ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ – ตอนที่ 293

ตอนที่ 293

ตอนที่ 293 ไม่ได้สนิทกันมาก

“ยากใช่ไหม?” ฉินชุงเจี้ยนเลิกคิ้วมองแซ่จื๋อจ้วน

“ไม่ใช่ ไม่ยากหรอก แต่ปัญหาคือตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าคาสิโนของคุณที่เนปาลในแต่ละปีมีเงินปันผลเท่าไหร่ หมดหนทางจะคำนวณมูลค่านี้……ดังนั้นถ้าให้น้อยไปก็กลัวว่าจะไม่ยุติธรรมกับคุณ เอาอย่างนี้……คุณเสนอมาเองได้เลย ต้องการเท่าไหร่ ไม่ต้องลังเล”

แซ่จื๋อจ้วนกับฉินชุงเจี้ยนไม่ได้สนิทกันมาก เพราะเขาเป็นเพื่อนสนิทของเจียงหยู่

แต่ก็พอจะรู้มาบ้าง เกี่ยวกับการวางตัวของฉินชุงเจี้ยน ค่อนข้างจะเก็บตัว แล้วก็ไม่ใช่คนที่ถือโอกาสฉกฉวยผลประโยชน์ประเภทนั้น

ดังนั้นเขาถึงกล้าพูดอย่างเต็มที่ และแน่นอนว่าเชื่อในความมีศีลธรรมของฉินชุงเจี้ยน

ฉินชุงเจี้ยนก้มหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงถามแซ่จื๋อจ้วน “ได้ยินมาว่าผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดของบริษัทยาจื๋อจ้วนจำกัดคือน้ำค้างเซีองเฟย? ที่หวาผิงให้การรับรองอันนั้น?”

“ใช่”

“กำไรจากยอดจำหน่ายในแต่ละเดือนเท่าไหร่?”

“ประมาณเจ็ดสิบล้าน” แซ่จื๋อจ้วนตอบ

“หนึ่งเดือนเจ็ดสิบล้านหนึ่งปีก็หนึ่งร้อยล้านกว่าๆ ก็ยังดี……เอาอย่างนี้แล้วกัน หุ้นของบริษัทคุณฉันไม่ต้องการ แต่ผลิตภัณฑ์ยาตัวนี้แบ่งให้ฉันห้าส่วน ฉันต้องการหลังจากที่หักภาษีแล้ว”

“ได้”

“ง่ายดายอย่างนี้เลย?” ฉินชุงเจี้ยนค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าแซ่จื๋อจ้วนจะตกลงอย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้

“เรื่องปกติ น้องสาวฉันเป็นครอบครัวของพวกเรา เงินทองไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้ ไม่ต้องพูดถึงส่วนนี้ ถ้าคุณต้องการมากกว่า ฉันก็จะให้”

ความคิดที่แซ่จื๋อจ้วนมีต่อน้องสาวนี้ ทำให้ฉินชุงเจี้ยนค่อนข้างซาบซึ้ง

ตนเองอยู่ในตระกูลที่มีทั้งเงินทองมีทั้งอิทธิพล แต่ยังให้ความสำคัญกับความผูกพันทางสายเลือดเช่นนี้ ไม่ง่ายเลยจริงๆ

ให้แซ่จื๋อจ้วนเฉือนเนื้อตนเอง เขาก็ทำอย่างไม่รีรอ ด้วยจุดนี้เอง ฉินชุงเจี้ยนจึงรู้สึกว่า แซ่จื๋อจ้วนเป็นคนที่ใช้ได้เลย คุ้มค่าที่จะช่วยเหลือสักหน่อย

ฉินชุงเจี้ยนหัวเราะ “ฉันก็ไม่ใช่คนที่จะเรียกร้องมากเกินไป มากกว่านี้ก็ช่างเถอะ ในเมื่อคุณมาพบฉัน ก็ถือว่าเชื่อใจฉัน อีกอย่าง……จะอย่างไรฉันกับน้องสาวคุณก็รู้จักกันนิดหน่อย นอกเหนือจากที่บอกฉันไม่ต้องการแล้ว เพียงแค่ต้องการสิ่งเหล่านั้นที่พวกมาเฟียเนปาลใช้ควบคุมฉัน ฉันเอาคืนมาได้ก็พอแล้ว”

“อย่างไรก็ตามครั้งนี้ที่คุณช่วยเหลือ ฉันจำเอาไว้แล้ว ต่อไปหากต้องการอะไรของตระกูลแซ่ ฉันจะไม่ปฏิเสธแน่นอน”

แซ่จื๋อจ้วนซาบซึ้งใจฉินชุงเจี้ยนอย่างมาก คิดถึงน้องสาวถ้ากลับมา พ่อแม่ก็จะไม่กังวลใจอย่างนั้นอีกแล้ว

“ได้ เรื่องของอนาคตต่อไปค่อยว่ากัน”

ฉินชุงเจี้ยนยิ้ม ไม่ได้พูดอะไรมากมายก็ไปแล้ว

เวลาหนึ่งทุ่ม

เจียงหยู่จัดงานเลี้ยง อยู่ที่ร้านอาหารบาเซียน ร้านอาหารบาเซียนเป็นร้านอาหารส่วนตัวของเจียงหยู่เอง

เอาไว้สำหรับต้อนรับลูกค้าและเพื่อนของตน เจียงหยู่อยากจะเลี้ยงข้าวทุกคนสักมื้อมาตั้งนานแล้ว แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากมีงานทยอยเข้ามาอยู่ตลอดเวลา

วันนี้พอดีกับที่กาวหนานก็อยู่ที่เมืองเจียง จึงจัดงานเลี้ยงนี้ขึ้น

หวาเหวินซาบซึ้งใจมากที่เจียงหยู่คอยอยู่เป็นเพื่อนในช่วงเวลาสั้นๆนี้ โดยเฉพาะเรื่องของหวาฟ้าน ช่วยเหลือไปไม่น้อยเลย ดังนั้นจึงตอบตกลงมากับเขาอย่างสบายใจมาก

รู้ว่าหวาเหวินไม่กินเนื้อสัตว์ เจียงหยู่ยังตั้งใจสั่งในครัวให้ทำอาหารมังสวิรัติ20อย่างมาโดยเฉพาะ ละเอียดรอบคอบอย่างยิ่ง

นอกจากเจียงหยู่หวาเหวินสามีภรรยาแล้ว ฉินชุงเจี้ยน หวางเซียวอี้ กาวหนานทั้งหมดก็มาถึงกันหมดแล้ว

แต่ที่ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึงก็คือ หวาผิงก็มาด้วย

เจียงหยู่เป็นคนเชิญหวาผิงมา แน่นอนว่า ก่อนหน้านี้เขาปิดเป็นความลับ ไม่ได้บอกกับทุกคนในกลุ่มเลย

หวางเซียวอี้ก็ไม่รู้ ดังนั้นตอนที่หวาผิงเข้าประตูมา เขาประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งจริงๆ ในทันทีก็กลับมาสุขุมตามเดิม

“ว้าว ดาราดัง” กาวหนานหยอกล้อ

“ช่วงนี้นายไม่ได้ยุ่งอยู่กับการจีบสาวหรือ?” หวาผิงยื่นมือไปดีดหัวของกาวหนาวทันที มองออกเลยว่าเธอกับพวกเขาไม่กี่คนนี้ล้วนแต่รู้จักกันดี

“ฮ่าๆ จีบสาวหมายความว่าอะไร กินเหล้าสนุกกว่าเยอะเลย” กาวหนาวกับหวาผิงกำลังส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว

ฉินชุงเจี้ยนมองหวาผิง “คนสวยสบายดีนะ”

“สุดหล่อ อย่ามาพูดเล่นหน่า กินข้าวกับคุณไม่ง่ายเลย เก็บตัวขนาดนั้น” พูดจบ หวาผิงก็นั่งลงข้างๆหวาเหวิน คุยกับกาวหนานและฉินชุงเจี้ยนไปแล้ว เหลือแค่หวางเซียวอี้คนเดียว

เจียงหยู่ถามขึ้น เน้นย้ำเป็นพิเศษ “หวาผิง คุณไม่เห็นเซียวอี้หรือ?”

หวาผิงมอง สีหน้าไม่รู้สึกผิด “ประธานหวางใช่ไหม? อ้อ ขอโทษด้วย ฉันกับเขาไม่สนิทกันมาก”

เธอพูดจบ หวาเหวินกับเจียงหยู่ก็อดไม่ได้ที่จะขำออกมาเบาๆ

หนังตาของหวางเซียวอี้กระตุกเล็กน้อย……

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

ลิขิตรักส่งฉันมาเป็นคู่เธอ

Status: Ongoing

ลือกันว่าหวาเหวิน คุณหนูห้าของตระกูหวาที่เป็นตระกูลใหญ่นั้นเป็นคนที่พูดติดอ่างและหน้าตาอัปลักษณ์ ตั้งแต่เด็ก เธอก็ไปทำสมาธิบนเขากับคุณย่า จนถึงที่บ้านหมั้นหมายผู้ชายให้ เธอจึงกลับมา ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวก็หนีงานแต่งไปนอนกับดาราหญิงไก่กา เรื่องนี้แพร่กระจายออกไปให้คนรู้กันทั่วในงานแต่ง หวาเหวินที่โดนคนหัวเราะเยาะนั้นใช้นิ้วชี้ไปผู้ชายคนหนึ่ง ลากเขาขึ้นมาดำเนินงานแต่งต่อ สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจนั้นคือชายหนุ่มที่หวาเหวินสุ่มลากไปแต่งงานนั้นเป็นเจียงหยู่ ลูกชายคนเดียวของตระกูลใหญ่สุดตั้งแต่นั้นมา หวาเหวินโดนเขาทรมานทุกคืน จนถึงเธอทนต่อไปไม่ได้อีก“เจียงหยู่ ไอ้คนเลว เราคุยกันดีแล้วไม่ใช่หรือ ว่านี่มันเป็นแค่การแต่งงานปลอมๆ” เจียงหยู่ทำหน้าไร้เดียงสา“ใช่ ฉันกำลังใช้ร่างกายเพื่อรักษาคู่ชีวิตของเราอยู่….”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท