สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 57

ตอนที่ 57

ตอนที่ 57 ไม่มีเวลาเล่นสนุกกับคุณ

ผ่านไปไม่นาน ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ได้รับข้อความจากเผยลี่เชิน

“กินข้าวเช้าเสร็จแล้ว ออกเดินทางเวลาเก้าโมง” ข้อความทื่อ ๆ ไม่พูดออกนอกเรื่องแม้แต่นิดเดียว กระทั่งออกไปที่ไหนก็ยังไม่บอก

ไป๋เสว่เอ๋อร์เหลือบมองเวลา ยังเหลืออีกครึ่งชั่วโมง เพียงพอถมเถ

เธอจงใจกินอาหารเช้าอย่างไม่รีบร้อน หลังกินเสร็จแล้วยังโอ้เอ้จนถึงนาทีสุดท้ายค่อยออก ตอนผลักประตูออกไป พบว่าเผยลี่เชินยืนอยู่หน้าประตูอย่างที่คาด

สีหน้าของเขาเคร่งเครียด กวาดตามองไป๋เสว่เอ๋อร์แวบหนึ่ง แต่ไม่พูดอะไร

ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้อยู่แก่ใจ เผยลี่เชินเป็นคนตรงต่อเวลามาก เขาไม่เคยสาย อีกทั้งทุกครั้งต้องถึงก่อนเวลานัดสิบนาที ดังนั้นทุกครั้งที่เดินทางเธอจึงต้องติดตามตารางเวลาของเขา และต้องออกมารอเขาเร็วเป็นพิเศษ ครั้งนี้เธอจงใจออกมาช้า

เพราะประโยคเมื่อวานของเผยลี่เชิน ราวกับเข็มทิ่มแทงฝังลงในใจ ไม่สามารถกำจัดออกไปได้ง่ายๆ

สองคนสบตากัน เมื่อสองสายตาประสาน เพียงไม่นานก็เสหันไปทางอื่น โดยปราศจากคำพูดใด ๆ ทั้งสองยังคงเงียบงันกันอยู่อย่างนั้น

บรรยากาศอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก จนกระทั่งขึ้นรถ ทั้งสองคนก็ยังไม่พูดอะไร

รถเดินทางมาถึงร้านกาแฟสุ่ยหม่านใจกลางเมืองหนานไห่ ก่อนลงจากรถ เผยลี่เชินเอ่ยขึ้นในที่สุด “อีกเดี๋ยวเราพบลู่อี้หลิง เธออย่าพูดอะไรมาก แค่คอยอยู่ข้างฉันก็พอ”

“ค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบตรงๆ

สองคนลงจากรถ เดินเข้าไปยังร้านกาแฟ ไป๋เสว่เอ๋อร์ปราดตามองไปรอบร้านกาแฟ สายตาสะดุดที่หญิงสาวมัดผมหางม้าสวมแจ็กเก็ตยีนส์ร่างหนึ่ง

อายุราวยี่สิบกว่าปี จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาเปล่งประกาย งดงามโดดเด่น แต่งหน้าสไตล์ตะวันตก น่าจะเป็นลู่ผิงอี้ลูกสาวของลู่ผิงชวน

ตามที่คิด หญิงสาวคนนั้นเงยหน้า มองเห็นเผยลี่เชิน เธอจดจ้องไม่วางตา จากนั้นยิ้มที่มุมปาก ชูมือขึ้นโบกมือมาทางพวกเขา

เผยลี่เชินเองก็มองเห็นเธอ สาวเท้าไปข้างหน้า ทักทายเธอเช่นกัน “สวัสดีครับคุณลู่ ผมคือเผยลี่เชิน”

ลู่อี้หลิงเหลือบมองยังมือของเผยลี่เชินที่ยื่นออกมา ยิ้มที่มุมปาก ยกมือขึ้นจับมือกับเขาเบาๆ แล้วจึงปล่อย

“ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นหรอกค่ะ อีกอย่างพวกเราต่างถูกพ่อของฉันบังคับให้มาเจอกันไม่ใช่เหรอคะ?”

เผยลี่เชินสีหน้านิ่ง นั่งลงตรงข้ามเธอ ไม่โต้แย้งคำพูดของเธอแม้แต่น้อย “ครับ เป็นอย่างที่ว่า”

“แต่ฉันได้ยินว่าคุณเก่งกาจมากทีเดียว สามารถเอาที่ดินผืนนั้นมาจากลู่ชิงอวี่ได้ คงเสียแรงไปไม่น้อยสินะคะ?

“ไม่นับว่าเก่งกาจอะไรหรอกครับ แค่โชคดีเท่านั้นเอง คุณลู่อยู่ประเทศอังกฤษศึกษาด้านธุรกิจ คงได้คะแนนดีสินะครับ?”

เผยลี่เชินไม่อยากพูดถึงที่ดินผืนนั้น จึงเปลี่ยนหัวข้อบทสนทนาเป็นเรื่องของหญิงสาวแทน

ลู่อี้หลิงยิ้ม เอนหลังพิงพนัก เอ่ยโดยไม่คิดอะไรมาก “ถ้าคะแนนออกมาดีแล้วพ่อจะฝากฝังฉันให้คุณเหรอคะ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่ด้านข้างได้ยินเข้า ฉายแวววาบในดวงตา ไม่นึกว่าลู่อี้หลิงคนนี้จะพูดจาตรงไปตรงมาขนาดนี้

ลู่อี้หลิงถือโทรศัพท์ในมือเล่นไปมา เอ่ยต่อ “พ่อของฉันบอกว่าคุณเป็นคนมากความสามารถอย่างหาตัวจับยาก ต้องการให้ฉันติดตามคุณเพื่อศึกษาเรียนรู้ แต่ว่าฉันไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย พูดตรง ๆ ฉันมาเจอคุณก็เพื่อตามใจพ่อเท่านั้น สองสามวันนี้ฉันจะอยู่เที่ยวเป็นเพื่อนคุณก็แล้วกัน อีกอย่างฉันไม่มีทางติดตามพวกคุณไปไห่เฉิงหรอก”

เผยลี่เชินได้ยินเข้า อดยกมุมปากยิ้มไม่ได้

แบบนี้แหละดี พวกเขาต่างโล่งอก เขาเองก็ยังไม่ได้ตัดสินใจพาเธอไปเผยซื่อ เดิมทีเขาตัดสินใจว่าก่อนจากไปจะหาข้ออ้างมาหลบหลีก ไม่นึกว่าลู่หลิงอี้เองก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน แบบนี้จะยิ่งจัดการได้ง่ายขึ้น

“ให้คุณลู่เป็นคนตัดสินใจแล้วกันครับ”

“แต่ว่าสองสามวันนี้ ฉันยังต้องอยู่กับพวกคุณ อย่างไรก็ต้องแสดงละครให้แนบเนียน” ลู่อี้หลิงช้อนตาขึ้น มองเผยลี่เชินคล้ายจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม

“สองสามวันนี้คุณลู่มีแผนยังไงบ้างครับ?”

“พ่อให้ฉันพาพวกคุณไปเที่ยวหนานไห่ แต่จะไปที่ไหนนั้น พวกคุณคอยฟังกำหนดการของฉันก็พอ”

ลู่อี้หลิงพูดพลาง กระพริบตามาทางเผยลี่เชินและไป๋เสว่เอ๋อร์ พูดพลางยิ้ม “ฉันยังมีธุระต้องทำ ขอตัวก่อน คุณรอโทรศัพท์จากฉันแล้วกัน”

เธอพูดจบก็โบกโทรศัพท์มือถือมาทางเผยลี่เชิน ลุกขึ้นเดินจากไป เผยลี่เชินมองตามหลังลู่อี้หลิง สายตาฉายแววตึงเครียด คล้ายมีบางอย่างในใจ

ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่ด้านข้างไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอสูดหายใจลึก มองลู่อี้หลิงเดินไปไกล อดเอ่ยคำถามออกมาไม่ได้ “ประธานเผยคะ นี่มันเรื่องอะไรกันเหรอคะ?”

พวกเขามาที่นี่เพื่อพบลู่อี้หลิง ทว่าคุยกันได้ยังไม่ถึงยี่สิบนาที เธอกลับหมุนตัวจากไปเสียแล้ว…

เผยลี่เชินเก็บงำแววตา เอ่ยอย่างเชื่องช้า “ลู่อี้หลิงคนนี้ ท่าทางจะรับมือยาก”

เขาพูดจบก็ลุกขึ้นมองมาทางไป๋เสว่เอ๋อร์ที่กำลังครุ่นคิดอยู่ด้านข้าง เอ่ยเสียงเบา “เรากลับไปกันก่อนดีกว่า รอให้เธอติดต่อกลับมา”

พวกเขาทั้งสองต่างไม่คาดคิดว่า ลู่อี้หลิงจะติดต่อกลับมาหาเผยลี่เชินเอาตอนสี่ทุ่ม และสถานที่ที่ต้องการนัดพบพวกเขายังเป็นร้านเหล้าชื่อดังแห่งหนึ่งของเมืองหนานไห่

แต่ถึงอย่างไร ลู่อี้หลิงก็เป็นลูกสาวของลู่ผิงชวน ในเมื่อเขาตอบตกลงลู่ผิงชวนไปแล้ว ก็ไม่อาจปฏิเสธข้อเรียกร้องของลูกสาวเขาได้ ดังนั้นถึงแม้ไม่อยากไป ก็ต้องไป

ไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าไปในร้านเหล้า โสตประสาทพลันถูกกลบไปด้วยเสียงเพลงอิเลคโทรนิก เธอขมวดคิ้ว ตามหลังเผยลี่เชิน เดินทะลวงกลุ่มคนเข้าไป

ผ่านฟลอร์เต้นรำไปได้ เผยลี่เชินกับไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เดินไปถึงหน้าบาร์ มองหาเงาของลู่อี้หลิงจากทุกทิศ

ด้านข้างมีหนุ่มสาวเดินโอบกันผ่านไป ไป๋เสว่เอ๋อร์ยืนอยู่ตรงนั้น รู้สึกราวตัวเองกับเผยลี่เชินเป็นตัวประหลาด

ชายหนุ่มสองสามคนที่กำลังดื่มเหล้าอยู่ตรงบาร์ด้านข้างมองเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ สบสายตา ส่งสัญญาณให้กัน แล้วผิวปากมาทางเธอ

เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์หันไป ก็เห็นอันธพาลกลุ่มนั้นจ้องมองมายังเธออย่างมีเลศนัย ถึงกับขนหัวลุกขึ้นมาทันที

เธอยังไม่ทันได้เดินหนีออกมา พลันรู้สึกถูกดึงแขน จับรั้งไปด้านข้าง

เธอหันไป สบตาเข้ากับดวงตาดำสนิทฉายแววเคร่งเครียดของเผยลี่เชิน “ยืนข้าง ๆ ฉัน ห้ามเดินไปไหน”

น้ำเสียงแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจอย่างมาก ไป๋เสว่เอ๋อร์ย่นคิ้ว เอ่ยเบี่ยงประเด็น “ติดต่อคุณลู่ไหมคะ ถามว่าเธออยู่ที่ไหน?”

ลู่ผิงชวนให้ลู่อี้หลิงพาพวกเขาเที่ยวเมืองไห่เฉิง แต่ใครจะรู้ว่าลู่อี้หลิงจะนัดพวกเขามาที่นี่ หรือว่าเธอจงใจ หรือว่าเธอจะเป็นพวกรักสนุกไปวัน ๆ

เผยลี่เชินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ขณะที่กำลังจะโทรหาลู่อี้หลิง พลันมีมือหนึ่งเอื้อมมาจากด้านข้าง จับแขนของเขาไว้ “มากันจนได้นะ!”

ลู่อี้หลิงใส่เสื้อสายเดี่ยว แต่งหน้าจัดจ้าน ดึงเผยลี่เชินไปทางกลางฟลอร์เต้นรำ “เผยลี่เชิน! เต้นรำ…เป็นเพื่อนฉันหน่อย!”

เผยลี่เชินสีหน้าขุ่นมัว เอื้อมมือมาจะปลดมือของเธอ แต่ลู่อี้หลิงพลันทรุดตัวลงจนเกือบจะล้ม

ดูท่าเธอคงจะดื่มไปไม่น้อย กระทั่งเดินยังโซซัดโซเซ

เผยลี่เชินขมวดคิ้ว มือหนึ่งดึงแขนเธอไว้ อีกข้างหนึ่งถือโทรศัพท์จะโทรหาลู่ผิงชวน

หากลู่อี้หลิงเป็นอะไรไป เขาคงรับผิดชอบไม่ได้ วิธีที่ดีที่สุดคือแจ้งให้ลู่ผิงชวนรู้เสียแต่แรก

ราวกับว่าลู่อี้หลิงจะมองออกถึงความคิดของเผยลี่เชิน เธอพิงตัวบนร่างของชายหนุ่ม เอื้อมมือไปแย่งโทรศัพท์ในมือเขา

“ไม่ให้โทร! มาเต้นกับฉัน!”

เผยลี่เชินข่มกลั้นอารมณ์โกรธ พูดด้วยเสียงดังเต็มพิกัด “คุณลู่ ผมไม่มีเวลามาเล่นสนุกกับคุณ”

เขาพูดพลาง ลากลู่อี้หลิงเดินออกมาจากฟลอร์เต้นรำ กลับไปยังบาร์ที่เดิม

เขาหันกลับไป กวาดสายตารอบทิศ พลันพบว่าไป๋เสว่เอ๋อร์หายตัวไปแล้ว!

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท