ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 108

ตอนที่ 108

ตอนที่ 108 ใครกล้ารังแก

เดิมทีเรื่องนี้ทุกคนก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจอยู่แล้ว และก็ไม่เชื่อด้วยว่านางฟ้าที่เข้ามาใหม่จะมีความสามารถในการดูดวงได้อย่างใด

ถึงอย่างไรในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ทุกคนต่างก็เชื่อในหลักทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เชื่อในทางไสยศาสตร์อยู่แล้ว

แต่เรื่องที่เกี่ยวกับผู้หญิงที่รังแกเธอคนนั้น เธอถูกชนเพียงเล็กน้อย ยังไม่ได้ตอบโต้กลับไปด้วย

เพราะเห็นแค่เพียงใบหน้า ก็รู้แล้วว่าผู้หญิงคนนั้นจะพาลพบเจอกับเรื่องซวย ……….และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ………

หลังจากที่กลับมาจากมหาวิทยาลัยมาถึงบ้านในช่วงค่ำ หวาเหวินก็เปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็เดินตามกลิ่นหอมที่แซมด้วยกลิ่นดอกไม้ลงมาข้างล่าง

พร้อมกับได้ยินเสียงเพลงสบายเปิดคลอเบา ๆ

หยินซิ่งเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมกับถือขนมดอกไม้สดอยู่ในมือ

“คุณหนู คุณหนูลองกินขนมนี่ดูสิคะ”

“ไปเอาขนมดอกไม้มาจากไหน?” หวาเหวินถามขึ้น

“คุณหนูสี่ให้มาค่ะ…..คุณหนูให้บ่าวเอาที่มาลก์หน้าไปให้คนหนูสี่ไม่ใช่เหรอคะ? คุณหนูสี่ดีใจมากเลย จึงให้ของขวัญตอบแทนกลับมา บอกว่าเด็กนักเรียนชาวมณฑลยูนนาน เอามาให้เธอเยอะมาก เธอกินคนเดียวไม่หมด ก็เลยแบ่งมาให้คุณหนูลองชิมดูค่ะ ขนมกุหลาบเหล่านี้เป็นผลผลิตจากที่นั้นค่ะ เป็นต้นตำรับแท้เลยคะคุณหนู”

หวาเหวินพยักหน้า จากนั้นก็หยิบขึ้นมากัดอย่างระมัดระวัง

“อื้อ รสชาติใช้ได้ ที่จริงพี่สี่ก็ไม่ได้เป็นคนไม่คบค้าสมาคมแบบนั้นสักหน่อย เพียงแค่ไม่มีใครเข้าใจเธอก็เท่านั้น”

“ใช่ค่ะ บ่าวรู้สึกว่าคุณหนูสี่นั้นดีมากเลยค่ะ คุณหนูสามก็ใช้ได้ ……คุณหนูใหญ่และคุณหนูสองค่อนข้าง……” หยินซิ่งพูดไม่จบ

เพราะเห็นได้ชัดว่า เธอและชุนเถาไม่ค่อยชอบหวาซวงและหวาหรุงเท่าไหร่นัก

ไม่เพียงแต่เพราะใช้อำนาจมาบังคับขู่เข็ญเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกชื่อเสียงและโชคลาภมาบังตาเอาไว้อีกด้วย

ในใจจึงไม่มีความรู้สึกของพี่น้องหลงเหลืออยู่

หวาเหวินเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ในตอนนั้นเอง ประตูถูกเปิดออก เจียงหยู่กลับมาถึงพอดี

“กินอะไรกันเหรอ หอมเชียว?” เขาถอดเสื้อนอกออก แล้วยื่นให้ชุนเถาที่อยู่ด้านข้าง

“ขนมดอกไม้ กินไหม?”

“กินสิ”

เจียงหยู่เดินเข้ามา พร้อมกับพับแขนเสื้อ จากนั้นก็หยิบกระดาษเปียกขึ้นมาเช็ดมือ ก่อนจะจะหยิบขนมดอกไม้ชิ้นหนึ่งขึ้นมา

“อื้อ รสชาติไม่เลวเลย ดูท่าจะเป็นอาหารมังสวิรัติที่อร่อยมากเหมือนกันนะเนี่ย”

หวาเหวินยิ้มโดยไม่พูดอะไร

เขามองไปทางดอกเดซี่ขนาดเล็กและดอกยิปซัมที่อยู่ในแจกันดอกไม้

ถึงแม้ว่าจะดูง่ายๆ แต่กลับดูดีเลยทีเดียว

“เธอทำเหรอ?”

“อื้อ”

“ดูดีทีเดียว”

“ขอบใจ”

“พรุ่งนี้ทำให้ฉันสักแจกันหน่อยสิ แล้วไปวางไว้ในห้องของฉัน ได้ไหม?”

“ได้สิ” หวาเหวินยิ้ม

“เหวินเหวิน ฉันได้ยินมาว่า…..วันนี้เธอถูกรังแกที่มหาวิทยาลัย เธอยังยิ้มได้อีกเหรอ?” เจียงหยู่ถามเธอ

“นายมีหูมีตาอยู่ในมหาวิทยาลัยด้วยรึไง? เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆเหล่านี้นายก็รู้ไปหมดเนี่ย?”

“จะเป็นได้ยังไง? ฉันมีเวลาว่างที่ไหน? ฉันบังเอิญไปเห็นเรื่องวิจารณ์ในกระทู้ของมหาลัยโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วก็เห็นว่ามีคนเขียนถึงเธอ”

“เด็ก ๆเหล่านั้นก็ว่างมากเนอะ ชอบนินทากันจริง ๆ” หวาเหวินไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด

“ถ้าเธอถูกรังแก เธอบอกฉันนะ ฉันช่วยออกหน้าแทนเธอให้”

“ไม่ต้องหรอก ไม่มีใครกล้ามารังแกฉันหรอก”

ชุนเถาเองก็อดกลั้นไว้ไม่อยู่ “คุณผู้ชายวางใจเถอะค่ะ คุณหนูของพวกเราเก่งอยู่แล้ว……เธอไม่ใช่สุนัขพันธุ์พูเดิล แต่เธอเป็นสุนัขพันธุ์ทิเบตันแมสติฟฟ์ที่ไม่ชอบส่งเสียง …..ถ้ามีคนมุ่งร้ายกับเธอ ก็คงจะตายอย่างน่าเวทนาเลยทีเดียวค่ะ”

“จริงเหรอ? ว่างๆฉันจะไปดูอีกด้านหนึ่งของสุนัขพันธุ์ทิเบตันแมสติฟฟ์ซะหน่อยแล้ว” เจียงหยู่หยอกล้อ

“อย่า ฉันกลัวกัดนาย”

“ไม่เป็นไร ฉันฉีดวัคซีนป้องกันได้”

เมื่อพูดจบ ชุนเถาก็หัวเราะ หยินซิ่งก็หัวเราะ

หวาเหวินชำเลืองมองไปทางเขา “นายนี่มันจริง ๆ เลย”

“ระหว่างสามีภรรยาจะเอาจริงเอาจังไปทำไมกันเล่า เธออายุยังน้อยอย่าทำหน้าถมึงทึงแบบนั้นสิ……ยิ้มเยอะๆหน่อย ยิ้มแล้วดูดีจะตายไป” เจียงหยู่ชมเธอ

ตอนนั้นเอง เจ้าโคกก็ได้แทรกตัวออกมาจากที่ไหนสักแห่ง

หวาเหวินยื่นมือออกไปอุ้มมัน แต่กลับพบว่ามันปีนขึ้นอยู่ในอ้อมแขนของเจียงหยู่ซะงั้น

หลังจากนั้นก็นอนลงอย่างขี้เกียจ……..

เจียงหยู่ลูบหลังของมันด้วยความระมัดระวัง

เมื่อเห็นแววตาอันอบอุ่นของเจียงหยู่ ในช่วงพริบตาเดียว หวาเหวินก็เกิดความคิดอันน่ากลัวขึ้นมา

เธออยากทำนายเจียงหยู่ เพื่อทดสอบช่วงเวลาแห่งความสุขอันสั้นในชั่วชีวิตของเขา

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท