ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 126

ตอนที่ 126

ตอนที่ 126 ตัวท๊อปที่แข็งแกร่งที่สุด

หวาเหวินไม่เคยลงสนามสอบ แต่เธอก็ไม่กลัวแต่อย่างใด

ภาษาอังกฤษยิ่งไม่ต้องพูดถึง เธอผู้ที่พูดได้ 6 ภาษา พื้นฐานยิ่งไม่ต้องเอ๋ยถึงแต่อย่างใด

วิชาที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์โลกและประวัติศาสตร์ประเทศจีน เธอเก่งที่สุด นี่เป็นงานอดิเรกของเธอมาเนิ่นนานหลายปี

ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะไม่กลายเป็นปรมาจารย์ด้านวัตถุโบราณที่ใช้การสังเกตก็สามารถประเมินค่าของสิ่งของชิ้นนั้นได้เป็นคนแรกของโลกหรอก

แต่ถ้าเป็นทฤษฎีทางการเมืองละก็ เมื่อก่อนเธอไม่เคยได้สัมผัสมันมาก่อน

แต่ในตอนที่อยู่ในห้องสมุด แล้วได้อ่านหนังสือด้านนี้ เธอคิดไม่ถึงว่ามันจะน่าอ่านมากขนาดนี้เหมือนกัน

และเพราะไม่เคยเข้าร่วมมาก่อน เธอจึงค่อนข้างอยากรู้เป็นพิเศษ

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทุกคนต่างก็เรียกว่าลำบากเอาการเลยทีเดียว

สาเหตุที่มหาวิทยาลัยหมินจูเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดภายในประเทศนั้นเป็นเพราะว่าคนที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดีนั้นค่อนข้างโดดเด่นมาก

ดังนั้นจึงย่อมต้องเข้มงวดกับนักศึกษามากเป็นพิเศษ

คุณรู้สึกว่าการมาเรียนที่นี่ จะสามารถโดดเรียนได้ ทำตัวเป็นนักเลงได้ มีความรักได้ เล่นบาสเก็ตบอลได้ แล้วไม่ต้องเรียนอย่างนั้นเหรอ?

ขอโทษด้วยนะ คุณอาจจะถึงกับร้องไห้เลยก็ได้ เพราะว่าถ้าคุณสอบตก คุณก็จะไม่ได้รับใบจบการศึกษา

การสอบที่ดุเดือดสนามนี้ ได้ดำเนินมาจนถึงบ่ายสามโมงของวันนี้

หวาเหวินส่งข้อสอบวิชาสุดท้าย แล้วเดินออกจากห้องเรียนไปก่อน

เพื่อออกมาสูดอากาศสดใสเข้าปอดสักหน่อย

หลังจากนั้นก็พบกับหยวนซ่าวและคนอื่น ๆ ที่เพิ่งกลับมาจากการเล่นบาสพอดี และพวกเขาต้องผ่านทางนี้

เมื่อหยวนซ่าวเห็นหวาเหวินก็ได้เดินเข้ามาหาทันที

“ได้ยินมาว่าเธอเข้าร่วมสอบวันนี้ด้วยเหรอ?”

“อื้อ” เธอพยักหน้า

“สอบเป็นยังไงบ้างละ?”

“ไม่รู้ดิ”

“โอเค” หยวนซ่าวเองก็หัวเราะออกมาเล็กน้อย เมื่อรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ได้แสดงท่าทางโง่เขลาออกมาบ้าง

หวาเหวินกำลังจะเดินไป แต่แล้วหยวนซ่าวก็เอ๋ยปากขึ้นมาอีกครั้ง “พรุ่งนี้วันที่ 8 ฉันมีแข่งขันบาสเก็ตบอลระหว่างมหาวิทยาลัยหมินจูกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี เธอจะมาดูไหม?”

“ไม่สนใจ”

หวาเหวินปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ไว้หน้าแต่อย่างใด

ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังสองสามคนก็ต่างพากันไอออกมา พยายามที่จะกลบเกลื่อนความรู้สึกลำบากใจของหยวนซ่าว

“พอแล้ว ไม่ไว้หน้ากันเลยนะ งั้นฉันขอให้เธอสอบได้ 59 คะแนนพอ”

หยวนซ่าวโพล่งประโยคนี้ออกไป ก่อนจะหัวเราะเหอะเหอะ แล้วเดินจากไป

หวาเหวินตื่นตกใจไปในทันที 59 คะแนน? มันทำกันได้ด้วยเหรอ?

เธอไม่เคยลงสนามสอบมาก่อน จะไปรู้ได้ไงว่า 59 คะแนนสำหรับนักศึกษาแล้ว คือการสาปแช่งที่น่ากลัวมากอย่างหนึ่งเลยนะ?

หลังจากกลับมาถึงห้องเรียน ก็มีผู้หญิงสองสามคนก็ได้ยื่นน้ำเปล่ามาให้ด้วยท่าทางเงอะงะ แต่หยวนซ่าวกลับแสดงหน้าต่างเย็นชาและไม่รับแต่อย่างใด

“ทุกคน วันนี้อย่าเพิ่งมาเอาอกเอาใจหยวนซ่าวเลยนะ พี่หยวนของเราอารมณ์ไม่ค่อยดี” หลี่เผิงแกล้งหยอกเย้า

“หยวนซ่าวเป็นอะไรเหรอ? ดูท่าทางไม่ค่อยร่าเริง แพ้บาสมาเหรอ?”

“ไม่ แค่มีคนทำให้หงุดหงิดเท่านั้น”

หยวนซ่าวได้มองมาด้วยสายตาอาฆาต จนทำให้เด็ก ๆ เหล่านี้ไม่กล้าพูดอะไรมากมาย

แต่เรื่องที่หวาเหวินปฏิเสธที่จะมาดูการแข่งขันบาส เป็นเรื่องที่เขาคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ

เขาคิดว่า ต่อให้ไม่อยากมา อย่างน้อยก็น่าจะพูดด้วยความประนีประนอมกันว่า ฉันขอดูก่อนนะ ก็ได้

นึกไม่ถึงว่าเจ้าตัวจะพูดประโยคว่าไม่สนใจออกมาได้

เหมือนกับที่เขาเคยพูดปฏิเสธผู้หญิงเมื่อก่อนไม่มีผิด เขานึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าจะโดนเองเข้าสักวัน

เขากลายเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนไหวเพราะถูกคนปฏิเสธคนนั้นไปเสียแล้ว

อย่าว่าแต่พูดเลย สภาพจิตใจตอนนี้ของเขารู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาเล็กน้อย

คะแนนสอบได้ออกมาในวันที่สอง

อาจารย์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ทุกคนต่างก็ไม่กล้าส่งเสียงใด ๆ ออกมา ถึงอย่างไรนี่ก็เพิ่งจะเปิดภาคเรียนได้ไม่นาน ทุกคนยังอยู่ในสภาวะที่ไม่เคร่งเครียดกับการเรียนมากนัก สอบออกมาไม่ดีก็ยังพอเข้าใจได้

“มีเรื่องจะพูดแค่สองเรื่อง เรื่องแรก อาจารย์ไม่คิดว่าพวกเธอจะขี้เกียจขนาดนี้ เอาแต่เหลวแหลกไม่สนใจการเรียนแบบนี้ กลับมาจากปิดเทอมเลยไม่รู้ว่าตัวเองคือใครแล้วอย่างนั้นเหรอ? คะแนนแบบนี้ฉันละอายแทนพวกเธอจริง ๆ ………….”

นักศึกษาทั้งห้องพากันเงียบงันไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา…………

อาจารย์มองไปทางหวาเหวินที่นั่งแถวสุดท้ายด้วยจิตใต้สำนึก เธอกำลังเหม่อลอย ก้มหน้าลงควงปากกา

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท