็จ ก็เดินออกจากห้องเรียนไปในทันที

นักศึกษาทุกคนในห้องนี้ต่างก็หันกลับมามองเด็กผู้หญิงที่เข้ามาเรียกใหม่กลางคัน ด้วยความประหลาดใจอย่างมาก

ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่เคยได้ยินมาว่าสามารถย้ายสถานศึกษาได้กลางคันมาก่อน โดยเฉพาะนักศึกษาปีสามแบบนี้

“เฮ้ คนสวย เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงได้ก้าวกระโดดเข้ามาในชั้นเรียนของพวกเราได้? เก่งนะ….. ถือว่าเก่งมากเลยแหละ” เด็กผู้ชายกวนๆสองสามคนได้ถามเธอขึ้น

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท