ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 116

ตอนที่ 116

ตอนที่ 116 เปียโนคู่

หวาเหวินไม่ได้แปลกใจกับเรื่องที่ลู่เสวี่ยนอี้ทำแต่อย่างใด

เห็นได้ชัดว่าต้องการทำให้เธออึดอัด เพราะเธอไม่ได้เตรียมตัวมาล่วงหน้า

เดิมทีเธอก็ไม่เคยซ้อมใหญ่กับลู่เสวี่ยนอี้มาก่อน ถ้าเปียโนคู่ไม่ได้รู้ใจซึ่งกันและกันละก็ คงสร้างความยุ่งยากให้ไม่น้อยเลยทีเดียว

อีกทั้ง ลู่เสวี่ยนอี้ก็ไม่รู้ด้วยหวาเหวินนั้นจะเล่นเพลงนี้เป็นหรือไม่ ถ้าเจ้าตัวเล่นไม่เป็นละ? ไม่ทำให้ลำบากใจมากขึ้นไปอีกเหรอ?

แต่…….ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว จะหลบหลีกก็คงจะทำไม่ได้

ขนาดอาจารย์ยังมองมาทางหวาเหวินด้วยความตื่นตระหนกตกใจเลย “เธอกับลู่เสวี่ยนอี้เป็นเพื่อนกันเหรอ?”

“ไม่ใช่ค่ะ” เธอตอบกลับไป

“งั้นทำไมอยู่ดี ๆหล่อนถึงได้ชวนเธอขึ้นไปร่วมการแสดงด้วยละ?”

“บางที…..เธออาจจะชื่นชมหนูก็ได้คะ” หวาเหวินยิ้ม

ในตอนนั้นเอง เหล่านักศึกษาที่อยู่ข้างล่างต่างก็พากันบ้าคลั่ง เดิมทีลู่เสวี่ยนอี้เป็นดาวมหาวิทยาลัย ส่วนหวาเหวินเป็นเพียงแต่นางฟ้าคนใหม่ที่เป็นกระแสนิยมอย่างล้มหลาม

เมื่อได้ยินการเชื้อเชิญของลู่เสวี่ยนอี้แบบนี้ ทุกคนต่างพากันตื่นเต้นไม่น้อย

เหล่าผู้ชายต่างพากันตื่นเต้น เพราะจะได้เห็นผู้หญิงทั้งสองร่วมการแสดงด้วยกัน

เหล่าผู้หญิงก็ต่างพากันตื่นเต้น เพราะจะได้เห็นละครสนุกๆ เพราะพวกเธอรู้ว่าลู่เสวี่ยนอี้ตั้งใจจะทำให้หวาเหวินอึดอัดใจ

หยวนซ่าวและคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่แถวที่สอง เมื่อเห็นการกระทำนี้ของลู่เสวี่ยนอี้ เขาก็เกิดความรู้สึกเหยียดหยามมากขึ้นไปทุกที

ผู้หญิงละน๊า ยุ่งยากชะมัด ชอบสร้างแต่เรื่องแบบนี้

“หยวนฟาง นายว่าไง?” เพื่อนที่นั่งอยู่ข้างหยวนซ่าวตั้งใจแกล้งเขา

“ฉันขอดูเรื่องสนุกๆละกัน” หยวนซ่าวตอบกลับอย่างใจกว้าง

ในตอนนั้นเอง อีกด้านหนึ่ง แฟนคลับของหวาเหวินได้พูดขึ้นว่า “เกมส์นี้ลู่เสวี่ยนอี้ใจกว้างไม่ใช่น้อยนะ เห็นๆอยู่ว่าต้องการสร้างความลำบากใจให้กับอีกฝ่าย ตัวเธอเองได้เตรียมพร้อมบทเพลงนี้มาอย่างดี เธอซุ่มซ้อมอยู่เบื้องหลังมาตั้งกี่ครั้ง แต่นางฟ้าคนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะเล่นเปียโนเป็นรึเปล่า ถ้าไม่ขึ้น ก็ต้องเสียหน้ามากแน่ ๆ แต่ถ้าขึ้นแล้วเล่นไม่เป็นละ? หรือว่าเล่นได้ไม่ดีละ? มันไม่ยิ่งน่าลำบากใจกว่าเหรอ?”

เหตุผลข้อนี้ทุกคนต่างเข้าใจดี ลู่เสวี่ยนอี้ต้องการทำให้อีกฝ่ายอึดอัดลำบากใจ

เมื่อเห็นหวาเหวินไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด ลู่เสวี่ยนอี้ก็หยิบไมโครโฟนขึ้นมาพูดกับเธอว่า “เพื่อนเสี่ยวเหวิน ยากเกินไปใช่ไหม? ถ้าเธอไม่ชินกับบทเพลงนี้ เราเปลี่ยนเพลงก็ได้นะ ….แล้วแต่เธอจะเลือก”

เมื่อพูดจบ เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นทั้งงาน………

ลู่เสวี่ยนอี้ตั้งใจจะบีบอีกฝ่ายให้แหลกคามือจริง ๆ เป็นการเปิดศึกสงครามอย่างโจ่งแจ้งเลยทีเดียว

จะว่าไปในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว ถ้าไม่โต้ตอบกลับ ก็คงจะไม่ดีอย่างแน่นอน

หวาเหวินลุกขึ้นอย่างช้า ๆ วันนี้เธอใส่กระโปรงกี่เพ้าสมัยใหม่สีเงิน ผมสีดำถูกปล่อยสยาย ดูมีเสน่ห์น่าดึงดูดเหมือนสาวเจียงหนานอย่างมากทีเดียว

ส่วนลู่เสวี่ยนอี้ใส่กระโปรงชุดสีขาว ถ้าดูเดี่ยว ๆ จะสวยมากเลยทีเดียว

แต่ถ้าเปรียบเทียบกับหวาเหวินแล้ว กลับเทียบกันไม่ติด

หวาเหวินยิ้มเล็กน้อย “ไม่ต้องหรอก ไม่ยากเท่าไหร่ Vanessa’s smile ใช่ไหม? เอาสิ”

หวาเหวินตอบกลับด้วยความกระตือรือร้น จากนั้นก็เดินขึ้นเวทีอย่างช้า ๆ ………

เมื่อหยวนซ่าวเห็นด้านข้างของผู้หญิงคนนี้ เขาก็เกิดอาการใจเต้นขึ้นมาเล็กน้อยทันที

แต่สิ่งที่ทำให้เขาใจเต้นไม่ใช่ความงดงามบนใบหน้าของเธอแต่อย่างใด แต่เป็นมุมปากที่เธอกระตุกยิ้มออกมาอย่างมั่นใจต่างหาก

เขาดูออก ว่าเธอไม่กลัวลู่เสวี่ยนอี้แต่อย่างใด

ไม่เพียงแค่นี้ ครั้งนี้ผู้หญิงคนนี้ได้ถูกลู่เสวี่ยนอี้ปั่นหัวอย่างสนุกสนาน หากทำไม่ดีย่อมไม่สามารถย้อนกลับได้

หลังจากที่หวาเหวินขึ้นไปบนเวที เธอก็นั่งลงข้างกายของลู่เสวี่ยนอี้

ทั้งสองคนมองไปทางโน้ตเพลง แล้วเริ่มทำการเล่นเปียโนท่ามกลางการบรรเลงดนตรีร่วมทันที……..

นี่เป็นการร่วมมือกันครั้งแรก เพราะด้วยความที่ไม่รู้ใจกันมากพอ ดังนั้นหวาเหวินจึงไม่กล้าเพิ่มความเร็วแต่อย่างใด

แต่ลู่เสวี่ยนอี้กลับแอบเพิ่มความเร็ว เพื่อทิ้งห่างหวาเหวิน ทำให้เธออับอาย

แต่…..มันจะง่ายขนาดนั้นที่ไหนกันเล่า?

หวาเหวินไล่ตามจังหวะเพลงของลู่เสวี่ยนอี้มาติด ๆ ไม่ผิดแม้แต่โน้ตเพลงเดียว

เหล่านักศึกษาที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างพากันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป…….

จนกระทั่งเริ่มเลยเถิด นักศึกษาที่อยู่แถวแรกต่างพากันเริ่มถ่ายทอดสดกันมากขึ้น

เพราะระดับความร้อนแรงที่สูงเกินไป ดังนั้นมันจึงปรากฏขึ้นมาบนหน้าแรกของข่าว

จนกระทั่งเจียงหยู่เห็น แซ่จื๋อจ้วนก็เห็น

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท