ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 263

ตอนที่ 263

ตอนที่ 263 สวยแบบผิวเผิน

เมื่อหวาเหวินถูกถามแบบนี้ และยังเป็นการถามจริงจังด้วย ซึ่งหวาเหวินยังไม่เคยคิดมาก่อน

ถ้าให้เธอคิดละก็ งั้นเธอก็จะคิดอย่างจริงจัง หลังจากที่ครุ่นคิดราว 10 วินาที หวาเหวินก็เอ่ยปาก “ถ้าเลือกได้อิสระละก็ ฉันอยากเกิดในครอบครัวที่มีสมาชิกแค่ 4 คน มีพี่ชายที่อายุมากกว่าและรักฉันคนหนึ่ง มีแม่ที่เป็นอาจารย์สอนภาษา มีพ่อที่คนงานทำทางรถไฟ ถึงแม้ว่าจะดูธรรมดา แต่กลับตำแหน่งหน้าที่จุดประกายแสงสว่างไม่น้อย อุทิศตัวให้กับสังคม ส่วนฉันน่าจะเป็นหมอ ดีที่สุดก็น่าจะเป็นหมอสูตินรีแพทย์ ใช้มือทั้งสองของตัวเอง ช่วยให้กำเนิดชีวิตใหม่ ช่วยหญิงตั้งครรภ์ได้เพิ่มมากขึ้น เยียวยาครอบครัวบางครอบครัว น่าจะเป็นความรู้สึกที่น่าประทับใจไม่น้อย”

ความปรารถนานี้ของหวาเหวินช่างงดงามมาก ขนาดหวาฟ้านที่ได้ยินก็ยังซาบซึ้งไม่น้อย

“ถ้าเธอเป็นหมอ จะต้องเป็นหมอที่สวยที่สุดในประเทศแน่ ๆ เลย ฮ่า งดงามวิจิตรเลยแหละ” หวาฟ้านชมอย่างเว่อร์วัง

หวาเหวินยิ้มโดยไม่พูดอะไร…….

นี่เป็นเพียงแค่ความปรารถนาของพี่สาวและน้องสาวเท่านั้น ซึ่งความจริงแล้วต่างคนต่างรู้ว่าชีวิตคนเราจะมีโอกาสให้เราเลือกใหม่ได้ที่ไหนกัน?

มีหวาเหวินอยู่ด้วย สภาพจิตใจของหวาฟ้านดีขึ้นมากทีเดียว และยังทำให้ฟื้นฟูสภาพร่างกายขึ้นอีกด้วย แต่เธอก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่

ในโรงพยาบาล ชุนเถาและหยินซิ่งคอยผลัดเปลี่ยนเวรกันมาดูแลหวาฟ้าน

กลางคืนหวาเหวินกลับบ้าน กลางวันมาโรงพยาบาล แทบไม่มีเวลาไปเข้าเรียนเลย

ส่วนทางด้านของคุณหมอเมื่อได้ลายเซ็นยินยอมจากพ่อและแม่ของคนไข้แล้ว ก็เตรียมการทำการผ่าตัดการเจาะช่องท้องทันที รอแค่เวลาเท่านั้น

หลังจากนั้นสามวันเธอก็ได้รับสายของอวู๋ผิง เธอได้ของใหม่มาชิ้นหนึ่ง

หวาเหวินจึงนัดเจอกับอวู๋ผิงที่มหาวิทยาลัย

หลังจากที่ประเมินแล้ว หวาเหวินก็นำเงินจำนวน 30,000 หยวนให้กับอวู๋ผิง เพื่อให้มั่นใจว่านี่เป็นค่าตอบแทนที่เธอควรจะได้รับ

ไอคิวและอีคิวของอวู๋ผิงนั้นไม่มีปัญหา หลักสูตรวิชาชีพก็โดดเด่น

เพียงเพราะหน้าตาและสถานภาพครอบครัว จึงทำให้เธอไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง

หวาเหวินให้ความสำคัญกับเธอ เธอจึงดำเนินชีวิตอย่างมีความหวัง นอกจากเข้าเรียนแล้ว เวลาว่างก็มักจะไปหาของโบราณที่มีราคาสูงอยู่เสมอ

แน่นอนว่าของที่เธอหามานั้นมีขนาดเล็กไปจนถึงระดับปานกลาง สมบัติล่ำค่าไม่มีทางปรากฏขึ้นมาบนแผงลอยอย่างแน่นอน

“เหวินเหวิน ขอบใจเธอมาก ฉันทำเงินได้ตั้ง 60,000 หยวนแนะ ฮ่า คือฉันคิดแบบนี้ ตลาดของเก่าในเมืองเจียงฉันก็เดินมาหมดแล้ว แผงลอยก็ดูมาหมดแล้ว อาจจะเป็นจุดอิ่มตัว ก้าวต่อไปฉันตั้งใจว่าจะถือโอกาสในช่วงวันหยุดนั่งรถกลับบ้าน ไปเผชิญกับโชคชะตา ดูสิว่าจะได้ของดี ๆ มารึเปล่า?”

“วิธีการไม่เลวเลยนี่ แต่เธอต้องระวังตัวด้วยนะ ออกไปหาได้แต่ตอนกลางวันนะ ห้ามออกไปกลางคืนเด็ดขาด” หวาเหวินเตือนขึ้น

“อื้อ ฉันรู้แล้ว” อวู๋ผิงมีความสุขมาก เธอรู้สึกว่าเพื่อนเทพธิดาคนนี้ของเธอเป็นคนที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของตัวอง และรู้สึกเคารพต่อหวาเหวินมากกว่าเมื่อก่อน

“เสี่ยวผิง เธอเคยคิดที่จะทำศัลยกรรมบ้างไหม?” หวาเหวินถามขึ้นมากะทันหัน

อวู๋ผิงตกใจขึ้นมาทันใด “ศัลยกรรม?”

หวาเหวินไม่ได้พูดอะไร นอกจากกวาดตามองไปทางใบหน้าของเธอด้วยสายตาเรียบเฉย จริง ๆ แล้วโครงหน้าของเธอก็พอใช้ได้ อาจเป็นเพราะหนังตาชั้นเดียวของเธอ สันจมูกที่แบนลงไป ผิวกายที่ไม่ได้ขาวมาก ดังนั้นเมื่อนำมารวมเข้าไว้ด้วยกันจึงดูเหมือนกับยัยบ้านนอกเฉิ่ม ๆ คนหนึ่ง ถ้าจะแก้ไข ก็น่าจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่เลวเลย

“ไม่เอาหรอก ฉันไม่จ่ายเงินที่ไม่คุ้มเสียแบบนั้นหรอก ได้ยินมาว่าต้องใช้เงินจำนวนไม่น้อยเลยนี่น่า”

“แต่เธอเคยคิดบ้างไหมว่านี่มันคือการลงทุน? เธอจ่ายเงินเพื่อเปลี่ยนให้ตัวเองดูสวยขึ้น หลังจากนั้นก็หางานทำไม่ก็หาสามีสักคน ต่างก็เป็นที่พึ่งพิงที่ไม่เลวนี่ ……ถึงอย่างไรคนเราต่างก็ชอบมองของสวย ๆ งาม ๆ อยู่แล้ว เรื่องนี้เธอน่าจะรู้ซึ้งแก่ใจดี อีกอย่างมันก็เป็นความงามแบบผิวเผิน และถึงจะดูผิวเผิน ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ยังเลือกที่จะกินสิ่งเหล่านี้ สำหรับฉันแล้ว การที่เธอมีนิสัยกระเง้ากระงอดเอาแต่ใจต่างก็มีเหตุผลของเธอ ถ้าเธอน่าเกลียด …….แม้แต่โอกาสในการสารภาพรักก็จะไม่มีนะ”

หวาเหวินรู้ถึงแม้ว่าตัวเองจะดูโหดร้ายอยู่บ้าง อาจจะทำร้ายความนับถือในตัวเองของอวู๋ผิงไปบ้างก็ตาม แต่นี่ก็เป็นคำแนะนำที่ดีสำหรับเธอมากทีเดียว

หลังจากที่อวู๋ผิงได้ยิน ก็ได้แต่ก้มหน้าลงโดยไม่พูดอะไร……

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท