ตอนที่ 45: ผมเข้าใจคุณผิดเอง…
หม่าสวี้หยางอารมณ์ดีขึ้นทันที เขายิ้มแล้วโบกมือ มองไปทางไป๋เสว่เอ๋อร์ “ผมกับเลขาไป๋คุยกันเรื่องที่เราต่างสนใจเฉย ๆ ครับ”
เผยลี่เชินได้ยิน สายตาเกิดความยะเยือกขึ้น กำลังจะมองไปทางไป๋เสว่เอ๋อร์ แต่หม่าสวี้หยางยกแก้วขึ้น “มา ประธานเผย พวกเรามาดื่มกันสักหน่อย”
เผยลี่เชินยกแก้วไวน์ขึ้นแล้วชนแก้วกับเขา
หม่าสวี้หยางดื่มไปคำหนึ่งแล้วคุยประเด็นที่ทั้งสองคนกำลังพูดถึงต่อ ไม่มีใครไปแตะประเด็นเรื่องที่ดินอีก เวลาผ่านไป 20 นาทีอย่างไม่รู้ตัว มีคนมาทักมายหม่าสวี้หยางและเชิญเขาไปคุยข้าง ๆ เผยลี่เชินลุกขึ้นส่งเขา
หม่าสวี้หยางยังมีเรื่องค้างคาอยู่ในใจ ก่อนที่จะไปเขาถอนหายใจเบา ๆ กดเสียงต่ำแล้วพูดว่า “ประธานเผย สำหรับที่ดินที่คุณสนใจ ไม่ใช่ว่าผมอนุมัตก็จบ ถ้าคุณอยากได้จริง ๆ ควรจะไปพบรองนายอำเภอสักหน่อย ความจริงแล้วหลานของเขาเป็นคู่แข่งเรื่องที่ดินกับคุณ ผมพูดได้เพียงเท่านี้ ที่เหลือคุณลองพิจราณาเองดู”
เขาพูดจบ โบกมือให้เผยลี่เชินแล้วเดินไปกับคนอื่นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เผยลี่เชินมองไปทางเขาแล้วตระหนักขึ้นทันที แต่ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่ได้ยินสิ่งที่หม่าสวี้หยางพูดเมื่อกี้ เธอมองมาทางเผยลี่เชินด้วยความสงสัย
เผยลี่เชินกลับไปนั่งที่โซฟา ไขว้ขายาวทั้งสองข้างทับกันโดยที่ไม่พูดอะไร ได้แต่กระดกไวน์ในแก้วจนหมดด้วยท่าทางสุขุม จากนั้นเงยหน้ามองไปทางไป๋เสว่เอ๋อร์อย่างช้า ๆ
ไป๋เสว่เอ๋อร์สบดวงตาคู่เยือกเย็นของเขาแล้วหายใจเข้าลึก “หัวหน้าหม่าเขาว่าไงบ้าง”
“เขาว่าไงคุณยังไม่รู้เรื่องอีกหรอ” เผยลี่เชินพูดแล้วลุกขึ้นไปด้วย มุ่งหน้าก้าวไปอีกทาง “ที่นี่ไม่สะดวกพูดได้ ตามผมมา”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินรีบเดินตามไป
เผยลี่เชินเดินผ่านล็อบบี้มาถึงทางเดินระเบียง แสงไฟบนระเบียงริบหรี่ แต่ทิวทัศน์ค่อนข้างดี พวกเขาอยู่ชั้นสองสามารถมองเห็นสระว่ายน้ำหลังสวนพอดี
ทางเดินยาวมาก หญิงชายหลายคู่กระจายไปทั่ว ยังมีผู้ชายสองสามคนออกมาสูบบุหรี่ แต่ต่างมีระยะห่างระดับหนึ่งกับพวกเขา
เผยลี่เชินเอามือทั้งสองข้างทับกันวางไว้บนราวจับ มองไปทางไกล พูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ทุกเรื่องล้วนเชื่อมโยงกัน เหตุผลที่ที่ดินนี้โดนหัวหน้าหม่ากักเอาไว้ก็เพราะเรามีคู่แข่งที่ไม่ธรรมดามาก”
โทนเสียงเขาต่ำมาก แต่สามารถทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินชัดเจน
“คู่แข่งของเราคือใครหรอคะ”
เผยลี่เชินหันหน้ามองผู้หญิงข้างกาย “หัวหน้าหม่าเป็นหลานของรองนายอำเภอ น่าจะยาก”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ชะงัก ไม่พูดไม่จาอยู่ครู่หนึ่ง ตอนแรกเธอคิดว่าแค่จัดการหัวหน้าหม่าทุกอย่างจะจบ แต่ว่าไม่คิดว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า
ไม่นานโครงการหนานไห่ใช้เวลานานขนาดนี้ ผ่านมือตั้งหลายคนแต่ไม่เคยได้ทำสำเร็จ ทว่าติดอยู่ในจุดนี้แน่นอนว่าไม่มาทางจัดการได้สำเร็จ
ขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังเหม่อลอย เธอรู้สึกถึงน้ำหนักตรงบ่า เธอเงยหน้าขึ้นเพิ่งจะสังเกตว่าเผยลี่เชินขวางไว้ระหว่างเธอกับราวกั้น
ประจบกับสายตายากที่จะอธิบายคู่นั้นของผู้ชาย หัวใจเธอบีบแน่น กำลังจะเอ่ยปากพูดกลับได้ยินเสียงเข้มของเขา “ไป๋เสว่เอ๋อร์ ไหนพูดสิ้ว่าเธอคุยอะไรกับหัวหน้าม่า อะไรคือเรื่องที่พวกคุณสนใจร่วกันหรอ”
หม่าสวี้หยางนี่ไหวพริบดีเยี่ยม ตอนแรกเผยลี่เชินเปิดประเด็นโครงการขึ้น เขาหลีกเลี่ยงประเด็นอย่างฉลาด แต่หลังจากเขาไปคุยโทรศัพท์ได้แป๊ปเดียว ทัศนคติของหม่าสวี้หยางที่มีต่อเขากลับเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย แถมยังบอกข้อมูลเชิงลึกนี้ให้กับเขา ทำให้เขาประหลาดใจอย่างยิ่ง…
เมื่อเขากลับมาเห็นว่าหม่าสวี้หยางกำลังยื่นนามบัตรให้ไป๋เสว่เอ๋อร์พอดี ทั้งสองคุยกันดี แต่ดูพิลึกแปลก ๆ ทำให้เขาต้องคิดไปในทางแบบนั้น
ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลไปชั่วขณะ เห็นแววตาเย็นชาของผู้ชาย ทำให้เธอเข้าใจความหมายในคำพูดของเขาทันที เธอยังไม่ทันได้อธิบาย เขายื่นหน้าเขามาใกล้มากขึ้น คางเกยอยู่ริมหูเธอ “หืม? ว่ามาสิ ใช้เรื่องที่ผมสมใจด้วยหรือเปล่า”
“ปักเย็บแบบซูโจว คุณสนใจมั้ยหละ” ไปเสว่เอ๋อร์ยืนมือวางบังไว้หน้าอกของเผยลี่เชิน
เผยลี่เชินชะงักไป ยืนตัวตรงแล้วเพ่งสายตาไปทางไป๋เสว่เอ๋อร์
ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้ว่าเขาไม่เชื่อ รู้สึกโมโหอย่างไร้สาเหตุ เธอขมวดคิ้วแล้วแล้วเอ่ยปากอธิบาย “ก่อนที่ฉันจะมาฉันอ่านเอกสารทั้งหมดของโครงการหนานไห่เรียบร้อย อยากจะเชื่อมสัมพันธ์กับหัวหน้าหม่าก็ต้องเข้าใจความเป็นมาของคนคนนี้ ฉันเลยไปหาข้อมูลมา เผลอเห็นข้อความที่เขาโพสต์เกี่ยวกับกิจกรรมโปรโมทวัฒนธรรมปักเย็บซูโจว รู้ว่าเขาสนใจวัฒนธรรมปักเย็บซูโจว และก็ชอบสะสมผลงานปักเย็บอีด้วย เมื่อกี้คุณไปคุยโทรศัพท์ ฉันเห็นงานปักเย็บที่ปกเสื้อเขาแล้วอยากจะถ่วงเวลาเพื่อคุณเลยเอ่ยปากคุยกับเขา”
ไป๋เสว่เอ๋อร์อธิบายเหตุผลทั้งหมดอย่างชัดเจนกับเขา ยื่นมือผลักเผยลี่เชินออกไป น้ำเสียงแข็งเล็กน้อย “ไม่ใช่ทุกเรื่องจะสกปรกเหมือนที่คุณคิดนะ”
เธอใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้หม่าสวี้หยางไม่ไป ไม่คิดว่าสุดท้ายแล้วเผยลี่เชินเข้าใจผิดระหว่างเธอและหม่าสวี้หยางซะงั้น
เธอกัดริมฝีปากของเธอไว้แน่น ความน้อยใจพุ่งลามไปทั่วกาย ก้าวเท้าทำท่าจะเดินมุ่งไปทางล็อบบี้
เผยลี่เชินใจหายวูบ รีบพุ่งตัวไปข้างหน้ายื่นมือไปโอบเอวของเธอไว้
เขาไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจจะมองเธอในทางที่ผิด แต่เขาเห็นเธอรับนามบัตรของหม่าสวี้หยางด้วยท่าทางยิ้มแย้ม แถมคำพูดคำจาที่ทำให้คนคิดผิดคิดเพี้ยนได้ของหม่าสวี้หยาง ทำให้เขาอึดอัดอย่างยิ่ง
“คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้!” หน้าเรียวเล็กของไป๋เสว่เอ๋อร์แดงก่ำ อัดอั้นความโมโหพยายามดิ้นหลุดออกจากเขา
เผยลี่เชินมองดูผู้หญิงแล้วรู้สึกใจว้าวุ่นอย่างอธิบายไม่ถูก จับมือของเธอไว้ พึมพำอยู่ในลำคอและพยายามกดอารมณ์ที่เปี่ยมล้นของตัวเอง “ไป๋เสว่เอ๋อร์…”
เขาเหมือนอยากพูดอะไรบางใหญ่ แต่ก็ชะงักลง ลูกกระเดือกขึ้นลงเคลื่อนไหว สุดท้ายพูดออกมา “ผมเข้าใจคุณผิดไปแล้ว…”
ไป๋เสว่เอ๋อร์มองสีหน้าที่ผิดจากปกติของผู้ชาย ทำให้ถึงกับตะลึง ต่อมาเธอรู้สึกถึงความร้อนวูบข้างแก้ม ริมฝีปากของเผยลี่เชินสัมผัสเบา ๆ เหมือนถูไถผ่านไปโดยไม่ตั้งใจ แต่ก็เหมือนการหอมแก้มเบา ๆ เพื่อปลอบใจ “วันนี้ถ้าไม่ได้คุณ หม่าสวี้หยางคงจะไม่บอกข่าวเรื่องรองนายอำเภอหรอก”
ตั้งแต่เธอเข้ามาที่เผยซื่อแล้ว เผยลี่เชินไม่เคยชมเธอเลยสักครั้ง สิ่งที่พูดครั้งนี้เหมือนเป็นการชมเชย
เธอสงบลง ความโมโหที่คลุกอยู่ในใจก็หายไปเกือบหมด บริเวณแก้มที่ถูกสัมผัสเมื่อสักครู่ยังคงเร่าร้อน เธอถอยห่างจากผู้ชาย ตั้งใจสร้างระยะห่างระหว่างกัน
เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับนัยน์ตาเงาดำของผู้ชาย ยังไม่ทันได้พูดอะไร เผยลี่เชินก้าวมาด้านหน้าเหมือนกลัวเธอวิ่งหนียังไงอย่างงั้นขวางทางเธอไว้
นัยน์ตาตาเอ่อท้นไปด้วยความรู้สึกเอ็นดู “ไป๋เสว่เอ๋อร์ สิ่งที่เธอทำไว้นี้เหนือการคาดหวังของผม”
คำชมเชยอย่างไม่อ้อมค้อมของผู้ชาย ทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ประหลาดใจ แต่สีหน้ายังคงราบเรียบ “ก็แค่ทำความเข้าใจฝ่ายตรงข้ามแล้วตามน้ำไปเท่านั้นเอง”
เผยลี่เชินได้ยินหัวเราะเบา ๆ “งั้นคุณเข้าใจผมหรือเปล่าหละ รู้มั้ยว่าผมสนใจอะไร”
ประโยคของเขาไม่มีความจริงจังเหมือนปกติ ไป๋เสว่เอ๋อร์ฟังแล้วรู้สึกถึงความใยดีบางอย่างในนั้น เธอตั้งใจหลีกเลี่ยงสายตาของเขา สูบลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเอ่ยว่า “ฉันยังรู้จักประธานเผยไม่ถึงเดือนจะไปเข้าใจอะไรคุณหละคะ”
เผยลี่เชินแสยะยิ้ม “ไม่ต้องห่วง มันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นแหละ”