ตอนที่ 54 หรือว่าเกิดเรื่องกับเธอ
ตั้งแต่เข้ามาในห้องรับรองจนถึงตอนนี้ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำเดียว ลู่ผิงชวนกับเผยลี่เชินต่างสลับกันคุย ราวกับเธอเป็นมนุษย์ล่องหน
ตอนนี้จู่ ๆ ลู่ผิงชวนก็เอ่ยขึ้นว่าจะให้เผยลี่เชินดูแลลูกสาวเขาอีก จะให้เป็นเลขาหรือผู้ช่วยอะไรก็ได้ แบบนี้ไม่ใช่เรียกว่าแย่งข้าวชามเดียวกันกับเธอหรือไง?
ที่ทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์คาดไม่ถึงยิ่งกว่านั้นก็คือ เผยลี่เชินกลับตอบตกลง ในใจเธอรู้สึกผิดหวังขึ้นมาชั่วขณะ
เธอยกแก้วเหล้าขึ้น ดื่มจนเห็นก้นแก้วโดยไม่รู้ตัว
จากนั้นเผยลี่เชินกับลู่ผิงชวนจะคุยสัพเพเหระอะไรกันเธอก็ไม่ได้ฟังแล้ว เหลือบไปเห็นแก้วเหล้าที่ว่างเปล่า ยื่นมือไปจะคว้าขวดเหล้ามาริน พลันรู้สึกถึงสายตาแหลมคมเยือกเย็นเพ่งตรงมายังเธอ
เธอช้อนตามอง สัมผัสได้ว่าเผยลี่เชินจับจ้องยังทุกการกระทำของเธอ มือที่ตั้งใจจะคว้าขวดเหล้าจึงชักกลับมา
ไม่นาน เผยลีเชินก็เป็นฝ่ายเอ่ยลากับลู่ผิงชวนก่อน
“รองนายกเทศมนตรีครับ ยินดีที่ได้พบกันในวันนี้ แต่หากไม่มีธุระอื่นแล้ว พวกเราขอตัวก่อน”
“ครับ วันนี้ผมจะกลับไปบอกลูกสาว วันหลังจะให้เขาไปพบคุณที่โรงแรม ช่วงนี้คุณอยู่เมืองหนานไห่ จะได้ให้เธอพาคุณไปเที่ยวให้ทั่ว และจะได้อาศัยโอกาสนี้ทำความรู้จักกันสักหน่อย”
มุมปากของเผยลี่เชินยกยิ้ม ไม่ปฏิเสธ” ครับ ให้คุณเป็นคนจัดการ”
ตั้งแต่ออกมาจากห้องรับรอง ไป๋เสว่เอ๋อร์และเจิงหงล้วนเดินตามหลังเผยลี่เชิน ออกมาจากโรงแรมด้วยกัน ระหว่างทางกลับ ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่พูดอะไรเลยสักคำ เผยลี่เชินสังเกตท่าทางของเธอทุกการกระทำ จากนั้นจึงเอ่ยทันควัน “ช่วงบ่ายไม่มีกำหนดการ ให้เธอไปพักได้”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่แสดงปฏิกิริยาอะไรนัก เพียงรับคำเสียงหนึ่ง แล้วเหม่อมองออกไปทางนอกหน้าต่าง
หรือว่าเป็นเพราะเมื่อครู่เขาตกลงดูแลลูกสาวของไป๋เสว่เอ๋อร์ ไป๋เสว่เอ๋อร์หึงรึไง?
เผยลี่เชินยืดตัวตรง หันหน้าไปทางไป๋เสว่เอ๋อร์ รถกำลังเคลื่อนตัว เขาเหลือบมองหลายต่อหลายครั้งจึงเห็นสีหน้าของเธอ
เธอกำลังหลับตา สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ หรือว่ากำลังงีบอยู่?
เผยลี่เชินขมวดคิ้ว เอนหลังกลับพิงพนัก ปรับสีหน้านิ่ง
เดิมนึกว่าเธอไม่พอใจเรื่องลูกสาวของลู่ผิงชวน ที่แท้เขากลับคิดไปเอง!
เมื่อครู่ไป๋เสว่เอ๋อร์ดื่มไวน์ไปแก้วหนึ่ง กำลังรู้สึกมึนๆ ทั้งยังเป็นเวลานอนกลางวันพอดี พอเธอกลับถึงโรงแรมแล้ว ก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ตรงขึ้นเตียงนอน
หลายวันที่ผ่านมาเธออยู่หนานไห่ไม่เคยได้หลับสนิทเลย หากไม่ใช่ว่าต้องตื่นเช้า ก็เข้านอนดึก อีกทั้งยังมีเรื่องราวให้ปวดหัวอยู่ทุกวี่วัน กว่าจะได้หยุดพักสักครึ่งวันช่างยากเย็นนัก เธอลืมทุกความกังวลแล้วผลอยหลับไป
เมื่อถึงเวลาห้าโมงเย็น ไป๋เสว่์เอ๋อร์ยังไม่ตื่น แต่เผยลี่เชินที่อยู่ข้างห้องตัดสินใจจะออกไปกินข้าวแล้ว เขาให้พนักงานโรงแรมจัดมื้อค่ำสำหรับสองคนในร้านอาหารของโรงแรมเป็นพิเศษ เมื่อเห็นว่าใกล้เวลา ก็ตรงไปเคาะประตูห้องข้างๆ
เคาะไปหลายครั้งก็ยังไม่มีเสียงตอบ เผยลี่เชินยืนอยู่หน้าประตู ใจชักไม่อยู่สุข
หรือว่าเธอออกไปข้างนอก
เผยลี่เชินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดโทรหาเธอทันที อีกด้านหนึ่งมีเสียงผู้หญิงดังมาตามสาย เอ่ยว่าโทรศัพท์กำลังปิด
ปิดโทรศัพท์มือถือ? ตั้งแต่ไป๋เสว่เอ๋อร์มาทำงานเป็นลูกน้องของเขา ก็ไม่เคยปิดโทรศัพท์เลยสักครั้ง ทำไมวันนี้จู่ ๆ ถึงปิดโทรศัพท์?
เธอไม่อยู่โรงแรม แถมยังปิดโทรศัพท์ หรือว่า…จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น?
ในความคิดของเผยลี่เชินปรากฏภาพใบหน้าของลู่ชิงอวี่ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
วันนั้นเขาพูดอย่างชัดเจนว่าสนใจไป๋เสว่เอ๋อร์ ตอนนี้พวกเขาก็ไปพบลู่ผิงชวนมาเมื่อตอนเช้า ลู่ชิงอวี่เองคงจะรู้เรื่องเหมือนกัน
หรือว่าหมอนั่นไม่พอใจ อาศัยจังหวะช่วงบ่ายที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ออกไปข้างนอกลักพาตัวเธอไปแล้ว!
ความคิดนี้แวบขึ้นมาในสมองของเผยลี่เชิน ที่นี่คือเมืองหนานไห่ ไม่ใช่สถานที่ของเขา ด้วยนิสัยอารมณ์ร้อนของลู่ชิงอวี่ เขาคงไม่ยอมวางมือง่ายๆแน่…
เผยลี่เชินกําหมัดแน่น สาวเท้าก้าวเดินไปยังลิฟต์ทันที กดโทรศัพท์หาเจิงหง “ขับรถมาที่หน้าประตูโรงแรม”
พอออกคำสั่งจบก็วางสาย จากนั้นกดโทรศัพท์หาลูกน้องที่ไว้ใจได้ของตัวเอง “สืบหาร่องรอยการเดินทางของลู่ชิงอวี่ในวันนี้ทันที เอาเบอร์โทรศัพท์ของมันมาให้ฉัน”
เขาขึ้นลิฟท์มาที่ชั้นหนึ่งพอมาถึงล็อบบี้แล้วเดินตรงไปยังแผนกต้อนรับ แสดงบัตรประจำตัว “ผมติดต่อคนที่มาด้วยกันไม่ได้ ช่วยตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทิศด้านใต้ของชั้นสิบแปดดูทีว่าคนที่อยู่ห้องพัก 1821 ออกมาจากห้องตอนบ่ายเวลากี่โมง”
เดิมทีพนักงานต้อนรับที่ฟรอนต์ตั้งใจจะถามสักเล็กน้อย แต่เห็นสีหน้าของเผยลี่เชินเคร่งเครียด จึงไม่กล้าพูดอะไรมาก หลังจากตรวจเอกสารแล้วจึงไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดทันที
เผยลี่เชินขมวดคิ้วเข้าหากัน เป็นกังวลอย่างบอกไม่ถูก ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับไป๋เสว่เอ๋อร์ละก็ เขาเองยังไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการ…
ไม่นานเจิงหงก็โทรศัพท์มา “ท่านครับ ผมอยู่หน้าประตูแล้ว”
“ดี” เผยลี่เชินวางสาย หันหน้าไปทางพนักงานต้อนรับ เขาเห็นพนักงานต้อนรับยังคงวุ่นวายกับการตรวจกล้องวงจรปิด สีหน้ายิ่งตึงเครียดหนักขึ้น
เผยลี่เชินกำโทรศัพท์มือถือไว้แน่น สาวเท้าจะออกไปด้านนอก ขณะที่ เดินไปได้สองก้าว พนักงานก็ร้อนรนเอ่ย “คุณครับ เจอแล้ว!”
