ตอนที่ 177 พ่อแม่สามีเร่งให้มีลูก
คุณชายหวางโกรธมาก ผลลัพธ์มันเลยร้ายแรงมากทีเดียว
แต่ทำไมถึงโกรธนะเหรอ? หวางเซียวอี้เองก็ไม่รู้เช่นเดียวกัน เมื่อเห็นไอหนุ่มน้อยคนนั้นก็ขัดตาไปเสียหมด
เขาพร่ำบอกกับตัวเองอยู่ในใจว่ามันไม่ได้มีความสัมพันธ์กับหวาผิง
แต่ ใครจะเชื่อละ?
คาดว่าไอหนุ่มน้อยคนนั้นก็คงจะไม่เข้าใจเหมือนกัน วินาทีก่อนหน้านั้นเขาเพิ่งจะได้รับรางวัล และเป็นที่สนใจของคนจำนวนมาก แต่วินาทีต่อจากนั้นกลับถูกแบล็คลิสต์ซะงั้น
เดาได้เลยว่าข่าวประเด็นร้อนกับหวาผิงก็คงจะถูกลบออกเช่นเดียวกัน หรือว่า……จะไปล่วงเกินหวาผิงเข้า?
คนของบริษัทต้าเฟิงอึ้งงันไปจริง ๆ ฝ่ายประชาสัมพันธ์เองก็มืดแปดด้านไปหมด ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง?
สุดท้ายเจ้านายของพวกเขาก็พูดว่าใช่เรื่องที่ไปล่วงเกินหวาผิงเมื่อสักครู่รึเปล่า? หวาผิงเป็นคนทำเหรอ?
ถึงอย่างไรตระกูลหวาก็เป็นตระกูลผู้ทรงอิทธิพลใหญ่ในเมืองแห่งนี้ ดารานักแสดงก็ยังเทียบความมั่งคั่งกับเจ้าตัวไม่ได้เลย ช่างน่าขันยิ่งกว่าอะไร
ดังนั้นหนุ่มน้อยก็เลยถือโอกาสตอนที่หวาผิงยังไม่ได้ออกจากห้องพัก เข้าไปกล่าวขอโทษ
เมื่อเด็กหนุ่มเข้าไปในห้อง หวาผิงที่อยู่ในชุดราตรีมีเสื้อโค้ชหน้าคลุมไหล่ก็กำลังดื่มกาแฟร้อนอย่างสบายใจ
“พี่หวาผิงครับ” หนุ่มน้อยคนนี้เดินเข้ามาด้วยสีหน้าอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม
หวาผิงขมวดคิ้ว? ไม่พูดอะไร
“พี่หวาผิงครับ ผมจะมาขอโทษสำหรับเรื่องที่ผมไปล่วงเกินพี่บนเวทีเมื่อสักครู่นี้ครับ พี่เป็นผู้ใหญ่มากกว่า ผมไม่สมควรคิดเพ้อเจ้อจนก่อเกิดขึ้นมาเป็นประเด็นร้อน จนถึงขั้นอยากเป็นคู่รักกับพี่เพื่อโปรโมต ผมเป็นเพียงแค่นักแสดงหน้าใหม่ หวังว่าพี่จะให้โอกาส ผมขอสัญญาว่าหลังจากนี้จะไม่ทำเรื่องที่หยาบคายไร้ซึ่งมารยาทใด ๆ อีกแล้วครับ ขอร้องละครับ”
“เอ่อ……ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรฉันก็พูดไปแล้ว ว่าจะไม่ขอร่วมงานกับนักแสดงของบริษัทพวกนายอีก ดังนั้นไม่จำเป็นต้องมาขอโทษ”
พูดจริง ๆ เลย หวาผิงไม่ชอบเด็กคนนี้เอาเสียเลย ถึงแม้ว่าจะดูดีก็ตาม
แต่ก็เป็นผู้ชายที่กระหายความสำเร็จ และเห็นแก่ประโยชน์มากเกินไป เธอไม่ชอบ
ตั้งแต่อยู่ในวงการบันเทิงมาเนิ่นนานหลายปี เธอเจอคนแบบนี้เยอะมาก
“ผมรู้ครับว่าพี่โกรธ แต่……..อย่าถึงกับแบล็กลิสต์ผมเลยได้ไหมครับ? ผมรู้ชื่อเสียงของพี่ดี ตระกูลหวาเป็นผู้ทรงอิทธิพลทุกสิ่งอย่างในเมืองนี้ วิทยุกระจายเสียงก็ต้องพูดเรื่องของพวกพี่แน่นอน ครอบครัวของผมต้องเสียเงินไปไม่น้อยเพื่อเอาใจผม ผมไม่อยากให้ความพยายามของพ่อแม่สูญสิ้นทุกอย่าง ขอร้องละครับ พี่หวาผิง”
หนุ่มน้อยพูดด้วยความสะเทือนใจ พร้อมกับคุกเข่าลงไปบนพื้น
หวาผิงตกใจจนเกือบจะพ่นกาแฟในปากออกมา
“นายอย่ามาทำแบบนี้นะ รีบลุกขึ้นเดี๋ยวนี้”
“พี่หวาผิง ถ้าพี่ไม่แบล็กลิสต์ผม ผมถึงจะลุกขึ้นครับ”
“แบล็กลิสต์ไม่ใช่ฝีมือของฉัน ฉันไม่ได้มีความสามารถมากมายขนาดนั้น” หวาผิงคิดว่าเขาคงเข้าใจผิดคิดว่าเธอทำ
“ไม่ใช่พี่?” หนุ่มน้อยเองก็แสดงสีหน้าตื่นตกใจออกมาเช่นเดียวกัน
หวาผิงวางถ้วยกาแฟลงด้านข้าง พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ไม่ใช่ฉันจริง ๆ ฉันไม่ยอมรับในสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำอยู่แล้ว ฉันโกรธวิธีการที่นายทำกับฉันบนเวที แต่ฉันเพียงแค่บอกไปว่าหลังจากนี้จะไม่ขอร่วมงานกับนักแสดงจากบริษัทต้าเฟิงของพวกนายอีก ไม่ได้ออกคำสั่งไปให้ติดแบล็กลิสต์นาย ดังนั้นบทความนั้นไม่ใช่ฝีมือของฉัน ถ้านายไม่เชื่อ ฉันเองก็จนปัญญา”
เมื่อหวาผิงพูดจบ ก็ลุกขึ้นแล้วเดินไป
เธอไม่อยากยอมรับการคุกเข่าของหนุ่มน้อยที่นี่ เธอรับไม่ได้จริง ๆ
ถ้าถูกคนอื่นเห็นเข้า แล้วจะหาว่าเธอผู้อาวุโสกว่ากำลังรังแกคนใหม่
เมื่อได้ยินว่าไม่ใช่ฝีมือของหวาผิง หนุ่มน้อยก็อึ้งงันไปอีกครั้ง คืนนี้บริษัทต้าเฟิงเป็นคืนที่หลับยากอีกคืนหนึ่งจริง ๆ
เพราะถ้าหนึ่งในตระกูลใหญ่ลงมือจริง ๆ พวกเขาไม่มีทางพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างแน่นอน บีบพวกเขาให้ตายยังง่ายกว่าบีบมดตัวหนึ่งเสียอีก
เหตุการณ์วุ่นวายของหวาผิงได้ผ่านพ้นไป เพราะสื่อไม่ได้รายงานข่าวนี้ของเธอ
ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หวาเหวินได้กลับไปยังบ้านใหญ่ของเจียงหยู่
พ่อแม่ของเจียงหยู่ตักผักให้กับหวาเหวินอย่างไม่ขาดสาย แล้วก็ยังกำชับให้เธอกินเยอะ ๆ อีกด้วย
“เหวินเหวิน หนูผอมเกินไปแล้วนะ กินเยอะ ๆ นะ”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่” หวาเหวินก้มหน้าลง
“แต่เรื่องที่ฉันกับพ่อของเธอเป็นกังวลอยู่ในตอนนี้ก็คือ เมื่อไหร่ทั้งสองคนจะวางแผนมีลูกด้วยกันสักทีละ?” แม่ของเจียงหยู่ถามขึ้นในที่สุ