ตอนที่ 55 เซ็ตอาหารคู่รัก
อารมณ์ของชายหนุ่มเปลี่ยนไปอย่างไม่มีเหตุผล ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาถึงต้องโกรธ แต่สัญชาตญาณบอกกับเธอว่า หากเธอไม่ออกไปภายในห้านาที เผยลี่เชินจะต้องทำอะไรเธอแน่ๆ
ไป๋เสว่เอ๋อร์กระโจนเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ล้างหน้า หลังจากออกมาก็เลื่อนบานตู้เสื้อผ้าปราดตามองชุดที่นำมาดูงานด้วยในคราวนี้ เลือกชุดกระโปรงสีขาวที่สวมสบายที่สุดมาหนึ่งตัว สวมรองเท้าส้นเตี้ยสีน้ำตาล คว้าเอาหวีมาหวีผมสองที จากนั้นผลักประตูออกไปอย่างรวดเร็ว
เผยลี่เชินยืนอยู่หน้าประตู เธอก้าวเท้าออกไป เขาเหลือบมองขึ้น ทั้งสองสบตากันต่างฝ่ายต่างชะงักงัน
เผยลี่เชินเลื่อนสายตาไปจากเธออย่างรวดเร็ว ในแววตาฉายอารมณ์อันไม่อาจอธิบายได้ ทว่าสีหน้ายังคงเยือกเย็นไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
เขาก้าวเท้าตรงไปข้างหน้า ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบร้อนตามหลัง เธอหอบหายใจพลางอดถามเขาออกมาไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ?”
เธอกำลังหลับฝันอยู่ จู่ ๆ ถูกเสียงเคาะประตูปลุกให้ตื่น เปิดประตูมาเจอสีหน้าเย็นเยียบของชายหนุ่ม ย่อมไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไร
เผยลี่เชินเหลือบมองเธอด้วยสายตานิ่งเฉย เอ่ยอย่างไม่ทุกข์ร้อน “ ไม่มีอะไร”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่เชื่ออย่างแน่นอน ทว่าเผยลี่เชินตอบมาอย่างนั้น เธอจึงไม่อาจถามต่อ ได้เพียงแต่ตามเขาขึ้นลิฟท์ไปโดยไม่พูดอะไร ตรงไปยังร้านอาหารของโรงแรม
ทันทีที่เท้าของทั้งสองก้าวเข้าไปยังร้านอาหาร ก็มีพนักงานสาวใบหน้ายิ้มแย้มออกมาต้อนรับ “ขอโทษค่ะ ใช่ที่จองไว้ก่อนหน้านี้ไหมคะ?”
เผยลี่เชินพยักหน้าเบา ๆ พนักงานสาวจึงพาพวกเขาตรงไปยังที่นั่งด้านข้างทันที
พนักพิงโซฟาสูงยาวแยกแต่ละโต๊ะออกจากกันอย่างเป็นสัดส่วน ทำให้โต๊ะหนึ่งเปรียบเสมือนห้องเล็ก ๆ ค่อนข้างเป็นส่วนตัว บนโต๊ะยังมีเปลวไฟจากเทียนกระพริบไหว อีกทั้งยังมีกุหลาบหนึ่งดอก ให้ความรู้สึกคลุมเครืออย่างบอกไม่ถูก
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตะลึงไปครู่หนึ่ง มองพนักงานสาวเชิญให้เธอนั่ง เธอจึงได้แต่รวบรวมความกล้านั่งลงไป ขอนั่งปุ๊บก็ได้ยินพนักงานสาวเอ่ยถาม “ โต๊ะนี้สั่งเซตอาหารสำหรับคู่รักไว้นะคะ ทั้งสองท่านรอสักครู่ ฉันจะไปแจ้งพ่อครัวแล้วนำมาเสิร์ฟค่ะ”
พูดจบ เธอก็โค้งตัวมาทางเผยลี่เชินกับไป๋เสว่เอ๋อร์ อมยิ้มที่มุมปาก แล้วจึงหันหลังจากไป
เผยลี่เชินกับไป๋เสว่เอ๋อร์ตะลึงอยู่ตรงนั้นทั้งสองคน ไม่แสดงปฏิกิริยาใด ๆ อยู่ชั่วขณะ จนกระทั่งไป๋เสว่เอ๋อร์ได้สติรู้สึกตัว เธอจึงนึกถึงสีหน้าและอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของเผยลี่เชินตอนอยู่หน้าประตูห้อง
เขาตั้งใจรอเธอมากินข้าวด้วยกัน ดูเหมือนว่าจะโกรธที่เธอตื่นช้า ทั้งยังสั่งเซตอาหารสำหรับคู่รักอีกด้วย… นี่เขาคิดจะทำอะไรกัน?
ไป๋เสว่เอ๋อร์มองไปทางเผยลี่เชินด้วยสีหน้าสงสัย ตรงกับที่ฝ่ายชายมองมายังเธอพอดี ทำให้ทั้งสองสบตากัน ไป๋เสว่เอ๋อร์หลบสายตาเขาอย่างรวดเร็ว
ไม่มั้ง! หรือว่าเขา…จะคิดอะไรกับเธอ?
หัวใจของไป๋เสว่เอ๋อร์เต้นระรัว ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ แล้วรู้สึกประดักประเดิดอย่างบอกไม่ถูก
เผยลี่เชินที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเองก็สับสนพอกัน เขาเพียงบอกพนักงานให้จัดมื้ออาหารเท่านั้น ไม่ได้สั่งเซตอาหารสำหรับคู่รักสักหน่อย แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น
เขาเงยหน้าขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ เห็นหญิงสาวที่อยู่ตรงข้ามแสดงสีหน้าเขินอาย สองแก้มมีสีเลือดฝาด เขาเลิกคิ้วขึ้น หรือว่า…เธอเข้าใจผิดว่าเขาเป็นคนสั่ง ?
ดวงตาเรียวยาวฉายแววซุกซน เผยลี่เชินยืดตัวตรง มองไปยังไป๋เสว่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามด้วยความสนอกสนใจ
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยกแก้วน้ำด้านข้างขึ้นมาดื่มอึก ๆ สีหน้าเลิ่กลั่ก จากนั้นเงยหน้าสบตาเข้ากับเผยลี่เชินที่กำลังมองเธอมาอยู่พอดี
ความรู้สึกที่เพิ่งจะสงบลงได้กลับกลายมาหวั่นไหวอีกครั้ง เธอหลบสายตาด้วยอาการขัดเขินเล็กน้อย ทว่าไม่อาจกลั้นคำถามไว้ได้ “ประธานเผยคะ เราสองคนกินอาหารเซตนี้จะเป็นการไม่เหมาะหรือเปล่าคะ?”
เผยลี่เชินยิ้มน้อย ๆ “ถ้าเองก็คิดว่าไม่เหมาะสินะ?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินเข้า ช้อนตามองเผยลี่เชินอย่างประหลาดใจ ไม่แน่ใจว่าเขาหมายความอย่างไรแน่? อาหารเซตนี้เขาเป็นคนสั่ง แล้วทำไมเขาถึงคิดว่ามันไม่สมควร?
เผยลี่เชินยังคงอมยิ้มที่มุมปาก จ้องมายังเธอ ไม่พูดอะไรอยู่เนิ่นนาน
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ่งรู้สึกไม่มั่นใจ ยังไม่ทันได้เอ่ยถามออกไป ก็มีคนเดินมาหาพวกเขาจากด้านข้าง ไป๋เสว่เอ๋อร์หันไป เห็นผู้ชายใส่สูทเดินมาข้างหน้าโต๊ะ โน้มตัวพลางยิ้มให้พวกเขา
“ขออภัยด้วยครับทั้งสองท่าน เมื่อครู่พนักงานเข้าใจผิดไป ทั้งสองท่านยังไม่ได้สั่งอาหารใช่ไหมครับ?”
“ใช่” เผยลี่เชินพยักหน้าเบาๆ
ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามงงเป็นไก่ตาแตก เธอไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นอย่างนี้ เดิมนึกว่าเผยลี่เชินเป็นคนสั่งเซตอาหารสำหรับคู่รัก ใครจะไปรู้ว่าพนักงานเองที่เข้าใจผิด แต่เมื่อครู่เธอกลับคิดจินตนาการถึงเรื่องที่ทำให้หน้าแดงไปเสียมากมาย…
ไป๋เสว่เอ๋อร์แอบกัดริมฝีปาก เงยหน้าขึ้น สบตากับดวงตาดำสนิทของชายหนุ่มแล้วยิ่งทำตัวไม่ถูก
แต่เผยลี่เชินกลับเอ่ยคำพูดที่ไม่น่าพูดออกมา “ไป๋เสว่เอ๋อร์ เมื่อกี้เธอคิดอะไรอยู่?”
ใบหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์ร้อนขึ้น เธอยกมือพลิกเปิดเมนูที่อยู่ตรงหน้า สายตาเลื่อนไปยังอาหารหลากหลายชนิด พยายามกลบเกลื่อนความสับสนในใจของตัวเอง
สายตาของเธอหยุดลงที่บนเมนู เลือกสั่งอาหารออกมาสองสามอย่าง บอกกับพนักงานที่ยืนอยู่ข้างเคียง จากนั้นก็ปิดเมนู “โอเคค่ะ พอแค่นี้แหละขอบคุณมาก”
หลังจากพนักงานจากไปแล้ว เผยลี่เชินจิบชาอึกหนึ่ง มองมาทางไป๋เสว่เอ๋อร์ ” คืนนี้มีแผนอะไรหรือเปล่า? ”
” คงจะเข้านอนเร็วหน่อยค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์เอ่ยตอบไปโดยไม่คิดอะไร
แต่เมื่อเผยลี่เชินได้ยินคำพูดอย่างนั้นของไป๋เสว่เอ๋อร์กลับอดขมวดคิ้วไม่ได้
เข้านอนเร็วหน่อย? เธอหลับมาตลอดทั้งบ่าย ยังไม่เพียงพออีกเหรอ?
ไม่ทันไร อาหารก็ค่อย ๆ เสิร์ฟตามกันมา เผยลี่เชินกินสเต๊กเนื้อเข้าไปคำหนึ่ง ก็ออกคำสั่งเรื่องงานมาอีกหลายคำ “เราคงจะอยู่ที่เมืองหนานไห่นี่หลายวันหน่อย อาศัยโอกาสนี้จัดการที่ดินผืนนั้นให้เป็นความจริงขึ้นมา”
แม้ลู่ผิงชวนจะตอบรับพวกเขาแล้ว แต่อย่างไรสิ่งที่เขาทำก็เป็นแค่คำพูดปากเปล่า ขอเพียงฝ่ายนั้นทำการรับรองทีละขั้นตอนลงมา สุดท้ายพอพวกเขาทำการเซ็นสัญญากับคนของอสังหาริมทรัพย์หนานไห่แล้ว จึงจะสามารถคว้าที่ดินผืนนั้นมาได้อย่างแท้จริง
“พรุ่งนี้ลู่อี้หลิง ลูกสาวของลู่ผิงชวนจะมาพบพวกเรา ช่วงนี้เราอาจจะต้องไปด้วยกันกับเขา”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ถือมีดหั่นเนื้อชะงักไป ช้อนตามองเผยลี่เชิน “รองนายกเทศมนตรีตัดสินใจจะให้ลู่อี้หลิงไปทำงานที่เผยซื่อไม่ใช่เหรอคะ?”
” เขาไม่ได้บอก แต่ฉันคิดว่าน่าจะหมายความว่าอย่างนี้”
เดิมนึกว่าจัดการปัญหาเกี่ยวกับที่ดินได้อย่างราบรื่นแล้ว ไม่นึกว่าจะกลายมาเจองานชิ้นอื่นที่ยากจะรับมือ ไม่ว่าอย่างไร ลู่อี้หลิงก็เป็นลูกสาวของลู่ผิงชวน ไม่เห็นแก่หน้าอินทร์ก็ต้องเห็นแก่หน้าพรหม ต่อให้เป็นลู่ผิงชวนเอง ก็ยังต้องไตร่ตรองถึงความสัมพันธ์ต้องให้เกียรติต่อลู่อี้หลิงให้มาก
แต่ใครเล่าจะรู้ว่าลู่อี้หลิงผู้นี้เป็นคนอย่างไร
ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เกิดความรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ตอนนี้เธออยู่เผยซื่อ มีสวี่เยว่หรูคนหนึ่งก็ทำให้เธอวุ่นวายมากพอแล้ว ถ้าหากมีลูกสาวคนใหญ่คนโตมาทำงานด้วยอีกหนึ่งคน เธอไม่กล้าจินตนาการเลยด้วยซ้ำว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร?
เผยลี่เชินเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ทำสีหน้าบอกบุญไม่รับ ก็เลิกคิ้วยิ้มน้อย ๆ เอ่ยปากถาม “ทำไม? กลัวคนแย่งชามข้าวหรือไง?”