เผยลี่เชินชะงักเท้า หันหน้ากลับไปยังฟรอนต์
พนักงานต้อนรับถูกสายตาเยียบเย็นของชายหนุ่มมองจนสะดุ้ง ลนลานพูดออกมา:
“แขกห้อง 1821 ตั้งแต่กลับไปตอนบ่ายโมงแล้วยังไม่ได้ออกมาเลยครับ”
“ว่าไงนะ?”
เผยลี่เชินขมวดคิ้ว หันร่างสาวเท้าไปยังฟรอนต์ “คุณว่าอะไรนะ?”
พนักงานต้อนรับพูดย้ำอีกครั้ง “ แขกห้อง 1821 วันนี้ยังไม่ได้ออกมาตั้งแต่บ่ายเลยครับ”
ดวงตาของเผยลี่เชินฉายแววดุดัน ลังเลอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก้าวเท้าไปยังลิฟต์
เขาโทรศัพท์หาไป๋เสว่เอ๋อร์อีกครั้ง ยังคงปิดเครื่องอยู่ เมื่อออกจากลิฟต์แล้วเขาเดินไปถึงหน้าประตูห้องไป๋เสว่เอ๋อร์ ยกมือขึ้นเคาะประตูอย่างหนักหน่วง
“ปึง ๆ ๆ!”
ขนาดเคาะเสียงดังหลายต่อหลายครั้ง ภายในห้องก็ยังคงเงียบงัน ขณะที่เผยลี่เชินกำลังจะตัดสินใจเรียกคนให้มาเปิดประตู ทันใดประตูก็เกิดเสียงดังขึ้น
ไป๋เสว่เอ๋อร์เปิดประตูออกมา มองยังชายหนุ่มสีหน้าเคร่งเครียดที่ยืนอยู่หน้าประตูด้วยสายตาง่วงงุน สับสนเล็กน้อย เธอกำลังหลับฝันอยู่ ก็ถูกเสียงเคาะประตูดังปึงปังปลุกให้ตื่นขึ้น ยังนึกว่าเกิดเรื่อง คาดไม่ถึงว่าออกมาแล้วจะพบเผยลี่เชินยืนอยู่หน้าประตู
เธอต้องมองชายหนุ่มด้วยความสับสนและสงสัย “ทำไมคะ? เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เผยลี่เชินจ้องมองหญิงสาวที่เส้นผมยุ่งเหยิง สวมใส่ชุดนอนสองตาบวมฉึ่งก็เลือดขึ้นหน้า เธอหลับสนิทอยู่ในห้อง โดยไม่รู้เลยว่าเขาอยู่ข้างนอกเครียดเสียจนจะไปหาตัวลู่ชิงอวี่แล้ว!
ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นเผยลี่เชินไม่ตอบ ทั้งสีหน้ายิ่งถมึงทึงขึ้นเรื่อย ๆ เธอตาสว่างขึ้นมากในชั่วขณะ เกิดความหวาดกลัวเล็กน้อย เธอถอยหลังไปครึ่งก้าว งับประตูปิดลงนิดหน่อย ขณะที่กำลังลังเลว่าจะพูดอะไร เผยลี่เชินกลับเอื้อมมือมาเปิดประตูอ้าออก
ไป๋เสว่เอ๋อร์ถอยหลังกรูดโดยสัญชาตญาณ ความง่วงงุนที่หลงเหลืออยู่น้อยนิดพลันสลายไปจนสิ้น
“คะ…คุณคิดจะทำอะไร?”
เธอตื่นตกใจจนพูดติดอ่าง เผยลี่เชินยังคงมีสีหน้านิ่ง ปิดประตูดัง “ปัง”
ก้าวไปข้างหน้า ดันเธอจนติดมุมกำแพง
เขาจ้องมองเธอ เอ่ยถามเสียงเครียด “นอนหลับสบายไหม?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงพยักหน้าอย่างไม่มั่นใจนัก
หลับสบายมาก เธอไม่ได้รู้สึกหลับสบายเป็นสุขอย่างนี้มานานแล้ว
เผยลี่เชินไม่คิดว่าไป๋เสว่เอ๋อร์จะกล้าพยักหน้าจริง ๆ เขาสะกดกลั้นอารมณ์
จ้องมองใบหน้าไร้เดียงสาของหญิงสาวแล้วทนไม่ไหวในที่สุด
ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังสบตากันอยู่นั้น ท้องของไป๋เสว่เอ๋อร์ ก็ดัง “จ๊อก” ขึ้นมาสองครั้งอย่างไม่รู้กาลเทศะ ทำเอาบรรยากาศเคร่งเครียดเมื่อครู่กลายเป็นกระอักกระอ่วน…
ไป๋เสว่เอ๋อร์มองยังเผยลี่เชินอย่างเขินอาย ขณะที่ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร เผยลี่เชินก็หันร่าง ก้าวออกไปทางประตู
เขาเดินถึงประตู ด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “ให้เวลาเธอห้านาที เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ
แล้วออกไปกินข้าว”