ตอนที่ 190 พุ่งเข้ามาอย่างฉับพลัน
หลังจากที่กลับมาจากสถานีโทรทัศน์แล้ว หวาผิงหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
เธอโทรศัพท์ไปถามนักลงทุนถึงเรื่องที่ว่าทำไมถึงได้ถอนตัวออกทันที เพราะในตอนแรกทางบริษัทไม่ยอมบอก
ต่อมาก็ถูกหวาผิงขู่จนถามออกมาได้ ว่ากันว่าทางฝั่งนักลงทุนได้รับอิทธิพลบางอย่าง เลยถอนตัวกันออกไป
หวาผิงต้องโกรธอย่างแน่นอน เธอปลุกระดมเครือข่ายทุกคน สุดท้ายก็รู้ถึงมือมืดที่อยู่เบื้องหลัง นั้นก็คือหวางเซียวอี้
เธอเกือบโกรธจนแทบลมจับ ทำไมหมอนั้นถึงได้เข้ามาก้าวก่ายเรื่องของเธอ? และยังตั้งใจจะให้นักลงทุนถอนตัวออกไปอีก นี่คงไม่ไปขัดขวางเส้นทางรวยของเขาหรอกนะ?
ด้วยความโกรธหวาผิงไม่มีกระจิตกระใจโทรศัพท์ไปหาแต่อย่างใด เธอสวมเสื้อแล้วลงไปข้างล่าง จากนั้นก็ขับรถไปบ้านของหวางเซียวอี้ทันที
แน่นอนว่า ที่อยู่เธอได้โทรศัพท์ไปบอกให้หวาเหวินถามเจียงหยู่มาให้เรียบร้อยแล้ว
ณ เวลา 01.00 น.
หวางเซียวอี้เพิ่งจะหลับได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตู
เขาลุกขึ้นด้วยความงัวเงีย เสื้อคลุมก็ใส่แบบหลวม ๆ ไปเปิดประตูโดยที่ยังไม่ได้เตรียมตัวให้ดี
เมื่อประตูเปิดออก หวาผิงก็พุ่งเจ้ามาทุบเข้าที่หน้าอกของเขา
หวางเซียวอี้คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหวาผิง เลยถอยร่นไปด้านหลังทันที
ด้วยความไม่ระวัง เขาเลยล้มลงไปกองอยู่บนพรหม หวาผิงเองก็ล้มตามเขาไปด้วย……
ทั้งสองคนเลยตัวแนบชิดติดกันในทันใด
อีกนิดเดียว ริมฝีปากก็จะประกบเข้าหากันแล้ว
หวาผิงที่อยู่ในอารมณ์คุกรุ่นก็ได้ลุกขึ้นมานั่ง จากนั้นก็ทุบไปบนตัวเขาอีกครั้ง
“หวางเฮงซวย นายมันเลวทรามได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยจริง ๆ ทำไมเมื่อก่อนฉันถึงไม่สงสัยนายเลยสักนิดนะ หา? คนที่ชอบแทงข้างหลัง นี่คือเรื่องที่ผู้ชายสมควรทำเหรอ? ฉันยังคิดมาตลอดว่าเพื่อนของเจียงหยู่ เลยไม่คิดว่าจะเลวได้ขนาดนี้ นึกไม่ถึง ว่านายเปลี่ยนมุมมองฉันไปถึงสามครั้งด้วยกัน” หวาผิงพ่นคำด่าออกไปราวกับปืนเลเซอร์ ที่กราดยิงได้ในทันทีอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อหวางเซียวอี้เห็นว่าเรื่องถูกเปิดเผยแล้ว จึงไม่ปิดบังอีกต่อไป
เขายิ้มพร้อมกับจับไปบนกำปั้นเล็ก ๆ ทั้งสองข้างของเธอ “เพราะเรื่องนี้เธอเลยถลันมาหาฉันถึงในบ้านในเวลากลางดึกแบบนี้ใช่ไหม?”
“นายคิดว่าฉันจะปล่อยนายไปง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ?” หวาผิงถลึงตาใส่
“แต่เธอทำแบบนี้อาจจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดก็ได้นะ เธอดูสิพวกเราอยู่ในสภาพไหน”
หวางเซียวอี้เตือนสติ หวาผิงเลยเพิ่งจะตระหนักได้ว่าตัวเองนั้นนั่งอยู่บนตักของเขา ส่วนหวางเซียวอี้ก็นอนอยู่บนพื้น
อีกทั้งชุดคลุมอาบน้ำต่างก็หลุดลุ่ยออกหมด จนเผยให้เห็นหน้าอกที่เปลือยเปล่า กล้ามเนื้อสีน้ำตาลที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน สิ่งที่เกือบจะคร่าชีวิตได้ก็คือ ขอบกางเกงในส่วนล่างได้เผยออกมาให้เห็นครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว
นี่เป็นความสัมพันธ์ที่คลุมเครือเอามาก ๆ
หลังจากที่หวาผิงได้สติกลับมาแล้ว เธอก็รีบลุกขึ้นแล้วขึ้นไปนั่งบนโซฟาที่อยู่ด้านข้างทันที
แต่ก็ยังไม่วายที่ถือโอกาสนี้เตะไปบนก้นของหวางเซียวอี้หนึ่งที โหดร้ายอะไรขนาดนี้
“หวางเซียวอี้ ฉันขอถามนายหน่อย ว่านายมีสิทธิ์อะไรมาก้าวก่ายงานของฉัน? เรื่องนักแสดงหน้าใหม่ครั้งที่แล้วก็ฝีมือนายใช่ไหม?” หวาผิงนึกถึงประโยชน์และความเสียหายขึ้นมาได้ในทันที
หวางเซียวอี้นวดท้ายทอยเล็กน้อยด้วยใบหน้าเรียบเฉย “เธอคือแฟนของฉัน ไปมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับผู้ชายคนอื่น ฉันย่อมมีส่วนเกี่ยวข้องอยู่แล้ว”
“แฟน? นายบ้าไปแล้วเหรอ? นั้นมันก็แค่เรื่องโกหก ฉันแค่แกล้งเป็นแฟนกับนายเพียงไม่กี่วันเท่านั้น นายคิดจริงขึ้นมาสักงั้น? นายคงไม่คิดว่าฉันจะไปตกหลุมรักนายหรอกใช่ไหม? หา? นายไม่ส่องกระจกดูสารรูปตัวเองบ้างเหรอ? ตัวก็ขาวซีด ดูไม่เหมือนผู้ชายเลยสักนิด คิดว่าฉันจะไปชอบนายเหรอ?” หวาผิงโกรธควันออกหู จนพูดอะไรไม่น่าฟังออกไป ไม่สนใจความรู้สึกของคนฟังแต่อย่างใดด้วย
หวางเซียวอี้เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ไม่เหมือนกับผู้ชาย? หวาผิงเธอกล้าพูดแบบนี้อีกรอบหนึ่งนะ?”
“ฉันจะพูด แล้วนายจะทำไม? ตีฉัน? นายไม่เหมือนผู้ชาย ไม่ใช่ทั้งชายและหญิง กระเทย…….”
ประโยคหลัง หวาผิงยังไม่ทันได้พูดออกมา เพราะเธอถูกคนจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว จากนั้นริมฝีปากก็ถูกอีกฝ่ายอุดปากจนมิดชิดทันที
หวาผิงตื่นตกใจ ดิ้นพล่านอย่างบ้าคลั่ง แต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงเลยสักนิดเดียว
รู้สึกแค่เพียงแค่ริมฝีปากได้ถูกงัดออก จากนั้นก็มีบางสิ่งบางอย่างที่อ่อนนุ่มถลันเข้ามา พริบตาเดียว หัวสมองของเธอก็ว่างเปล่าลงไปในทันที