ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 133

ตอนที่ 133

ตอนที่ 133 แกล้งป่วย

สิ่งที่หวาเหวินคิดอยู่ในใจตอนนั้นก็คือ นายยังจะมีหน้ามาถามฉันอีกเหรอว่าฉันเป็นอะไร?

ผู้ชายที่ใช้เงินฟุ่มเฟือยแบบนาย ตั้งใจพาคนอื่นมาที่บ้านในเวลานี้

และยังหาเรื่องปวดหัวมาให้ฉันอีก …….. มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ

“คุณผู้ชายคะ บางทีคุณหนูอาจจะมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเล็กน้อยคะ …… พวกเราทั้งสองจะประคองคุณหนูขึ้นไปข้างบน ให้คุณหนูได้กินของหวานแล้วพักผ่อน เดี๋ยวก็ดีขึ้นแล้วค่ะ”

“เธอมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำด้วยเหรอ?” เจียงหยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่กลับมองไม่เห็นถึงพิรุธใด ๆ สักนิด

ชุนเถาและหยินซิ่งจึงได้รีบพาหวาเหวินขึ้นไปข้างบนโดยเร็ว

หลังจากนั้นหยินซิ่งก็ลงมารักษาการณ์อยู่ด้านล่าง เพราะกลัวว่าจะมีคนขึ้นไปข้างบน

เมื่อหวาเหวินเข้ามาในห้องนอน ก็เริ่มปฏิบัติการในทันที

ชุนเถาช่วยหยิบเสื้อผ้าและหน้ากากมาให้กับคุณหนู ในตอนที่เธอนั่งอยู่ตรงหน้ากระจกแล้ว เพราะมันถึงเวลาพอดี

เมื่อถึงเวลา 3 ทุ่มตรง หวาเหวินก็ได้ถอนหายใจออกมายาว ๆ

เจียงหยู่ที่อยู่ด้านล่างกลับไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติแต่อย่างใด

เขาทำได้แค่เพียงพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจกับหวางเซียวอี้ไปเรื่อย ๆ เท่านั้น

เขามองไปทางหยินซิ่งที่ยกน้ำและน้ำตาลขึ้นไปข้างบน สงสัยว่าจะจริง

เมื่อเวลา 4 ทุ่ม 20 นาที หวางเซียวอี้ก็ได้ขับรถของตัวเองออกจากเฟิงหวาหลี่แห่งนี้ไป

แต่ก่อนจะจากไปเขาได้กำชับเจียงหยู่ว่า

“เพื่อน ครั้งนี้ฉันคงต้องพึ่งนายแล้วจริง ๆ นายช่วยฉันคุยกับภรรยาของนายให้หน่อยนะ นายก็รู้กิตติมศักดิ์คุณย่าฉันเป็นอย่างดีนี่”

“อื้อ วางใจเถอะ อาเหวินไม่ใช่คนเย็นชาขนาดนั้น ฉันจะช่วยพูดให้”

หลังจากที่หวางเซียวอี้จากไป เจียงหยู่ก็อดที่จะขึ้นไปข้างบนไม่ได้

ชุนเถายังคงยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูห้อง

“อาเหวินเป็นยังไงบ้าง?” เขาถามขึ้น

“คุณหนูดีขึ้นมากแล้วคะ เพิ่งจะได้สติ บ่าวเลยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอแล้ว” ชุนเถาตอบกลับด้วยความฝืนใจ

เจียงหยู่พยักหน้า จากนั้นก็ผลักประตูเข้าไป

หวาเหวินกำลังนอนอยู่บนเตียง แกล้งทำว่าตัวเองนั้นอ่อนแอมาก

จะพูดว่าเข้ามาวุ่นวายด้วยความเป็นห่วงก็ได้

เจียงหยู่แค่เป็นห่วงสุขภาพของหวาเหวิน จึงไม่ทันได้ถาม ว่าเกิดอะไรขึ้น?

“เธอมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ยังไง?” เจียงหยู่เดินเข้าไป จากนั้นก็ยื่นมือออกไปแตะบนหน้าผากของหวาเหวินด้วยจิตใต้สำนึก

เมื่อพบว่าเธอไม่ได้เป็นไข้ จึงได้วางใจลงเล็กน้อย

“อื้อ ฉันกินอาหารมังสวิรัติตลอดทั้งปี ดังนั้นเลยขาดสารอาหารไปเล็กน้อย”

“ไอหยา เธอเนี่ยอ่าน่า ….. เธอไม่ใช่แม่ชีสักหน่อย จะกินมังสวิรัติทำไมกัน” ถึงแม้ว่าปากของเจียงหยู่จะตำหนิก็ตาม แต่ความจริงแล้วเขาเจ็บปวดใจมากทีเดียว

ตอนที่เธอวิงเวียนจนล้มพับลงไปเขาตกใจมากทีเดียว

โชคดีที่เธอสามารถฟื้นขึ้นมาภายในไม่กี่วินาที ไม่อย่างนั้นเขาคงได้พาเธอเข้าห้องฉุกเฉินจริง ๆ แน่

“ฉันไม่เป็นไร นายไม่ต้องเป็นห่วงหรอก”

หวาเหวินได้ทำการถ่ายทอดสดภายในหนึ่งชั่วโมง เงินค่าตอบแทนจำนวนกว่าหนึ่งล้านหยวนสร้างความตึงเครียดให้กับเธอในชั่วพริบตาเดียว ไอสบายมันก็สบาย ๆ อยู่แหละ แต่เธอกลัว ว่าจะถ่ายทอดสดไม่ทันเวลา

ต้องรู้ก่อนว่าคนต่างชาติค่อนข้างรักษาเรื่องเวลามาก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ถ้าสายไปแล้ว

ก็เท่ากับสูญเสียความน่าเชื่อถือไปแล้ว…………

การร่วมมือกันหลังจากนั้นก็คงจะยากขึ้น และนั้นเท่ากับว่าเธอได้ทำลายชื่อเสียงของตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว

เมื่อคิดได้ถึงเรื่องนี้ หวาเหวินก็โกรธขึ้นมาทันใด

“นายพาแขกมาที่บ้าน จะทำอะไรทำไมไม่บอกฉันก่อน? นายรู้ได้ยังไงว่าคนที่บ้านนั้นจะสะดวกหรือไม่สะดวก?” หวาเหวินยังคงโกรธเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้

เมื่อเจียงหยู่ได้ยินก็ยิ้มออกมา จากนั้นก็ยื่นมือออกไป แต่แล้วกลับถูกมือเล็ก ๆ ของเธอขวางไว้

“เขาไม่ได้อยากมา แต่กลับอยากให้ฉันเรียกเธอออกไปหาด้วยซ้ำ ฉันเห็นว่าวันนี้ลมมันแรง เลยกลัวว่าถ้าเธอกลับมาแล้วเธอจะเป็นหวัดเอา เลยคิดว่าให้เขามาหาที่บ้านดีกว่า แบบนี้มันก็สะดวกทั้งเธอและฉัน นึกไม่ถึงว่าเธอจะโกรธขนาดนี้ ถ้าเธอไม่มีความสุข หลังจากนี้ฉันจะไม่พาเพื่อนมาอีกแล้ว”

เจียงหยู่พูดออกมาเบา ๆ ด้วยความรู้สึกเสียใจเอามาก ๆ

หวาเหวินจึงรู้สึกได้ในทันใดว่าผู้ชายคนนี้พูดได้ดีมากจริง ๆ อย่างน้อยก็มีทัศนคติที่ดีมากทีเดียว

“อาเหวิน เธอพักก่อนละกัน เรื่องของเซียวอี้พวกเราค่อยมาคุยกันพรุ่งนี้ก็ได้”

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท