ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 217

ตอนที่ 217

ตอนที่ 217 ค่อนข้างตกที่นั่งลำบาก

เจียงหยู่มองการแสดงออกที่จริงจังของหวาเหวิน ก็รู้สึกว่าน่ารักเกินบรรยาย

เขาเอื้อมมือออกไป กุมมือเล็กของเธอไว้

“อย่าห่วงไปเลย ไม่มีอะไรหรอก คนพวกนั้นอยากพูดอะไรล้วนดี แต่ผมไม่ได้ทำ ผมไม่กลัว ถ้าหากมีคนจงใจใส่ร้าย ถ้าอย่างนั้นผมจะจัดการเอง”

“ก็ได้ ในเมื่อคุณไม่ใส่ใจ ฉันจะกลัวอะไร”

หวาเหวินรู้สึกว่าตัวเองเอาใจใส่ค่อนข้างไร้ประโยชน์ใช่หรือไม่?

เตือนใจให้ดี แต่ไหนแต่ไรมาทุกคนก็ล้วนไม่ได้ใส่ใจ สภาพจิตใจมั่นคง

หวาเหวินพูดจบและต้องการออกไป เจียงหยู่ไหนเลยจะดูไม่ออกว่ามันหมายความว่าเธอโกรธขึ้นนิดหน่อย ดังนั้นจึงดึงไว้ไม่ปล่อยมือไม่ให้เธอไป

“คุณปล่อยมือนะ”

“ผมไม่ปล่อย”

“เจียงหยู่คุณอย่าทำตัวเป็นเด็กอนุบาล”

“เหวินเหวิน ผมอยากดื่มกาแฟ ช่วยชงมาให้ผมสักแก้วได้ไหม?”

หวาเหวิน: ……

“ก็ได้ ประธานเจียง คุณรอสักครู่” หวาเหวินยิ้มขึ้นมาจริง ๆ แล้ว หมายความว่าเจียงหยู่กำลังออดอ้อนอย่างนั้นหรือ?

แต่มันก็เป็นความจริงที่เธอไม่ค่อยได้ทำอะไรเพื่อเข้าเลย อยากดื่มกาแฟตอนนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ชงสักแก้วก็แล้วกัน กลับกันก็ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากอะไร

เจียงหยู่ปล่อยมือ หวาเหวินก็ไงกาแฟมาให้เขา

เดิมทีคิดว่าส่งกาแฟให้เสร็จแล้วก็จะออกไป แต่ไม่ทันคิด ไม่ว่าอย่างไรก็โดนเขาดึงไปคุยเรื่องสถาปัตยกรรมตะวันตกหลายชั่วโมง

หวาเหวินไม่ค่อยเข้าใจนัก มันเป็นเพียงความชอบส่วนบุคคลเท่านั้น พูดสิ่งเหล่านั้นไป พวกนี้ก็ล้วนมาจากการอ่านหนังสือ

เจียงหยู่เพราะหลังจากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศ ก็ไปเที่ยวหลายประเทศ ดังนั้นเขาจึงสามารถออกความเห็นได้อย่างเต็มที่

ทั้งสองคนพูดคุยกันเรื่องความสนใจด้วยอย่างคึกคักจนถึงครึ่งคืนถึงได้ไปนอน

แต่แซ่จื๋อจ้วนไม่ได้โชคดีขนาดนั้น บริษัทเพิ่งจะเริ่มออกเดิน ตอนนี้เป็นเพราะมีคนเสียชีวิต ต้องแบกรับชื่อเสียงที่ไม่ดี และจำนวนที่ดิ่งลงอย่างรวดเร็ว

หุ้นของบริษัทยิ่งตกลงจนไม่กล้าที่จะมอง ลูกค้าล้วนพากันยกเลิกการสั่งจอง ความเสียหายพวกนี้เพิ่มขึ้น มากกว่าเรื่องยุ่ง ๆ เมื่อก่อนของบริษัทซินเซฺ่งเป็นเท่าตัว

ในเวลานี้ได้ความกดดันมาก เขาอยู่ที่คฤหาสน์ ก็นอนไม่หลับ

และได้ปล่อยให้คนใต้บังคับบัญชาตรวจสอบแล้ว ดูว่าท้ายที่สุดแล้วเป็นใครกันที่อยู่เบื้องหลัง? แต่กลับตรวจไม่พบเบาะแสเลยไม้แต่น้อย

“ประธานแซ่ ตอนนี้ตามความเสียหายวันนี้ยังลดลงอย่างต่อเนื่อง บริษัทของพวกเราจะเป็นหนี้กว่าหนึ่งพันล้านภายในสิ้นเดือนนี้…… ผมคิดว่าคุณต้องคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะหยุดความเสียหายเถอะ ถ้าหากประกาศเลิกกิจการในตอนนี้ อาจจะสามารถลดความเสียหายให้น้อยลงได้” นี่คือข้อความจากฝ่ายการเงินของบริษัทส่งมา

แซ่จื๋อจ้วนอ่านแต่ไม่ได้ตอบ

“ประธานแซ่ พวกเราจากแหล่งการผลิตยังต้องการรับซื้อหญ้ารวมจิตอยู่ไหม? ได้ยินมาว่าตอนนี้เกิดเป็นหาขึ้น ถ้าอย่างนั้นพวกเราทำการผลิตต่อหรือว่าให้หยุดไว้ก่อน?” ทีมงานทางตะวันตกเฉียงเหนือเองก็ส่งข้อความมาถามความเห็นเขา

“จื๋อจ้วน เจตนาของฉันกับพ่อคือ ให้คุณขายบริษัทออกไปเถอะ หลังจากนั้นก็กลับมาทำงานที่สำนักงานใหญ่ เป็นอย่างนี้แล้วคุณไม่สามารถต้านทานได้ไม่นานเท่าไรแล้ว ยิ่งนานหนี้ที่ต้องชำระจะยิ่งมาก สุดท้ายก็จะเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ พ่อไม่ตำหนิคุณ คุณสบายใจได้” นี่คือสิ่งที่แซ่เฟยโม่ส่งมา

แซ่จื๋อจ้วนไล่อ่านทุกข้อความ ไม่รับสายโทรศัพท์ ส่วนสภาพจิตใจหรือ มันคงจะเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว

เขาคิดไว้นานแล้วว่าการทำธุรกิจนั้นมีความเสี่ยง แต่ไม่คิดว่าความเสี่ยงนั้นจะมาเร็วขนาดนี้

ทำให้เขาค่อนข้างจะต้านทานไม่ไหว ทำให้ต้องตกที่นั่งลำบาก

แม้กระทั่งตอนที่เขานอนแผ่อยู่บนที่นอนก็ยังคงคิด หวาเหวินเห็นข่าวแล้ว อาจจะยิ่งดูถูกเขาหรือเปล่านะ?

คงจะคิดว่าเขาเป็นลูกผู้ลากมากดีที่ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ เจียงหยู่เองก็คงจะหัวเราะเยาะเขาสินะ?

ยังมีเหล่าคนที่เขาได้ล่วงเกินก่อนหน้านี้ ในตอนนี้คงจะหัวเราะเยาะตัวเองอยู่แน่

เสียงเรียกสายวิดีโอในโทรศัพท์ดังขึ้น เขากวาดตามอง เป็นแซ่หนิงที่โทรมา แต่ว่ายังคงไม่รับสาย

หลังจากเสียงดังอยู่นาน แซ่หนิงก็วางสายแล้วหันกลับไปมองพ่อแม่

“ลุงสองไม่รับสาย ฉันส่งไปเขาก็ไม่ตอบ”

“ดูแล้วอารมณ์ด้านลบของเขาจะเป็นหนักกว่าที่พวกเราคิดกัน” เฝิงหยู่มองสามีของตัวเอง

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท