สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 68

ตอนที่ 68

ตอนที่ 68 ตาคุณทำตามสัญญา

เธอก้มหน้าสายตายอมรับความพ่ายแพ้เปิดปะตูก้าวขึ้นรถ

ยังไม่ทันได้ขึ้นรถ ด้านหลังก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นมา “เลขาไป๋”

ไป๋เสว่เอ๋อร์หยุดนิ่งและหันกลับมา

ลุ่อี้หลิงยิ้มพร้อมส่งแววตาเป็นประกาย “เลขาไป๋ ฉันอยากนั่งด้านหลัง คุณไปนั่งด้านหน้าคนขับได้ไหมหรือไม่ก็ไปนั่งรถฉันก็ได้นะ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลอยู่สักครู่ แล้วเหลือบไปมองรถไมบัคที่อยู่ด้านหลังแล้วเหลือบมองเผยลี่เชินที่มองเธออยู่ก่อนแล้ว จากนั้นเธอก็ยิ้ม “ฉันจะไปนั่งด้านหน้ารถคะ”

พูดจบเธอก็เดินไปที่นั่งด้านหน้ารถ

ในใจเธอรู้อย่างชัดเจนว่าลู่อี้หลิงเจตนาทำแบบนี้ เธอมีทั้งรถและคนขับของเธอเอง แต่ก็ยังคิดจะแย่งที่นั่งเธอ ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ลู่อี้หลิงก็ไม่ใช่คนที่เธอจะตำหนิได้ ก็แค่เปลี่ยนที่นั่งไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร

รอจนเธอนั่งเรียบร้อย คาดเข็มขัด เผยลี่เชินและลู่อี้หลิงขึ้นรถนั่งเรียบร้อยแล้ว

รถขับไปตามถนน ลู่อี้หลิงนั่งใกล้ชิดเผยลี่เชิน เอ่ยปากถาม “วันนี้คุณอยากไปไหน? ฉันหาสถานที่ที่น่าสนใจไว้สองสามที่ เช่น สโมสรแข่งรถ สวนเต็นท์ หรือไม่ก็เดินเล่นที่ชายหาด คุณว่าไปไหนดีคะ?”

เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังคุยกันเรื่องนัดเดทวันนี้ อารมณ์ของเผยลี่เชินคงที่ มองที่ลู่อี้หลิง “แล้วแต่คุณเถอะ”

ลู่อี้หลิงสบตาเขา “ช่วยบอกหน่อย ฉันอยากรู้ความคิดของคุณ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าและมองไปด้านหลังผ่านกระจกมองหลังของรถ ขณะเดียวกันเผยลี่เชินเงยหน้า สายตาของคนทั้งสองประสานเข้าด้วยกันผ่านกระจกมองหลัง

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตื่นตระหนกและมองออกไปอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่เธอมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็ได้ยินเสียงเผยลี่เชิน “สวนเต็นท์ครับ”

ลู่อี้หลิงหัวเราะเบาๆ “คุณแน่ใจนะ? งั้นคืนนี้พวกเราไปนอนค้างในเต็นท์กัน นอนดูดาวด้วยกัน…”

“……”

เผยลี่เชินขมวดคิ้ว รีบเปลี่ยนคำพูด “ไปสโมสรแข่งขันดีกว่า”

ในขณะที่ฟังการสนทนาในแถวหลัง ไป๋เสว่เอ๋อร์สับสนเล็กน้อย เธอหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วก็เลื่อนดูข่าวใหม่ล่าสุด แต่ก็อดไม่ได้ที่จะฟังการสนทนาของพวกเขา

ไม่นานก็ถึงที่หมาย ฝ่ายบริหารอสังหาริมทรัพย์

ลู่อี้หลิงได้นัดหมายล่วงหน้าแล้ว พอพวกเขามาถึงก็มีคนพาพวกเขาขึ้นไปพบหัวหน้าหม่า

อันที่จริงแล้วโครงการนี้ไม่ต้องถึงมือหัวหน้าหม่าก็ได้ เพียงแต่สถานการณ์เกี่ยวกับที่ดินผืนนี้มันซับซ้อนเกินไป มีเรื่องความสัมพันธ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งหม่าสวี้หยางเข้าใจสถานการณ์นี้ดี จึงสะดวกกว่ามากหากเขาเป็นคนจัดการ

เมื่อถึงสำนักงานของเขาหม่าสวี้หยางทักทายพวกเขาตามมารยาท ดูเหมือนลู่อี้หยิงจะรู้จักมักคุ้นกับหม่าสวี้หยางเป็นอย่างดี หลังจากที่ทักทายเรียบร้อยแล้วก็เข้าประเด็นทันที

หม่าสวี้หยางโบกมือให้ผู้ช่วยนำเอกสารส่งให้เขา “ผมให้เจ้าหน้าที่จัดการเอกสารเรียบร้อยแล้ว เชิญพวกคุณตรวจสอบดุ ผมเซ็นชื่อในเอกสารก็ใช้ได้แล้ว ถึงเวลาพวกคุณก็นำเอกสารนี้ไปให้พนักงานที่รับผิดชอบของฝ่ายอสังหาริมทรัพย์เมืองหนานไห่ดำเนินการตามขั้นตอนของพวกเขาก็พอ”

ขณะที่เขาพูดก็ส่งเอกสารดังกล่าวให้กับเผยลี่เชิน “ประธานเผย นี่ครับ”

เผยลี่เชินรับมา พลิกดูเอกสารแล้วหยิบฉบับสำเนาส่งให้ไป๋เสว่เอ๋อร์

ไป๋เสว่เอ๋อร์อ่านคร่าวๆ ดูเงื่อนไขที่สำคัญจนแน่ใจว่าไม่มีปัญหาอะไร

เผยลี่เชินหันกลับมาหาเธอ ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบตอบเบาๆ “ประธานเผยคะ ฉันคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรคะ”

เผยลี่เชินพยักหน้ารับ เขาดูอีกครั้งและไม่พบปัญหาใดๆ เช่นกัน

เขาหันกลับมาหาหม่าสวี้หยาง “งั้นหัวหน้าหม่า พวกเรามาเซ็นต์เอกสารกัน”

เอกสารหนึ่งฉบับต้องมีคนเซ็นต์สามคน หลังสุดคือฝ่ายบริหารอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของเรื่อง ยังมีฝ่ายอสังหาริมทรัพย์เมืองหนานไห่ รอเซ็นต์ครบทั้งสามฝ่ายจึงจะมีผลบังคับใช้

หม่าสวี้หยางลงนามเรียบร้อยแล้วยิ้มพร้อมแสดงความยินดีกับเผยลี่เชิน “ยินดีด้วยครับ ประธานเผย”

เผยลี่เชินลุกขึ้นพร้อมกับจับมือ “รบกวนหัวหน้าหม่าแล้ว ขอบคุณมากครับ”

วันนี้มีเอกสารที่หม่าสวี้หยางเซ็นต์อนุมัติ พวกเขาต้องไปทำตามขั้นตอนของฝ่ายอสังหาริมทรัพย์เมืองหนานไห่ หลังจากเสร็จตามขั้นตอนแล้วทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น

ส่วนลู่อี้หลิงที่อยู่ด้านข้าง ก็ทำตัวเป็นพยานคนหนี่งอย่างเต็มที่

เมื่อพวกเขาเดินออกจากประตูของฝ่ายบริหารอสังหาริมทรัพย์แล้ว ลู่อี้หลิงก็ยื่นมือมาดึงแขนของเผยลี่เชินไว้ “ฉันทำตามสัญญาแล้ว ทีนี่ถึงตาคุณทำตามสัญญาบ้างนะคะ?”

เผยลี่เชินรักษาระยะห่างของคนสองคนไว้โดยไร้ร่องรอย และเหลือบมองใบหน้าของลู่อี้หลิงแล้วหันมามองไป๋เสว่เอ๋อร์ “เอกสารนี้เธอเก็บไว้ ฉันจะให้เจิงหงไปส่งเธอที่ฝ่ายอสังหาริมทรัพย์เมืองหนานไห่ ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเอกสารเรียบร้อยแล้วใช้ตราประทับของฉันประทับตรงที่เซ็นต์ชื่อ จากนั้นติดต่อเจ้าหน้าที่การเงินของบริษัทให้เตรียมเงินไว้ให้เรียบร้อย”

เขาหยุดสักครู่แล้วพูดต่อว่า “หลังจากเสร็จเรื่องแล้วช่วยส่งอีเมล์มาบอกฉันด้วย ส่วนเวลาที่เหลือวันนี้เธอก็จัดการเอาเองนะ”

ให้เธอพักผ่อน เขาจะไปออกเดทกับลู่อี้หลิงจริงหรือ?

ใจของไป๋เสว่เอ๋อร์ตื่นตระหนก มองไปที่เผยลี่เชินสองวินาที จากนั้นหันหน้ากลับมาพร้อมพยักหน้า “ประธานเผย เรื่องที่เหลือให้ฉันจัดการเองเถอะคะ”

“ได้ ตามนั้น”

ได้ยินคำพูดของเผยลี่เชิน ไป๋เสว่เอ๋อร์ถึงกับสูดลมหายใจลึก กำเอกสารไว้แน่นเดินออกจากลิฟต์ไปขึ้นรถไมบัค

ด้านหลังมีเสียงของลู่อี้หลิงตามมา “ฉันหิวแล้ว พวกเราไปกินข้าวก่อนดีไหมคะ?”

“ได้” น้ำเสียงของฝ่ายชายเย็นชาตามปกติ ฟังแล้วดูไม่ออกว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่น

ไป๋เสว่เอ๋อร์เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น หัวใจเหมือนถูกบีบ

เธอขึ้นรถ เจิงหงขับรถไปที่ฝ่ายอสังหาริมทรัพย์เมืองหนานไห่ เพียงไม่กี่นาทีโทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่นขึ้น เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหม่าสวี้หยางจะส่งข้อความมาถึงเธอ

เธอเปิดอ่านข้อความนั้นแบบไม่ตั้งใจ คาดคิดไม่ถึงอีกเช่นกันว่าหม่าสวี้หยางจะนัดเธอออกมาทานข้าว

หม่าสวี้หยางนัดเธอออกมากินข้าวไม่ใช่เรื่องธุรกิจ แต่เป็นเพราะเรื่องของซู่ซิว หากเมื่อสักครู่ตอนอยู่ต่อหน้าเผยลี่เชินและลู่อี้หลิงพูดเรื่องนี้คงไม่ดีแน่ เขาจึงได้ส่งข้อความมาหาเธอแทน

เขานัดเธอทานอาหารค่ำ เป็นเวลาพอดีกับที่เธอจัดการเรื่องต่างๆ เสร็จแล้ว จึงไม่มีธุระอะไรอีก

ตามหลักแล้วโครงการหนานไห่ก็อยู่ในมือแล้ว วันนี้ก็เกือบจะสำเร็จเรียบร้อย เธอก็ควรดีใจถึงจะถูก แต่ทำไมในใจของเธอกลับไม่มีความสุขเลยสักนิด?

หรือเป็นเพราะเผยลี่เชิน?

เป็นไปได้อย่างไร

ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เพื่อผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน เธอทำไมต้องสนใจเขาด้วย?

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มเยาะให้กับตัวเอง แยกแยะอารมณ์ของตัวเองแล้วหันไปพูดคุยเรื่อยเปื่อยกับเจิงหงที่กำลังขับรถอยู่

ในที่สุดก็ถึงสำนักงานฝ่ายอสังหาริมทรัพย์เมืองหนานไห่ ก่อนหน้าไป๋เสว่เอ๋อร์ติดต่อกับซุนปินไว้ล่วงหน้แล้ว ซึ่งเขาก็รอเธออยู่ที่ล็อบบี้แล้วเช่นกัน

ไป๋เสว่เอ๋อร์ลงจากรถ เห็นเจิงหงลงจากรถด้วยเช่นกัน เธอรู้สึกสงสัยยังไม่ทันเอ่ยปากถาม เจิงหงก็อธิบายเองเสียก่อน

“คุณผู้ชายให้ผมไปกับคุณด้วย หากเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากลจะได้ช่วยคุณให้ปลอดภัยได้”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ฟังแล้วรู้สึกอบอุ่นใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะละเอียดรอบคอบขนาดนี้

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มให้เจิงหง แล้วกล่าวว่า “ตัวเขาคนเดียวไปกับคุณหนูลู่ คุณไม่กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเขารึ?”

เจิงหงยิ้ม “ผมเชื่อว่าคุณผู้ชายเอาอยู่”

เอาอะไรอยู่

ไป๋เสว่เอ๋อร์หายใจเข้าลึก นึกถึงเผยลี่เชินกับลู่อี้หลิงจิตใจที่รู้สึกอบอุ่นเมื่อสักครู่กลายเป็นหดหู่เสียแล้ว

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท