ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 176

ตอนที่ 176

ตอนที่ 176 หึงแปลก ๆ

เมื่อหวาเหวินและเจียงหยู่เห็นเรื่องนี้ ก็เกิดความรู้สึกงุนงงไม่น้อย

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย? คืออยากโปรโมตว่าเป็นคนรักกับหวาผิงเหรอ?” เจียงหยู่เดา

หวาเหวินส่ายหน้า “ไม่มีทาง พี่สามของฉันเกลียดการโปรโมตมากที่สุด ในแวดวงการบันเทิงก็ไม่มีใครกล้ามาให้เธอโปรโมตเป็นคนรักกับเธอด้วย แล้วยิ่งเด็กผู้ชายคนนี้ก็เป็นนักแสดงหน้าใหม่ด้วย อยากตายรึยังไง?”

“ใช่นะสิ…….แสดงว่าเคารพและศรัทธาหวาผิงมากจริง ๆ สงสัยจะชอบหวาผิงมาก? ฮ่าฮ่า…..น่าสนใจดีนี่”

เจียงหยู่มองเป็นเรื่องน่าสนุกโดยไม่กลัวว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ เหมือนกับมองดูความสนุกในโทรทัศน์เท่านั้น

แต่บางคนไม่ได้คิดแบบนี้

หวางเซียวอี้ที่กำลังนั่งทำงานอยู่ในเวลานี้ แล้วเขาก็ได้เห็นการแจ้งเตือนของพิธีมอบรางวัลในโทรศัพท์มือถือ

เมื่อเขาเห็นหวาผิง ก็รีบกดเข้าไปดูในไลฟ์สดในทันที

ไหนเลยจะคิดว่าเขาจะได้เห็นภาพนี้?

ไอหมาน้อยวัยละอ่อนนี้กำลังออดอ้อนหวาผิงอยู่? อยากแสดงบทคนรักกัน?

ทำไมเขาถึงได้กล้าพูดว่าอยากเล่นฉากเลิฟซีนบนเตียงแบบนี้? ช่างกล้าหาญชาญชัยเกินไปแล้ว

ใบหน้าของหวางเซียวอี้เคร่งขรึมไป จากนั้นก็ดูไลฟ์พิธีมอบรางวัลบนหน้าจอโทรศัพท์ต่อไป

หวาผิงมีอีคิวที่สูงมาก ย่อมไม่ยอมให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดแบบนี้แน่นอน

ดังนั้นเธอจึงได้ยิ้มอย่างอ่อนโยนออกมา “ฉันรู้ว่าคำพูดของน้องชายนั้นคงกำลังชมว่าฉันดูอ่อนเยาว์มากแน่ๆ ฉันดีใจนะคะ ความจริงแล้วฉันได้พบว่า นักแสดงหน้าใหม่ในตอนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเด็กช่างพูด และมีมารยาทมาก อีกทั้งยังถ่อมตัวมากอีกด้วย ฉันเชื่อว่าอนาคตของนายจะต้องมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน สู้ ๆ นะ ”

“ขอบคุณครับพี่หวาผิง” เด็กผู้ชายแสดงสีหน้าผิดหวังออกมาเล็กน้อย

เพราะหวาผิงหลีกเลี่ยงที่จะตอบคำถามของเขา ไม่ได้ตอบมาตรง ๆ คาดว่านี่คงจะเป็นการปฏิเสธแบบสุภาพ

หวาผิงไม่ได้ตอบด้วยคำพูดที่น่าลำบากใจนั้นออกมาตรง ๆ แต่เลือกที่จะพูดอวยพรประโยคหนึ่งแทน และก็สิ้นสุดบทสนทนานี้ลง

หลังจากได้รับเสียงปรบมือของทั้งงานแล้ว พิธีกรก็ได้พาหวาผิงมาส่งลงเวทีไป นี้ถือว่าเป็นอันสิ้นสุดลง

ณ ห้องพักหลังเวที

“เด็กคนนั้นมาจากบริษัทไหน?” หวาผิงแสดงสีหน้าเย็นชาออกมาในทันใด

ผู้ช่วยสาวรีบตอบกลับไป “เป็นคนของค่ายต้าเฟิง ว่ากันว่าเด็กฝึกจีนโพ้นทะเลคะ มีฐานแฟนคลับใน Weibo เป็นหมื่นเลยทีเดียวคะ”

“สั่งการไปว่าหลังจากนี้ฉันจะไม่ขอร่วมงานใด ๆ กับบริษัทต้าเฟิงอีก ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง”

“ค่ะ”

ผู้ช่วยรู้ว่าหวาผิงต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟมากขนาดนี้แน่ ๆ ที่ถูกไอหมาน้อยขี้อ้อนแซวบนเวที คนอารมณ์ร้ายอย่างเธอไม่มีทางอดกลั้นได้แน่

ส่วนเด็กผู้ชายคนนั้นจะพูดยังไงดีละ?

ชอบหวาผิงเป็นเรื่องจริง อยากร่วมงานกับเธอก็เป็นเรื่องจริง

เพียงแต่เขาพูดเป็นการส่วนตัวก็ได้ ทำไมจะต้องออกมาพูดหน้าคนมากมายขนาดนี้?

และไหนจะมีการถ่ายทอดสดออกไปอีก เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว คือการโปรโมต

คิดจะใช้หัวข้อนี้มาสร้างประเด็นร้อน ถึงอย่างไรเขาก็เป็นนักแสดงหน้าใหม่ สู้ชื่อเสียงของหวาผิงไม่ได้อยู่แล้ว

หลังจากที่หวาผิงมองเห็นได้ถึงความเห็นแก่ตัวของเขา จนเกิดความรังเกียจถึงที่สุด เลยออกคำสั่งไปว่าจะไม่ขอร่วมงานกับบริษัทนั้นไปอีกตลอดชีวิต

แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวที่สุด

บริษัทต้าเฟิงได้จ่ายเงินเป็นจำนวนเงินกว่า 1.6 ล้านหยวนสำหรับประเด็นร้อนของหนุ่มน้อยวัยละอ่อน

เพราะถือว่าหัวข้อทั้งสองคนก็ได้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาภายในสามชั่วโมงในยุคทองนี้ไปโดยปริยาย

แต่หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง Weibo ก็มีข่าวออกมาว่าทำไม่ได้ เงินทั้งหมดถูกคืนกลับมา

ทีมประชาสัมพันธ์ของต้าเฟิงได้เกิดความร้อนใจขึ้นมา ถ้าพลาดโอกาสนี้ไป หลังจากนี้คงจะไม่มีอีกแล้ว

ยังไม่ทันที่จะได้คิดแผนการรับมือแต่อย่างใด ก็มีข่าวอันน่าสังเวชใจออกมาอีกครั้ง

นั้นเป็นบทความที่ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านั้น 10 นาที โดยฝีมือของสถานีวิทยุกระจายเสียง

ในบทความนั้นถูกเขียนไว้ว่า —— โจวก้วนหยู้นักแสดงชายเชื้อสายจีนโพ้นทะเลจากบริษัทต้าเฟิง ได้กระทำการว่าจ้างพวกโฆษณาในการแข่งขัน ตัดสินให้นักแสดงหน้าใหม่ที่ได้รับรางวัลเมื่อสักครู่นี้ถือว่าเป็นโมฆะ และติดแบล็กลิสต์ไปตลอดชีวิต เพื่อเป็นการเตือนไปยังนักแสดงท่านอื่นที่คิดจะปฏิบัติตัวแบบนี้

“ก้วนหยู้ นาย……โดนแบล็กลิสต์แล้ว” ผู้จัดการส่วนตัวมองไปทางหนุ่มน้อยที่ยังคงถือรางวัลอยู่ในมือด้วยใบหน้าเสียดาย

“เป็นไปได้ยังไง?” หนุ่มน้อยเองก็แสดงท่าทางอึ้งงันออกมา

เขายอมเสียเงินไปเกือบหลายล้านมาโฆษณาโปรโมต เพื่อให้เขาได้เข้าวงการ เขาเพิ่งจะได้รับรางวัลแรก ยังไม่ทันที่คนอื่นจะสนใจในตัวเขาเลย? ก็ถูกแบล็กลิสต์เสียแล้ว? ตลกละ? ว่างจ้างโฆษณานั้นเป็นเรื่องจริง แต่ดาราเหล่านี้ต่างก็ทำกันแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ทำไมคนอื่นถึงไม่เป็นอะไร? เขาไม่ยอม

ห้องทำงานบริษัทตระกูลหวาง

“ประธานหวาง จัดการเรียบร้อยแล้วครับ เจ้าตัวถูกแบล็กลิสต์แล้ว” เลขานุการชายมองไปทางคุณชายตระกูลหวางที่อยู่เหนือชั้นกว่าทุกคน พร้อมกับรายงานอย่างระมัดระวัง

หวางเซียวอี้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท