ตอนที่ 104 สงครามของเดือนมหาวิทยาลัย
หวาเหวิน : เหวินเหวิน เธอไปเรียนที่มหาวิทยาลัยหมินจูเหรอ?
หวาเหวิน : อื้อ เพิ่งไปได้ 2 วันเอง
หวาลิน : เป็นไงบ้าง?
หวาเหวิน : ก็ดีนะ อาจารย์เหล่านั้นยอดเยี่ยมมาก ฉันรู้สึกว่าจะน่าจะเรียนได้อะไรใหม่ๆเยอะเลยแหละ
หวาลิน : ฉันมีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาจารย์เหล่านั้นอยู่นะ ฉันช่วยแนะนำให้เธอเอาไหม?
หวาเหวิน : ไม่ต้องหรอก พี่สี่ ตอนนี้ฉันว่าแบบนี้ก็ดีมากแล้วนะ ยิ่งติดต่อเยอะยิ่งไม่สบายใจ
หวาลิน : เธออ่านะ ตอนแรกฉันคิดว่าเธอแค่อยากเรียนประวัติศาสตร์เท่านั้น ใครจะไปรู้ว่าเธอจะไปเข้าเรียนง่ายๆซะงั้น จริง ๆ เลย…..พ่อแม่รู้ไหมละ?
หวาเหวิน : อื้อ นอกจากเจียงหยู่ ก็มีชุนเถาและหยินซิ่ง คนอื่นไม่มีใครรู้
หวาลิน : และจะบอกเหล่าพี่ๆไหม?
หวาเหวิน : ไม่จำเป็นหรอก ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน พวกพี่ ๆ ก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่อยู่แล้ว
หวาลิน : ก็จริง แต่ถ้าเธอมีอะไรให้ช่วย ก็โทรหาฉันได้นะ
หวาเหวิน : ได้ค่ะ ว่าแต่พี่สี่ พี่กับป๋ายห้าว…..?
หวาลิน : ไม่เป็นไร น่าจะจบกันแล้วละ
หวาเหวิน : งั้นพี่จะไปหาเขาอีกไหม?
หวาลิน : ฉันยังไม่อยากคิดตอนนี้ มันวุ่นวาย อยากคิดเงียบๆ
หวาเหวิน : ก็ได้
หวาลิน : งั้นเธอทำธุระก่อนเถอะ มีอะไรก็ติดต่อมาละกัน
หวาเหวิน : อื้อ
หลังจากที่วางสายไป สภาพจิตใจของหวาเหวินก็ดีขึ้นไม่น้อย เธอรู้สึกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหวาลินค่อยๆปรับให้ดีขึ้นทีละน้อยแล้ว
หลังจากที่ดื่มชาด้วยกันในครั้งนั้น ดูเหมือนว่าพวกเธอจะคุยกันมากขึ้น
ข้างกายของหวาเหวินนอกจากชุนเถาและหยินซิ่งแล้วเธอก็ไม่มีเพื่อนคนอื่นแต่อย่างใด การพูดคุยกับของหวาลินในตอนนี้ เธอกลับรู้สึกว่า เป็นความรู้สึกที่ไม่เลวเลย
“หยินซิ่ง”
“ค่ะคุณหนู พูดมาได้เลยคะ”
“ที่มาร์คหน้ารังนกทำเองของเรา ยังมีอีกไหม?”
“มีค่ะ ยังมีอีกเยอะเลย อยู่ในตู้เย็นค่ะ”
“เดี๋ยวเธอช่วยไปส่งให้พี่สี่หน่อย ฉันเห็นใบหน้าเธอวันนั้นหมองคล้ำมากเลย ช่วงนี้น่าจะนอนดึก เธอเอาไปส่งให้พี่เขาหน่อยละกัน”
“ได้ค่ะ คุณหนู”
หยินซิ่งยิ้มขึ้นมาทันใด ดูเหมือนตอนนี้คุณหนูจะเป็นห่วงเป็นใยคนอื่นมากกว่าเมื่อก่อน การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนี้ ทำให้เธอรู้สึกดีใจขึ้นมาก
เจียงหยู่กลับมาถึงบ้านตอนเที่ยงคืน กลับมาถึงก็ไม่ได้มารบกวนหวาเหวินแต่อย่างใด นอกจากขึ้นไปอาบน้ำอย่างเงียบๆแล้วเข้านอน
วันที่สองในขณะที่หวาเหวินกำลังกินอาหารเช้าอยู่ เขาก็ออกไปแล้ว
แต่เหตุผลที่ออกเช้ากลับค่ำของเจียงหยู่นั้น เธอเองก็ไม่ได้ถามอะไรมากแต่อย่างใด ใช้ชีวิตของตัวเองในแต่ละวัน ดีแล้ว ไม่มีใครก้าวก่ายใคร
หวาเหวินเปลี่ยนเป็นเสื้อยีนส์คลุมนอก พร้อมกับใส่กางเกงรัดรูปสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว และยังคงใส่หมวกเบสบอลสีดำเหมือนเดิม
ก็เหมือนกับนักศึกษาภายในรั้วมหาวิทยาลัยคนอื่น ๆ ครั้งนี้เธอมาเรียน ไม่ได้อยากใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมไปอวดใคร
เธอมักจะใส่เสื้อผ้าที่ซื้อมาในราคาธรรมดาไม่แพงมาก เพราะกลัวว่าคนเหล่านั้นจะปล่อยข่าวลือวุ่นวายออกไปอีก
แต่หลังจากที่เข้าเรียนไปแล้วสองคาบ ก็ยังได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเธอมาเป็นระลอกๆอยู่เสมอ
ผู้หญิงในห้องที่ชอบซุบซิบนินทาคนหนึ่งบอกเธอ
เธอบอกว่า “เสี่ยวเหวิน เธอรู้ไหม? เธอไปล่วงเกินใครเข้าแล้ว?”
หวาเหวินตื่นตกใจขึ้นมาทันใด
“เธอล่วงเกินลู่เสวี่ยนอี้เข้าแล้ว รู้ไหม?”
“ลู่เสวี่ยนอี้คือใคร ? ฉันไม่รู้จัก” หวาเหวินมั่นใจว่าตัวเองไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนแต่อย่างใด
“ลู่เสวี่ยนอี้เป็นดาวประจำมหาวิทยาลัยหมินจู เป็นสาวงามแห่งสาขาภาษาจีน…..ก่อนที่เธอจะเข้ามา หล่อนเป็นดาวมหาลัยที่ใครต่างก็ยอมรับมาโดยตลอด ผู้ชายที่ตามจีบหล่อนก็ต่างพากันเข้าแถวกันเป็นจำนวนมาก แต่หลังจากที่เธอเข้ามา ผู้ชายในมหาวิทยาลัยตอนนี้ต่างก็ไปชอบเธอ ได้ยินมาว่าลู่เสวี่ยนอี้สนใจเธอมาก และอยากท้ากับเธอด้วยละ?”
“ท้า? ท้ายังไง?” หวาเหวินไม่เข้าใจความคิดของผู้หญิงเหล่านี้จริง ๆ
หรือว่าต้องการสูงกว่าเธออย่างนั้นเหรอ?
“อีกไม่กี่วันก็จะเป็นงานเลี้ยงต้อนรับการเปิดภาคเรียนใหม่แล้วไม่ใช่เหรอ? ว่ากันว่า…..ลู่เสวี่ยนอี้จะเล่นเปียโน…….จะสู้กันด้วยความสามารถทางด้านศิลปะกับเธอ น่าจะนะ”
หวาเหวินแสดงสีหน้าโง่เขลาออกมาอีกครั้ง……