สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 46

ตอนที่ 46

ตอนที่ 46: ตั้งใจมาหาเรื่องเธอ

คำพูดที่แสนจะเรียบง่ายแต่แอบแฝงไปด้วยอารณ์มากมาย ไป๋เสว่เอ๋อร์พยายามไม่คิดไปเอง เมื่อเงยหน้าขึ้นเธอเหลือบไปเห็นเงาตรงหน้าประตูที่เชื่อมระหว่างระเบียงและล็อบบี้ในที่ไม่ไกล

นั่นเหอหย่าหาน เธอมองมาทางพวกเขาจากที่ไกล ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่เห็นความรู้สึกในแววตาเธอ แต่ไม่ต้องคิดอะไรมาก ผู้หญิงนั่นตั้งใจมาเผยลี่เชินแน่ ๆ

แต่ผู้ชายหันหลังให้ทางนั้น ไม่ได้สังเกตอะไรทั้งสิ้น

ไป๋เสว่เอ๋อร์แสยะยิ้มที่มุมปาก มองไปทางเขาอย่างมีเลศนัยพูดขึ้นด้วยเสียงขัน “ประธานเผยคะ ถึงแม้ฉันจะไม่เข้าใจคุณ แต่ว่ามีบางคนดูเหมือนจะเข้าใจคุณมากนะคะ”

เหอหย่าหานตามติดเผยลี่เชินมาจากเมืองไห่เฉิงจนถึงเมืองหนานไห่ ยังต้องแกล้งทำเป็นบังเอิญเจอ แถมโผล่หัวมารอบ ๆ เผยลี่เชินอยู่เรื่อย ความอดทนมานะเช่นนี้ถือว่าน่าชื่นชมอย่างยิ่ง

เผยลี่เชินไม่เข้าใจความหมายที่ไป๋เสว่เอ๋อร์พูด เขายักคิ้วขึ้นกำลังจะพูด แต่สังเกตเห็นสายตาของไป๋เสว่เอ๋อร์เลยมองตามไป หันหลังปุ๊บก็เจอกับเหอหย่าหานที่ยืนอยู่ไม่ไกล

คิ้วเขากระตุกสองสามที ความยะเยือกที่เพิ่งจากจางหายไปเมื่อสักครู่กลับแข็งเยือกอีกครั้ง

เหอหย่าหานเดินเข้าใกล้ หยุดห่างจากเขาเพียงไม่กี่ก้าว “ลี่เชิน ตอนนี้คุณน่าจะไม่ยุ่งใช่มั้ย ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย…”

เผยลี่เชินขมวดคิ้ว สายตาเย็นชากวาดผ่านผู้หญิง “เพราะมีเรื่องจะคุยกับผมเลยโทรหาเถ้าแก่เผยงั้นหรอ หย่าหาน คุณไม่รู้สึกทำตัวเป็นเด็กไปหน่อยหรอ”

“เปล่านะลี่เชิน…”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินแล้วเพิ่งคิดได้ทันที ที่แท้เมื่อกี้ที่เขาไปรับโทรศัพท์ที่โทรมาจากเถ้าแก่เผย ไม่น่าตอนที่เขากลับมาสีหน้าถึงได้แย่ขนาดนั้น

ทว่า เหอหย่าหานน่าจะได้รับความเอ็นดูจากเถ้าแก่เผยเป็นอย่างมากสินะ เมื่อตกเป็นหมาหัวเน่าก็รีบโทรหาเถ้าแก่เผยทันที จากนั้นเถ้าแก่เผยถึงโทรมาด่าทอเผยลี่เชิน

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยืนอยู่ข้าง ๆ ทำท่าทางรับชมเรื่องสนุกที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า

เหอหย่าหานก้าวมาขึ้นหน้า ยื่นมือไปดึงแขนข้างหนึ่งของเผยลี่เชินอย่างธรรมชาต น้ำเสียงอ่อนโยนและน้อยใจ “ฉันแค่เป็นห่วงคุณจะโดนเป่าหูแค่นั้นเอง…”

เธอพูดไปด้วยพรางเงยหน้ามาไป๋เสว่เอ๋อร์ข้าง ๆ ความหมายที่ว่าชัดเจนอย่างยิ่ง

ทันใดนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้ตัวว่าตัวเองคงจะไม่เหมาะที่จะยืนอยู่ข้าง ๆ แล้ว เผยลี่เชินยังไม่ทันได้พูดอะไร เธอพูดขึ้นเองว่า “ประธานเผย คุณทำธุระเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ”

สิ้นประโยค เธอรีบเดินมุ่งจากไป

คนที่สามารถเข้าถึงเถ้าแก่เผยนี่คงจะไม่ธรรมดา เหอหย่าหานเป็นคนที่เธอไม่สามารถไปมีเรื่องด้วย เธอเองแกล้งแสดงละครกับเผยลี่เชินมามากพอแล้ว ไม่อยากจะถูกหนีบอยู่ตรงกลางลำบากใจอีกต่อไป เดินออกจากที่นี่ไปให้เขาสองคนจัดการกันเองคงจะดีที่สุด

เธอเดินออกมาจากระเบียงเข้าสู่ล็อบบี้ เดินไปยังโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารบุฟเฟต์ เห็นขนมและซีฟู๊ดมากมายละลานตา เธอหยิบจานข้าง ๆ ขึ้นมาแล้วหยิบเค้กชิ้นเล็กขึ้นมาชิ้นหนึ่ง

หลังจากมื้อกลางวันแล้วเธอยังไม่ได้กินอะไรเลย ในกระเพาะไม่มีอะไรเหลือตั้งนานแล้ว เธอหยิบเครื่องดื่มแล้วนั่งลงบนโซฟาที่โซนเล้าจ์ เพิ่งจะกินได้สองคำเธอรู้สึกว่ามีคนกำลังจ้องมองมาที่เธอ

เธอเงยหน้าขึ้นแล้วกวาดสายตาไปรอบ ๆ เห็นว่าในที่ไม่ไกลมีผู้ชายในสูทสีขาวกำลังยิ้มมองมาที่เธออยู่ ถูกจับได้แต่กลับไม่ลนลานใด ๆ แถมยังฉีกยิ้มกว้างให้เธอมากขึ้น

ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่ถูกเขามอง แต่ก็ฝืนยิ้มกลับด้วยมารยาท จากนั้นเธอเบี่ยงสายตาหนี ทานอาหารต่อไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เค้กกับน้ำผลไม้ลงท้องค่อยรู้สึกดีจากความกังวลที่เกิดจากความหิวโหยเมื่อกี้ เธอเหลือบมองดูเวลา ถึงจะรู้ว่าสามทุ่มกว่าแล้ว แต่ภายในงานยังคงเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยเฮฮา เปลี่ยนจานเสิร์ฟอาหารอยู่เรื่อง ไม่มีวี่แววที่จะเลิกงานใด ๆ

งานเลี้ยงแบบนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการขยายความสัมพันธ์ ไม่เพียงแต่จะสามารถกอบโกยนามบัตรเป็นกองจากบุคคลในแวดวงธุรกิจและการเมือง แถมยังสามารถทำความรู้จักกันคนใหญ่คนโตที่ไม่สามารถเจอง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันอีกด้วย

ก่อนหน้านั้นไป๋เสว่เอ๋อร์เองก็เคยร่วมงานลักษณะนี้ไม่น้อยเหมือนกัน แต่เธอไม่ได้สนใจงานที่เสแสร้งแบบนี้เท่าไหร่ และตอนนี้เผยลี่เชินยังไม่กลับมา เธอก็ไม่รู้ว่าควรทำอะไรต่อ ได้แต่เดินเล่นอยู่ที่ล็อบบี้

เดินวนไปวนมารอบหนึ่ง เธอเห็นบันไดที่เชื่อมไปชั้นหนึ่ง เธอจึงเดินลงไปโดยที่ไม่ได้คิดอะไรมาก เมื่อกี้ตอนที่เธออยู่ชั้นสองเห็นว่าหลังสวนค่อนข้างเงียบสงบ จึงอยากจะลองไปเดินเล่นดู

เมื่อลงมาที่สวนเดินได้ไม่กี่ก้าว ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินเสียงคนเดินดังขึ้นจากข้างหลัง ความหวาดระแวงครอบงำตัวเธอทันที เธอเร่งฝีเท้าเดินวนตามขอบสระว่ายน้ำ หัวหน้าไปด้านหลังในจังหวะกำลังเลี้ยวโค้ง เธอเห็นชายแปลกหน้าในชุดสูทสีดำอยู่ตรงนั้น

คนนั้นเดินตามเธออย่างจงใจ ไป๋เสว่เอ๋อร์หัวใจบีบแน่น รีบเดินกลับไปทางอีกด้านของสระว่ายน้ำ

จู่ ๆ มีเสียงพูดดังขึ้น “คุณหญิงไป๋หยุดก่อนครับ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ชะงักไปชั่วขณะ เดินไปด้วยพร้อมมองไปทางผู้ชายตรงนั้น “คุณเป็นใคร?”

ชายแปลกหน้าก็เดินตามเธอไปด้วยรอยยิ้ม “คุณหญิงไป๋ครับ คุณชายลู่อยากจะเชิญชวนไปดื่มสักแก้ว คุณ…..”

ไม่รอให้เขาพูดจบ ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดแทรกขึ้นมาทันที “ขอโทษนะคะ น่าจะไม่สะดวกค่ะ ฉันยังมีธุระ”

ผู้ชายคนนี้ดูท่าทางแปลกประหลาด ไม่รู้ว่าตามเธอมานานขนาดไหนแล้ว แถมยังรู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหนอีก มันต้องมีอะไรแน่ ๆ

ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบซอยเท้าเดินมุ่งไปทางหน้าประตู ยังไม่ทันไปไหนไกล จู่ ๆ มีชายฉกรรจ์สองสามคนโผล่มาจากทุ่งหญ้าข้าง ๆ ขวางทางเดินของเธอไม่ให้ไปไหน

ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินถอยหลังมาสองสามก้าวเมื่อเห็นชายร่างโตสีหน้าดุดันยืนขวางอยู่ตรงหน้า

“คุณหญิงไป๋ครับ คุณชายลู่มีคำสั่งมาว่าอย่าทำให้คุณตกใจครับ คุณตามพวกผมไปดี ๆ รับประกันจะไม่แตะคุณแม้แต่นิดเดียว”

ชายสูทดำยิ้มอย่างสยอง ทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์สันหลังเย็นวูบ

เธอมั่นใจว่าตัวเองโดนวางกับดักแล้ว คนนี้พาชายหน้าตาขึงขังมาด้วยเพื่อจะบังคับให้เธอทำตามที่พูดชัด ๆ เธอมาที่นี่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาเป็นใครกันแน่ แต่กลับโดนกักตัวไว้ซะงั้น

ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดฟันแน่น มองไปทางชายสูทดำ แกล้งทำตัวนิ่งพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณจะพาฉันไปไหนก็ควรจะบอกรายละเอียดหน่อยมั้ย อีกอย่างฉันต้องบอกเพื่อนฉันก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวเขาหาฉันไม่เจออาจจะแจ้งตำรวจก็ได้”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตั้งใจพูดแบบนี้เพื่อให้พวกนั้นรู้ว่าเธอยังมีเพื่อนรออยู่ ให้พวกเขาอย่างตุกติกอะไร แต่ว่าชายสูทดำแลดูไม่สนใจมุขนี้

เขาขำพึมพำในลำคอ แล้วพูดขึ้นช้า ๆ “เพื่อนที่คุณหญิงไป๋ว่าใช่คุณเผยลี่เชินหรือเปล่าครับ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์หัวจะกระตุกวูบ มองพวกเขาด้วยสายตาตกใจ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร

เผยลี่เชินยังรู้จักเลย หรือว่า….พวกเขาจะมาหาเรื่องเธอและเผยลี่เชิน?

เห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ได้พูดอะไร ชายสูทดำพูดขึ้น “คุณหญิงไป๋ไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวพวกเราจะเชิญคุณชายเผยมาด้วยครับ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์กำมือแน่น ไม่พูดไม่จา แต่เธอสามารถมั่นใจว่าคนพวกนี้จงใจมาหาเรื่องพวกเขา สำหรับจุดประสงค์อื่น ๆ เธอเองก็ยังไม่รู้

ฝ่ายตรงข้ามมีผู้ชายทั้งหมด 4 คน แต่ละคนตัวโตกล้ามใหญ่ เธอคงจะรับมือกับพวกเขาไม่ได้

ไป๋เสว่เอ๋อร์แอบคิดคำนวณความน่าจะเป็นอยู่ในใจ รู้ดีว่าในเวลานี้จะต่อต้านไปก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เธอสูบลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ได้ ฉันไปกับพวกคุณ”

จากนั้นเธอแอบล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋า ประมวลทุกวิธีที่จะสามารถหนีออกจากตรงนี้ได้

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท