ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 157

ตอนที่ 157

ตอนที่ 157 ซาบซึ้งหรือไม่ซาบซึ้งใจ

“ได้ยังไงกัน?” หวาเหวินแสดงความเกรงใจออกมา

“ไม่เป็นไร เพื่อนกัน พบกันก็ถือว่าเป็นโชคชะตา ฮิฮิ ……. แต่เธออย่าพูดออกไปนะ ฉันกลัว….ฉันกลัวว่าคนอื่นจะมาหัวเราะเยาะฉัน แล้วดูถูกฉัน ไม่ยอมให้ฉันมายุ่งกับเธออีก”

น้ำเสียงของเธอเปี่ยมไปด้วยการอ้อนวานอย่างจริงใจ เพื่อหวังว่าหวาเหวินจะเก็บเรื่องที่เธอทำงานที่ไม่ค่อยมีหน้ามีตานี้เป็นความลับ

“ความจริงแล้วเธอไปเป็นครูสอนพิเศษก็ได้นะ เธอออกจะเรียนดีขนาดนั้น” หวาเหวินแนะนำให้แก่เธอ

“ฉันหน้าตาไม่ดี ฮ่า ผู้ปกครองไม่จ้างฉันหรอก” เธอยังคงยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ดูโศกเศร้าอย่างเห็นได้ชัด

ความจริงแล้วอวู๋ผิงเองก็อยากจะทำแบบนั้นกับเพื่อนคนอื่น ๆ เหมือนกัน ใช้ความรู้ของตัวเองมาเป็นครูสอนพิเศษ หาเงินได้อย่างสบาย ๆ

แต่เด็กในเมืองค่อนข้างดูแลยากมาก หน้าตาเธอก็ไม่ดีด้วย

ดังนั้นโดยพื้นฐานแล้ว ไม่ต้องรอให้ผู้ปกครองเหล่านั้นพูดออกมา เด็ก ๆ ต้องพูดอย่างแน่นอน ว่าคุณครูคนนี้น่าเกลียด ฉันไม่ต้องการ

ดังนั้นเมื่อพบกับอุปสรรคมากมาย เธอเลยไม่กล้าที่จะลอง

ทำได้แค่เพียงถือโอกาสในช่วงพักกลางวัน หรือไม่ก็วันเสาร์และวันอาทิตย์ หางานเล็ก ๆ น้อย ๆ บริเวณมหาวิทยาลัยทำ

ร้านซาลาเปาแห่งนี้นอกจากจะทำให้เธออิ่มในช่วงเวลากลางวันแล้ว ก็ยังเป็นการประหยัดแรงงานในร้านด้วย นอกจากนี้ก็ยังทำให้ได้เงินได้เล็ก ๆ น้อย ๆ อีกด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

หวาเหวินผู้มีนิสัยค่อนข้างเย็นชา ในช่วงเวลานี้เธอกลับรู้สึกหล่อน และในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์เหมือนกัน ชีวิตของอวู๋ผิงนั้นค่อนข้างลำบากมากจริง ๆ นั้นเป็นชนชั้นที่ต่ำต้อยที่สุดของสังคมที่มักจะถูกรายงานอยู่ในข่าวเหล่านั้นบ่อย ๆ ?

อวู๋ผิงจ่ายค่าซาลาเปาให้กับหวาเหวิน ซึ่งหวาเหวินเองก็ไม่ได้คะยั้นคะยอยื่นเงินให้แต่อย่างใด

ทั้งสองคนยังคงพูดคุยอีกประมาณสองสามประโยค และในตอนที่กำลังจะไป หวาเหวินก็ได้มองไปทางเธอแวบหนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไร

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่ใช่คนที่ใช้คำพูดมาแสดงความรู้สึกของตัวเองอยู่แล้ว

เธอมักจะนำเรื่องต่าง ๆ ครุ่นคิดและวิเคราะห์อยู่ในใจ

เมื่อกลับมาถึงมหาวิทยาลัยแล้ว เธอก็ต้องพบกับแซ่จื๋อจ้วนที่ยืนขวางประตูข้างอยู่อีกครั้ง

แต่ครั้งนี้แซ่จื๋อจ้วนไม่ได้ทำตัวหวือหวาแต่อย่างใด เขาขับรถไปจอด ณ สถานที่ไกลออกไป จากนั้นก็เดินมาที่นี่ ไม่ได้ทำเท่ห์แต่อย่างใด

เขานั้นแตกต่างจากเจียงหยู่มาก เจียงหยู่ชอบแต่งตัวเต็มยศ เป็นหนุ่มที่ดูโตเกินวัย

ส่วนแซ่จื๋อจ้วนชอบแสร้งทำตัวเป็นเด็ก มักแต่งตัวให้ดูเหมือนวัยรุ่น เพราะไม่อยากให้ตัวเองนั้นดูแก่ลง

“หวาเหวิน”

เมื่อก่อนเรียกเหวินเหวินตลอด โดยไม่สนใจใครทั้งนั้น แต่พอมาครั้งกลับเชื่อฟังซะงั้น

หวาเหวินมองไปทางเขาแวบหนึ่ง พร้อมกับเดินต่อไปโดยไม่ได้หยุดก้าวเดินแต่อย่างใด

“หวาเหวิน เดี๋ยวก่อน”

หวาเหวินขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปทางเขา แม้แต่คำเดียวก็ขี้เกียจจะพูด?

ความรู้สึกนั้นได้ถูกแสดงออกมาแล้วว่า นายจะทำอะไร?

“หวาเหวิน เธออย่าพึ่งเครียดไปสิ ฉันไม่รบกวนเธอนานหรอก วันนี้ฉันอยากจะคุยกับเธอ ฉันตั้งใจจะไม่ทำตัวเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว”

หวาเหวินฟังอย่างเงียบ ๆ โดยไร้ความรู้สึกใด ๆ

“ฉันตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ฉันรู้ว่าเธอเองก็ไม่อยากรู้จักฉันแบบนั้นหรอก เมื่อก่อนฉันไม่มีเหตุผลเกินไปจริง ๆ หึหึ ดังนั้นฉันเลยตัดสินใจว่าจะกลับตัวกลับใจ เมื่อสองสามวันก่อนฉันได้ไปหาพ่อของฉันมา แล้วพูดกับเขาว่าจะกลับไปทำงานที่บ้าน พ่อของฉันเลยให้งานหินกับฉันมา บอกว่าถ้าฉันจัดการแก้ไขได้ ฉันถึงจะมีคุณสมบัติมากพอที่จะกลับไป ฉันรู้ว่างานนี้มันยากมาก แต่ฉันก็อยากที่จะลอง และฉันก็รู้ว่าตัวเองนั้นไม่ได้มีหัวสมองเชิงธุรกิจเหมือนกับเจียงหยู่ด้วย แต่ในเมื่อฉันตัดสินใจแล้ว ฉันก็ต้องยืนหยัดต่อไป สุดท้ายก็จะกลายเป็นคนที่ตัวเองอยากเป็นคนนั้นได้ในที่สุด”

ประโยคนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง เขาคิดว่าหลังจากที่หวาเหวินได้ยินแล้ว ถึงเธอจะไม่ซาบซึ้งใจ แต่ก็น่าจะเกิดความรู้สึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ขึ้นมาบ้างแหละ?

แต่น่าเสียดาย…….

เมื่อหวาเหวินฟังจบ ก็ตอบไปเพียงแค่ประโยคหนึ่งว่า “นายจะเปลี่ยนแปลงเป็นคนแบบไหนมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับฉัน”

พูดจบก็หมุนตัวเดินจากไป

แซ่จื๋อจ้วนทอดถอนหายใจออกมา ก่อนจะพึมพำกับตัวเองว่า “น้องเหวินเหวินของฉัน ยังคงเย็นชาเหมือนกับภูเขาน้ำแข็งจริง ๆ ”

การมาหาเธอของแซ่จื๋อจ้วนนั้นไม่ได้ดูหวือหวาแต่อย่างใด แต่ก็ยังมีคนเห็นเข้าจนได้

หนึ่งคนก็ขยายออกไปเป็นสิบคน ภายในมหาวิทยาลัยก็เริ่มมีคนซุบซิบนินทากัน นินทาโดยที่ไม่รู้ที่มาที่ไป

หลังจากที่เสี้ยเข่อเข่อได้รับบาดเจ็บ ลู่เสวี่ยนอี้ก็รีบหาเพื่อนคนใหม่ทันที ดังนั้นเมื่อได้ยินข่าวนี้ เธอจึงดูมีความสุขขึ้นมาเล็กน้อยทันที

หลังจากนั้นเธอก็รีบไปซื้อเครื่องดื่มชูกำลังขวดหนึ่ง จากนั้นก็ตรงไปยังสนามบาส เพื่อไปหาหยวนซ่าว

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท