ตอนที่ 75 ร่อนเรพเนจรเป็นสาวขายบริการ
“แม่ไปหาน้าหรงก็เพื่อแก้เบื่อ คุยเล่น ไม่ได้ไปเล่นไพ่นกกระจอก ลูกสบายใจได้”
ได้ยินแม่ไป๋สาบานแล้วสาบานเล่า ไป๋เสว่เอ๋อจึงจะสบายใจขึ้น ถือได้ว่าภารกิจสำเร็จ แต่เรื่องที่เผยลี่เชินตกลงกับเธอไว้ก่อนกลับ เธอเฝ้ารออย่างมาก
ตอนนี้เธอเพียงแค่อยากเจอหน้าพ่อ ดูว่าเขาอยู่ในคุกใช้ชีวิตเป็นยังไงบ้าง สบายดีอยู่รึเปล่า
รุ่งเช้า เครือตระกูลเผย
เช้าขนาดนี้ส่งเอกสารมาเยอะแยะ เผยลี่เชินเพิ่งถึงบริษัทเริ่มเปิดเอกสารอ่านดู หลังจากเซ็นอนุมัติเอกสารจำนวนหนึ่ง ก็ใกล้ถึงเวลาที่จะต้องไปประชุมแล้ว
ไปเสว่เอ๋ออยู่ที่หน้าประตู เคาะประตูหน้าห้อง เมื่อได้ยินเสียงของผยลี่เชินจึงผลักประตูเข้าไป “ประธานเผย เอกสารฉบับนี้ ฉันคัดกรองเนื้อหามาจากแผนกลยุทธ์ที่เคยวางแผนไว้ออกมา คุณลองตรวจสอบดูก่อน จะได้ประกาศแผนคร่าวๆในที่ประชุมที่กำลังจะเริ่มขึ้นได้”
เผยลี่เชินยื่นมือรับ กวาดสายตามองดู “โอเคครับ”
เขาหันหัวกลับไป มองดูเวลา ลุกขึ้นทันที พร้อมหยิบเอกสารที่เตรียมไว้ขึ้นมา รีบก้าวเดินออกไปด้านนอก “เหลือเวลาไม่เยอะแล้ว ไปประชุม”
ไป๋เสว่เอ๋อถือแท็บเล็ตเตรียมพร้อมไว้แล้ว เดินตามเผยลี่เชินออกจากห้องทำงาน ตรงไปที่ห้องประชุมที่อยู่ชั้นเดียวกัน
พวกเขาเดินตามกันไป เพิ่งจะเดินออกจากห้องทำงาน ก็เห็นสวี่เยว่หรูเดินเข้ามา เมื่อสวี่เยว่หรูเห็นเผยลี่เชิน รีบโน้มตัวลง “สวัสดีค่ะประธานเผย ฉันกำลังจะไปส่งรายงานให้คุณพอดีค่ะ”
“วางไว้บนโต๊ะก็โอเค” เผยลี่เชินพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง ฝีก้าวที่เดินอยู่ไม่มีท่าทีหยุดยั้ง
สวี่เยว่หรูตอบรับ มองดูไป๋เสว่เอ๋อที่เดินตามหลังเผยลี่เชิน สีหน้าเปลี่ยนขึ้นมาทันที พวกเขาทั้งสองยิ่งเดินยิ่งห่างไปไกล ทันใดนั้นเธอกำเอกสารในมือแน่นอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้ขึ้นมา
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ไป๋เสว่เอ๋อถูกเผยลี่เชินให้ความสำคัญมากกว่าเธอ?
สวี่เยว่หรูมองดูรูปร่างอากัปกิริยาอันดีเลิศของไป๋เสว่เอ๋อ ท่าทางที่งดงามอ่อนช้อย ภาพลักษณ์สง่าผ่าเผย จ้องมองพวกเขาทั้งสองจนหายไปจากสายตา อดกลั้นอารมณ์ที่ระบายออกมาไม่ได้ไว้ในใจ ทันใดนั้นมีผู้ช่วยวัยรุ่นสองคนเดินมาจากทางนั้น
พวกเขาทั้งสองกำลังซุบซิบนินทา สายตาพวกเธอแสดงถึงความอยากรู้อยากเห็น ราวกับควบคุมความตื่นเต้นไว้ไม่ได้ น้ำเสียงพูดขึ้นด้วยความดีใจตื่นตระหนก พวกเขาเดินผ่านสวี่เยว่หรูไป พลางทิ้งคำพูดบางคำไว้ให้ได้ยิน
“ฉันว่าแล้วเชียว! ประธานไปทำงานต่างเมืองครั้งนี้จะต้องพาผู้หญิงคนใหม่ไปด้วย”
“นั่นสิ! ที่แท้ก็เป็นแค่สาวบริการ!”
สวี่เยว่หรูส่งสายตาเป็นประกาย รีบเอ่ยปากเรียกพวกเธอไว้ “พวกเธอพูดเรื่องอะไรกันอยู่?”
ผู้ช่วยทั้งสองต่างเป็นผู้ช่วยประจำตัวของผู้บริหารระดับสูง และยังเป็นเด็กฝึกงาน ความสามารถยังไม่แข็งแกร่งพอ ปกติทำงานเล็กน้อยจุกจิกทั่วไป
พวกเขาโดนเรียกกะทันหัน ท่าทีตกตะลึงก่อน จากนั้นหันหลังกลับมาเห็นสวี่เยว่หรู เมื่อรู้ว่าเธอเป็นเลขาของประธานเผย ทั้งสองหน้าถอดสีทันที “เลขาสวี่ เมื่อครู่พวกเราแค่พูดมั่วๆสุ่มสี่สุ่มห้าค่ะ!”
คนหนึ่งปริปากพูดอธิบาย ส่วนอีกคนกลับตกใจกลัวจนก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
“พวกเธอกำลังพูดเรื่องเลขาไป๋ใช่ไหม?” สวี่เยว่หรูเดินก้าวขึ้นไปข้างหน้า ถามด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ใช่..ค่ะ….”
สวี่เยว่หรูเกิดความสนใจขึ้นมาทันที รีบเอ่ยปากพูดต่อ “เธอทำไมหรอ? พูดให้ฉันฟังหน่อนซิ!”
ผู้ช่วยทั้งสองหันมาสบตากัน เห็นสวี่เยว่หรูไม่โกรธเลยสักนิด แต่กลับดูสนใจเรื่องนี้มาก รู้สึกผ่อนคลาย ถอนหายใจออกมา รีบพูดต่อ “เลขาสวี่ หนูจะบอกคุณให้……”
……
ไป๋เสว่เอ๋อเดินตามเผยลี่เชิน เพิ่งเดินถึงประตูห้องประชุม ก็ได้ยินเสียงคุยกันจอแจด้านในดังออกมา
เผยลี่เชินขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด รีบเดินเข้าไปในห้องประชุม ทันใดนั้น บรรยากาศภายในห้องสงบลงทันที สายตาของทุกคนมองมาที่เผยลี่เชิน ไป๋เสว่เอ๋อซึ่งอยู่หลังเผยลี่เชิน มองดูสายตาของผู้คนมากมายที่มองตรงมาที่ตัวเอง เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัยขึ้นมา
เผยลี่เชินกวาดสายตามองรอบผู้คนรอบห้อง พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกิดอะไรขึ้น?”
ไม่มีใครตอบ แต่สีหน้าท่าทางดูแปลกไป ขนาดคิ้วของเผยลี่เชินยังขมวดเข้าหากันขนาดนั้น สีหน้าตึงเครียดมาก บรรยากาศผิดปกติ แต่กลับไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมา
เผยลี่เชินหยุดชะงัก รีบเดินไปนั่งลงที่นั่งตรงกลางของโต๊ะประชุม “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เริ่มการประชุมเลยแล้วกัน”
ไป๋เสว่เอ๋อรีบเดินไปตรงที่นั่งข้างกำแพง นั่งลง เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมา ก็รู้สึกได้ว่ามีคนมากมายมองมาที่ตัวเอง เมื่อเห็นเธอเงยหน้าขึ้น ทุกคนก็รีบเบี่ยงสายตาไปทางอื่นทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สรุปว่าเกิดอะไรขึ้น? ทำไมทุกคนถึงมองไปที่เธอ?
ตอนนี้ เผยลี่เชินได้เริ่มพูดขึ้นแล้ว “คิดว่าทุกคนคงได้ยินกันมาแล้ว ที่ดินที่หนานไห่บริษัทเผยซื่อของพวกเราปิดการขายได้สำเร็จแล้ว วันนี้พวกเรามาหารือกันเรื่องแผนการพัฒนาโครงการ”
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง แผนการทั้งหมดได้พูดไปเกือบหมดแล้ว บรรยากาศในห้องประชุมยังคงเงียบอย่างผิดปกติ เผยลี่เชินเริ่มรู้สึกถึงความไม่ปกตินี้ เขาวางเอกสารลงบนโต๊ะ มองดูทุกคน เอ่ยปากถาม “ทุกคนมีความเห็นอะไรรึเปล่า?”
ไม่มีใครตอบ
เผยลี่เชินนั่งลงพิงพนักเก้าอี้ รออยู่สักพัก รีบพูดขึ้นต่อ “โอเค ในเมื่อทุกคนไม่มีความเห็นอะไร งั้นพวกเราเริ่มหัวข้อถัดไปต่อ”
เขาเงยหน้ามองเผยอี้ “ทุกคนคงจำการประชุมครั้งที่แล้วได้ ผมกับรองประธานเผยท้าทายบางเรื่องกันไว้ เขาสงสัยในความสามารถของเลขาไป๋ แต่วันนี้ ผมสามารถพูดกับทุกคนได้อย่างมั่นใจ การไปทำงานต่างเมืองครั้งนี้ เลขาไป๋ให้การช่วยเหลือผมเป็นอย่างมาก ถ้าไม่มีเธอ ผมคงไม่สามารถได้ที่ดินผืนนี้มาด้วยตัวผมเพียงคนเดียวได้”
“หึ!”เมื่อเผยลี่เชินพูดจบ กลับมีเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้นมา
สายตาของเผยลี่เชินนิ่ง หันไปมอง เห็นเผยอี้ทำท่าทีเยาะเย้ยมองมาที่เขา “มีอะไรรึ รองประธานเผยมีปัญหาอะไรกับสิ่งที่ผมพูดรึเปล่าครับ?”
เผยอี้ได้ยินดังนั้น ยืนขึ้นทันที หยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะเดินเข้ามา เขาเดินมาหยุดข้างเผยลี่เชิน นำแฟ้มเอกสารที่ไม่เบาและไม่หนักวางลงบนโต๊ะ หัวเราะเย้ย “ผมอยากจะถามว่า ความสามารถของเลขาไป๋ที่ประธานเผยพูดออกมาหมายถึงเรื่องพวกนี้เหรอ?”
เผยลี่เชินชะงักลง หยิบเอกสารขึ้นมาดู เปิดไปมา ดูผ่านๆ สีหน้ากลับเปลี่ยนไป สิ่งที่สะท้อนเข้าในดวงตาของเขาเป็นรูปภาพรูปหนึ่ง เป็นรูปที่ไป๋เสว่เอ๋อทานข้าวร่วมกับหม่าสวี้หยาง ใต้รูปมีกระดาษหนึ่งใบ บนนั้นมีตัวอักษรตัวใหญ่เขียนว่า “สาวตระกูลไป๋ร่อนเร่เป็นสาวบริการ หนึ่งคืนคุ้มค่ากับที่ดินหนึ่งผืน!”
ทันใดนั้น ราวกับมีหิมะอันเยือกเย็นปกคลุมไปทั้งตัวของเผยลี่เชิน เขาหยิบกระดาษแผ่นนั้นที่อยู่ตรงหน้าพร้อมรูปถ่ายขยำไว้ในมือ ผ่านไปแปปเดียวกระดาษในมือนั้นกลายเป็นขยะก้อนกลม
เขาเงยหน้าขึ้นมองทุกคนด้วยสายตาโหดเหี้ยมอำมหิต ท้ายสุดสาดสายตาลงมามองแฟ้มเอกสารบนโต๊ะอีกครั้ง ดูไปแล้วทุกคนมีเหมือนกันคนละชุด และทุกคนก็เห็นกันหมดแล้ว!
เขาอดกลั้นความโมโหไว้ ถามขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ใครเป็นคนทำ?”
ไป๋เสว่เอ๋อที่นั่งติดกำแพงเหม่อลอย ไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด และไม่รู้ว่าทำไมเผยลี่เชินถึงได้โมโหขนาดนั้น เธอลุกขึ้น เดินไปหาเผยลี่เชิน เอ่ยปากถาม “เป็นอะไรรึเปล่าคะ?”
เผยอี้หัวเราะเยาะเธอ “ไป๋เสว่เอ๋อเรื่องที่เธอทำไว้อย่างงามหน้าตัวเธอเองยังไม่รู้อีกเหรอ?”
เผยลี่เชินได้ยิน รีบหันหลังกลับมาทันที สายตาคู่นั้นราวกับจะฆ่าคนมองไปที่เผยอี้ จนทำให้เขาไม่กล้าปริปากพูดสิ่งที่กำลังจะพูดขึ้น
“คำพูดเสียๆหายๆ” เผยลี่เชินกำหมัดในมือแน่น หน้าผ่านย่นจนแทบจะระเบิดออกมา “ใครเป็นคนทำ อย่ารอให้ฉันต้องไปตรวจสอบเอง!”
ไป๋เสว่เอ๋อหยิบแฟ้มเอกสารที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา เปิดออกดู ตกตะลึงอยู่ที่ตรงนั้น
วินาทีต่อมา ความเจ็บปวดและความทรมานทุกอย่างจุกอยู่ในใจของเธอ ใบหน้าของเธอแดงฝาดขึ้นมาทันที เธอมองดูสายตาของทุกคนที่มองมาที่ตัวเอง จนทนไม่ไหวรีบหายตัวออกไปทันที เธอรีบย่ำเท้า เดินออกไปจากห้องประชุมด้วยความรวดเร็ว