ตอนที่ 51 เธอกำลังท้าทายฉันเหรอ
ทันใดนั้นสมองของไป๋เสว่เอ๋อร์ว่างเปล่า ราวกับถูกสะกดจุด นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ไหวติง
เผยลี่เชินช่างยากจะคาดเดา อารมณ์ที่เปลี่ยนไปมาของเขา ความรู้สึกที่ชื่นชอบ ทั้งการกระทำที่แสดงออก เธอไม่อาจคาดเดาได้เลย
เวลานั้นเขาลุกขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา เธอยังนึกว่าเขาโกรธ นาทีที่เขายื่นมือออกมาจับศีรษะเธอ ในความคิดของเธอเห็นภาพเขาบิดหัวของชายร่างใหญ่ในห้องรับรอง แต่ใครจะคาดคิดว่าเขากลับจูบเธอในวินาทีต่อจากนั้น?
“ตึกตัก ๆ” เสียงรอบด้านอันตรธานหายไป หัวใจเต้นแรงราวกับจะกระเด็นออกมา กระเทือนไปถึงโสตประสาทในหู
เขาช่างเผด็จการกว่าทุกที ณ ช่วงเวลานี้แม้จะใช้กำลังบังคับแต่กลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยน ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกร่างกายของตัวเองอ่อนระทวย ไม่ฟังคำสั่งของเธออีกต่อไป…
ช่างอบอุ่นงดงาม ราวฤดูใบไม้ผลิอันเป็นนิรันดร์
เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกตัวอีกที เผยลี่เชินก็นั่งทำงานอยู่ที่ระเบียงแล้ว
เธอค่อย ๆ ลุกขึ้น ข่มกลั้นความปวดร้าวบนร่าง ลงมาจากเตียงอย่างระมัดระวัง
เดินเข้าไปยังห้องน้ำ เธออาบน้ำอย่างรวดเร็ว ขณะใส่เสื้อผ้าออกมา ก็ได้ยินเผยลี่เชินกำลังประชุมทางวิดีโอคอล
เขานั่งอยู่ที่ระเบียง หันด้านข้างมาทางห้อง เขาเงยหน้าขึ้น สายตาเลื่อนผ่านมายังร่างเธอ จากนั้นจึงพูดใส่หน้าจอคอมพิวเตอร์ “นอกจากเรื่องนี้แล้ว ที่บริษัทยังมีอะไรอีกไหม?”
เสียงที่ดังผ่านทางโทรศัพท์ ไป๋เสว่เอ๋อร์ฟังออกว่าเป็นเลขาชายคนนั้นของเผยลี่เชิน
“ช่วงนี้รองประธานเผยให้การรับรองผู้บริหารหลาย ๆ บริษัท ทั้งยังพบปะกับประธานทั้งหลายเป็นการส่วนตัว ดูเหมือนจะคุยเรื่องโปรเจกต์ต่าง ๆ ผมตรวจสอบดูพบว่ามีปัญหาอยู่ไม่น้อย อีกทั้งมีเรื่องพัฒนาแผนงานโปรเจกต์สถานที่การจัดกิจกรรมกลางแจ้งของบริษัท ยังไม่ได้เห็นสถานที่แท้ ๆ แต่รองประธานเผยกลับคิดจะเซ็นยอมรับสถานที่ซึ่งตั้งอยู่ตรงเขตเฉิงซี พื้นที่นั้นไม่สมราคาเท่าไหร่ และยังมีปัญหาอื่น ๆ …”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยืนอยู่ปลายเตียง เช็ดผมที่เปียกชื้นไปพลาง ได้ยินอย่างชัดเจน
เผยลี่เชินสีหน้าเรียบนิ่ง ตอบกลับ“ฟางหรงเทียนมีทีท่ายังไง?”
“รองประธานฟางไม่แสดงท่าทีอะไรครับ นอกเหนือไปจากรายการก่อนหน้านี้ ในมือเขาก็ไม่มีโปรเจกต์อะไรอีก แต่เขาก็ดูไม่ทุกข์ร้อน ได้แต่ลอยชายในบริษัทไปวัน ๆ การกระทำของรองประธานเผยในบริษัทมีไม่น้อย ที่เอ่ยมารองประธานฟางน่าจะรู้หมดครับ”
เผยลี่เชินได้ยินแล้วขมวดคิ้วเข้าหากัน ไม่เอ่ยอะไรเนิ่นนาน
เสียงจากในคอมพิวเตอร์ดังขึ้นอีกครั้ง “ประธานเผยครับ สถานที่ตรงเขตเฉิงซีมีปัญหาไม่น้อยเลย ท่านว่าเราควรพูดคุยกับรองประธานเผย อาศัยจังหวะที่เขายังไม่เซ็น…”
“ไม่ต้อง” เผยลี่เชินตัดบทสนทนาของอีกฝ่ายทันควัน
“แต่ว่าถ้าหากเซ็นสัญญาพื้นที่นั้น บริษัทของเราจะสูญเสียเงิน…”
เผยลี่เชินเอ่ยน้ำเสียงจริงจัง “ไม่ต้อง ปล่อยเขาตัดสินใจ ไม่ต้องขัดขวางการกระทำใด ๆ ของเขา เรื่องทุกอย่างรอให้ฉันกลับไปแล้วค่อยว่ากัน”
“ทราบแล้วครับประธานเผย ท่านจะกลับไห่เฉิงเมื่อไหร่ครับ?”
“เพิ่งผ่านมาไม่กี่วัน ยังไม่แน่นอนเรื่องเวลา นายแค่คอยรายงานเรื่องที่บริษัทให้ฉันฟังก็พอแล้ว เรื่องอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ไม่ต้องทำ”
“รับทราบครับประธานเผย”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตั้งใจฟังบทสนทนาของพวกเขาโดยไม่ตกหล่นเพียงสักคำ อดอุทานในใจไม่ได้ แค่การคานอำนาจและเรื่องพัวพันระหว่างระดับสูงยังวุ่นวายปวดหัวขนาดนี้ อย่างกับละครชิงบัลลังก์ในวังหลวง ทั้งหงุดหงิดและรำคาญใจ ไม่ใช่ที่ที่คนธรรมดาจะทนอยู่ได้เลย
เธอเช็ดผมพลาง ปล่อยความคิดล่องลอยไปไกล ก้มหน้าลงต่ำ ไม่ทันใด้สังเกตว่าได้มายืนหน้าชายหนุ่มที่อยู่ตรงระเบียงแล้ว
เธอเช็ดผมไปเรื่อย พลางคิดคำนวณดูว่าด้วยความสามารถระดับเธอจะสามารถเอาชีวิตรอดในละครศึกชิงบัลลังก์ไปได้สักกี่ตอน พลันรู้สึกแปลกประหลาด อึดอัดไม่สบายใจ
เธอยืดตัวตรง เมื่อเงยหน้าก็เห็นเผยลี่เชินยืนอยู่ที่วงกบประตู ตกใจสะดุ้งเฮือก
เผยลี่เชินมองเธอเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม เห็นท่าทางเธอตกใจอย่างนั้น แววตาเผยรอยยิ้มชัดเจนขึ้นอีก ทว่าจงใจเอ่ยถามด้วยสีหน้าเย็นชา “ได้ยินอะไรบ้าง?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์หลบสายตา “ไม่ได้ยินอะไรค่ะ…”
“ไม่ได้ยิน?” เผยลี่เชินก้าวมาข้างหน้า ใกล้เธอเข้ามาอีกนิด “ไม่ได้ยินจริงเหรอ?”
“ไม่ค่ะ!” ไป๋เสว่เอ๋อร์ใจสั่น ปฏิเสธหน้าแดง ลนลานหันตัวจะเดินหนี
เผยลี่เชินเอื้อมมือ จับศีรษะเธอไว้โดยแทบไม่ต้องใช้แรง ไป๋เสว่เอ๋อร์หน้าเปลี่ยนสี รู้ตัวว่าหนีไม่รอดแล้ว จึงหันตัวมาอย่างช้า ๆ “ฉันได้ยินเพียงเล็กน้อยเท่านั้น…”
เธอเงยหน้า ประสานกับแววตาล้ำลึกของเขา เอ่ยเสียงเบา “คะ…คุณกลัวฉันจะเอาเรื่องที่ได้ยินนี้ไปเปิดเผยเหรอคะ?”
เธอกำลังจะให้สัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับ ทว่าใครจะรู้ เผยลี่เชินกลับหัวเราะออกมาเบา ๆ “ก็ลองดูสิ”
“……”
ต่อให้ยื่นความกล้าให้เธออีกสิบหน่วย เธอก็ไม่กล้าพูดออกมาเพียงครึ่งคำ! เผยลี่เชินจงใจยีผมของเธอจนกระเซิง เส้นผมที่เปียกชื้นจึงยุ่งเหยิงพันกัน
ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้ว ยังไม่ทันจะอ้าปากพูด ก็ได้ยินเสียงเยียบเย็นของชายหนุ่มลอยมา “เป่าให้แห้งซะ”
คำสั่งที่ขัดขืนไม่ได้อีกแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดลมหายใจ กอดผ้าขนหนูแล้วหันตัวกลับไปห้องน้ำ
กว่าเธอจะเป่าผมแห้งออกมาจากห้องน้ำ เผยลี่เชินก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ทันรอให้เธอเอ่ยปากถาม เขาก็พูดต่อ “เดี๋ยวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เก็บของซะ เตรียมตัวไปพบลู่ผิงชวน”
เผยลี่เชินติดกระดุมอยู่หน้ากระจก ดูท่าทางอารมณ์ดี สีหน้าเป็นสุข
“ลู่ผิงชวนติดต่อคุณมาแล้วจริง ๆ เหรอคะ?”
เผยลี่เชินติดกระดุมเม็ดบนสุด คว้าเนคไทที่แขวนเรียงกันอยู่บนหิ้งด้านข้างมาหนึ่งเส้น “ผู้ช่วยของเขาเพิ่งโทรศัพท์มา นัดไปกินอาหารเที่ยง”
ไป๋เสว่เอ๋อร์มองเนคไทสีเทาเงินลายน้ำของเขา ย่นคิ้วเข้าหากัน แล้วเดินตรงไป เลือกสีน้ำเงินเข้มลายตารางอีกเส้น ถือมาเทียบกันที่ปกเสื้อของเผยลี่เชิน
“เส้นนี้ดูดีกว่า ว่าไหมคะ?”
เนคไทสีเทาเงินลายน้ำ ดูหรูหราราบเรียบ แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วสีน้ำเงินเข้มดูโดดเด่นกว่า
ท่าทางของเธอเปิดเผยเป็นธรรมชาติ ไม่สำรวมหรือหยอกเย้าแม้แต่น้อย ถึงกับทำให้เผยลี่เชินตะลึงงัน
เขามองเนคไทสีน้ำเงินเข้มในมือของไป๋เสว่เอ๋อร์ เก็บเนคไทสีเทาในมือกลับไป จากนั้นก้มมองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า “สวมสิ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ชะงัก เงยหน้ามองสีหน้าเรียบนิ่งของเผยลี่เชิน อดยิ้มออกมาไม่ได้
เขาในสภาพนี้ ราวกับเจ้าหญิงน้อยที่…แสนเย่อหยิ่ง
ไป๋เสว่เอ๋อร์สนุกกับความคิดของตัวเอง กลั้นหัวเราะพลางยื่นมือไปจัดเนคไทให้เขา
เผยลี่เชินก้มมองไป๋เสว่เอ๋อร์กลั้นขำไม่อยู่ ก็ขมวดคิ้ว เขาก้าวมาข้างหน้าใกล้ชิดเธอ เอ่ยเสียงเย็น “ขำอะไร?”
“ไม่มีอะไรค่ะ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์พยายามเก็บสีหน้า เขย่งเท้าสวมเนคไทจากด้านหลังคอของเผยหลี่เชิน
ยิ่งไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่พูด เผยลี่เชินก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด เสียงของเขาทุ้มลงกว่าเดิมมาก เค้นถามให้ได้คำตอบ “ไป๋เสว่เอ๋อร์”
เผยลี่เชินเอ่ยชื่อของเธอออกมาชัด ๆ ทีละคำ ไป๋เสว่เอ๋อร์กลับตั้งใจดึงเนคไทโดยไม่ให้แรงเกินไป อาศัยจังหวะที่เขาโน้มตัวลงดึงเนคไทจนสุดอย่างว่องไว
ซ้อนทับกันแล้วหมุน เธอทำซ้ำสองสามครั้งก็ได้ปมเนคไทอันสวยงาม
จากนั้นเธอยื่นมือ จัดแต่งปมให้เรียบร้อย แล้วใช้นิ้วรูดเนคไทลงมา ให้รอยยับราบเรียบ มุมปากยิ้มน้อย ๆ “ไม่มีอะไรจริง ๆ ค่ะ แค่รู้สึกว่าประธานเผยช่างงามสง่า ดูเป็นกันเองอย่างน่าชื่นชมเท่านั้น”
หากเธอบอกว่าเขาเหมือนองค์หญิงจอมเย่อหยิ่ง เผยลี่เชินมีเหรอจะปล่อยเธอ?
ดังนั้นเธอจึงต้องโกหก เยินยอเขาสักหน่อย
วินาทีต่อมา เธอรู้สึกว่ามือข้างที่วางอยู่บนอกชายหนุ่มถูกตรึงเอาไว้ ไม่สามารถชักกลับมาได้ทัน เธอเงยหน้าอย่างหวาดหวั่น ประสานตากับเผยลี่เชินตรง ๆ
คิ้วของเผยลี่เชินขมวดมุ่น ราวกับจะกินเธอเข้าไป “ไป๋เสว่เอ๋อร์ เธอกำลังท้าทายฉันเหรอ?”