สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 62

ตอนที่ 62

ตอนที่ 62 ใครให้ความกล้าเธอมา

ลู่ผิงชวนสังเกตเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเผยลี่เชิน เขาจึงวางแก้วไวน์ลงแล้วจึงเอ่ยปากว่า “ประธานเผย วางใจเรื่องที่ดินเถอะ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์อยู่ข้างๆ ได้เห็นได้ยินทุกอย่างของพวกเขา ก็รู้อยู่แต่เพียงในใจ

เธอเห็นเผยลี่เชินไม่พูดอะไรจึงถือโอกาสพูด “ท่านรองนายกเทศมนตรีคะ เพียงแค่ท่านเอ่ยปาก เรื่องนี้จะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วราบรื่น ไม่ต้องรบกวนให้ท่านติดต่อกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารอสังหาริมทรัพย์”

“หมายความว่าอย่างไร?” ลู่ผิงชวนถามพร้อมเงยหน้ามองเธอ

ไป๋เสว่เอ๋อร์หัวเราะเบาๆ ก่อนพูดว่า “เรื่องเป็นแบบนี้คะ วันนี้ประธานเผยนัดหัวหน้าหม่า ฝ่ายบริหารอสังริมทรัพย์ เพราะรู้จักกันในงานเลี้ยงครั้งที่แล้ว พวกเราถูกชะตากันมาก โครงการของบริษัทถูกกดดัน เวลาก็มีจำกัด ดังนั้นก่อนที่พวกเราจะออกมาจึงนัดหัวหน้าหม่ามาทานข้าวด้วยกันที่นี่ แต่เวลานัดคือ แปดโมง ถ้าพูดตามจริงแล้ว ตอนนี้หัวหน้าหม่าก็ควรมาถึงโรงแรมนี้แล้ว”

เผยลี่เชินขมวดคิ้ว เงยหน้ามองไป๋เสว่เอ๋อร์ หน้าค่อยๆ เปลี่ยนสี

ทำไมเขาถึงไม่รู้ว่านัดเจอกับหม่าสวี้หยางนะ เขาไม่เคยได้ยินเธอเตือนเรื่องนี้เลย

ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดต่ออย่างช้าๆ “ถ้าท่านรองนายกเทศมนตรีไม่ถือสาอะไร ดิฉันขออนุญาตเชิญหัวหน้าหม่ามาร่วมดื่มและถือโอกาสนี้พูดคุยกับเขาด้วย แบบนี้ท่านก็จะได้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวอีก จริงไหมคะ?”

ลู่ผิงชวนประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เขาพยักหน้า “เอาอย่างนี้ก็ได้ งั้นคุณไปเชิญเขามา”

“ได้ค่ะ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มให้ลู่ผิงชวนแล้วเหลือบมองเผยลี่เชิน ลุกขึ้นและเดินออกไป

เผยลี่เชินยังคงมีสีหน้าปกติ แต่ในใจกลับรู้สึกถูกกดดัน

ก่อนที่เขาจะมาเมืองหนานไห่ได้ทำข้อตกลงกับเธอเป็นลายลักษณ์อักษร บอกเธออย่างชัดเจน ห้ามเธอทำอะไรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขาหรือทำตัวเป็นหัวหน้า แต่เธอก็ไม่ยอมปฏิบัติตาม

หลังจากไป๋เสว่เอ๋อร์จากไป ลู่ผิงชวนมองดูเขาซึ่งจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม “ประธานเผย เลขาของคุณคนนี้ฉลาดไม่เบานะ”

เขาพูดมาแบบนี้ แต่น้ำเสียงฟังดูก็รู้ว่าเป็นความหมายแบบอื่น เผยลี่เชินได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไร

ผ่านไปไม่นาน ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็พาหม่าสวี้หยางเข้ามาในห้องพิเศษ หม่าสวี้หยางและลู่ผิงชวนต่างรู้จักกันมานาน เมื่อพบหน้ากันก็กล่าวคำทักทายด้วยน้ำเสียงของคนที่คุ้นเคยกัน

ลู่ผิงชวนหัวเราะพร้อมกับลุกขึ้น “วันนี้ช่างบังเอิญจริง มาหัวหน้าหม่าพวกเรามาชนแก้วกับประธานเผยสักหน่อย”

หม่าสวี้หยางก็ไหลไปตามน้ำ “มา..มา..มา..ดื่มร่วมกัน”

หลังจากดื่มแล้ว หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะพูดคุยเรื่องธุระ วันนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องก็อยู่ที่นี่กันหมดแล้ว แม้ว่าลู่ผิงชวนอยากหลบเลี่ยงก็ไม่สามารถทำได้

เขามองเผยลี่เชินทีแล้วมองที่หม่าสวี้หยาง จึงถามว่า “หัวหน้าหม่า เลขาประธานเผยเชิญคุณมา คุณคงรู้สินะว่าเป็นเรื่องอะไร?”

หม่าสวี้หยางลังเลอยู่ครูหนึ่ง จ้องมองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อร์แล้วหัวเราะ “ผมรู้แล้ว ประธานเผยต้องการพัฒนาที่นี่ แต่ต้องรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย ทำไมผมจะไม่ทราบ”

ลู่ผิงชวนพยักหน้าแต่หาข้ออ้างอื่นไม่ได้ จึงได้แต่พูดว่า “เรื่องเป็นแบบนี้ ประธานเผยเคยพบกับผมมาแล้วสองครั้ง ผมเองก็เข้าใจในโครงการของเขา ผมว่าก็ดีนะ ส่วนเขาก็อยากได้ที่ดินนั้น ก็ไม่มีปัญหาอะไร ในเมื่อประธานเผยให้ราคาที่เหมาะสม งั้นก็ขายให้เขาไป”

เมื่อได้ฟังคำพูดของลู่ผิงชวน ไป๋เสว่เอ๋อร์แอบสูดลมหสายใจเข้าลึกๆ แล้วยกชาขึ้นดื่มพร้อมเหลือบมาไปที่เผยลี่เชิน

เขาดูไม่มีความสุขอย่างที่เธอคิด แต่ใบหน้ากลับดูเย็นชาบอกไม่ถูก

ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกแน่นอก รู้สึกสงสัย จึงวางแก้วน้ำลง และยังคงเล่นบทบาทของคนที่โปร่งใสต่อไป

หม่าสวี้หยางได้ยินลู่ผิงชวนพูดเช่นนี้ จึงหัวเราะออกมาแล้วมองไปยังเผยลี่เชิน พูดเชิงล้อเล่น “ในเมื่อท่านรองนายกเทศมนตรีพูดเช่นนี้ ผมยังกล้าพูดอะไรได้อีก”

ลู่ผิงชวนและหม่าสวี้หยางต่างก็หัวเราะออกมา เผยลี่เชินได้แต่ยกแก้วไวน์ดื่ม ชนแก้วกับพวกเขา “ต้องรบกวนท่านรองนายกเทศมนตรีและหัวหน้าหม่า พวกเราเผยซื่อจึงได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินผืนนั้น ต้องขอบคุณทั้งสองท่านเป็นอย่างมาก ผมขอดื่มให้ท่านทั้งสอง”

เผยลี่เชินพูดจบเขาดื่มไวน์ขาวจนหมดแก้ว บรรยากาศค่อยๆ ดีขึ้น พวกเขาเริ่มพูดคุยเรื่องสัพเพเหระพร้อมกับดื่มไวน์ไปไม่น้อย

ช่วงท้ายของการรับประทานอาหาร ดูเหมือนลู่ผิงชวนเกือบจะเมาแล้ว เผยลี่เชินเองก็ดื่มไปไม่น้อย ส่วนหม่าสวี้หยางมีธุระอื่นจึงขอตัวกลับไปก่อน ถึงตอนสุดท้ายผู้ช่วยลู่ผิงชวนเข้ามาพูดกับเขาสองสามประโยค ลู่ผิงชวนจึงเอ่ยปาก “ประธานเผยวันนี้ผมดื่มกับคุณแล้วมีความสุขมาก วันหลังหากมีโอกาส พวกเรามาดื่มด้วยกัน ไม่เมาไม่เลิก”

“ครับ ท่านรองนายกเทศมนตรี ครั้งหน้าพวกเราไม่เมาไม่เลิก”

หลังจากกล่าวอำลากับลู่ผิงชวนแล้ว เผยลี่เชินและไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ออกจากห้องพิเศษของโรงแรม

สองสามชั่วโมงที่ผ่านมา เผยลี่เชินดื่มไวน์ขาวไปไม่น้อย ในใจของไป๋เสว่เอ๋อร์กังวลเล็กน้อย พอออกจากห้องพิเศษเดินไปตามระเบียง เธอมองไปที่ร่างของชายคนนั้นโดยตรง “ประธานเผยคะ คุณเป็นอย่างไรบ้างคะ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้ว่าเผยลี่เชินคอแข็งพอสมควร แต่คืนนี้พวกเขาดื่มไวน์ขาวเหมือนดื่มน้ำเปล่า เธอจึงห่วงเป็นพิเศษ

เผยลี่เชินยังคงเดินอย่างมั่นคง สติยังคงตื่นตัว แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ยินคำพูดของไป๋เสว่เอ๋อร์ จึงยังคงเดินตรงไปที่ประตูลิฟต์ แล้วกดปุ่มลงเพื่อลงไปชั้นล่าง

ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่กล้าถามอะไร จนกระทั่งลิฟต์มาถึง ประตูลิฟต์ค่อยๆ เปิดออก เผยลี่เชินเดินตรงเข้าไป ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เดินตามเข้าไป

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยืนอยู่ด้านหลังของฝ่ายชาย ดูเหมือนจะได้กลิ่นไวน์จางๆ จากตัวเขา เมื่อประตูลิฟต์ปิด เผยลี่เชินก็หันกลับมาทันทีจ้องมองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อร์

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตะลึง เงยหน้าจ้องมองเผยลี่เชิน ในใจรู้สึกสับสนไม่เป็นตัวของตัวเอง เผยลี่เชินไม่รอให้เธอตอบโต้ เดินไปหยุดตรงหน้าโดยไม่สนใจลิฟต์ จากนั้นเอียงผลักเธอเข้าไปที่มุมลิฟต์

เผยลี่เชินจ้องมองเธอตาไม่กระพริบ เหมือนสายตาอันแหลมคมของพญาเหยี่ยวแสดงถึงความอดทน เขาพูดเสียงต่ำ “ไป๋เสว่เอ๋อร์ เธอช่างกล้านัก”

แต่ละคำแต่ละประโยคดูเหมือนจะออกมาจากการกัดฟันพูด ช่างเย็นชาราวน้ำแข็งขั้วโลก ไป๋เสว่เอ๋อร์สั่นไปทั้งตัวและก็เข้าใจในทันทีว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร

การติดต่อกับหม่าสวี้หยางแท้จริงแล้วเป็นการตัดสินใจของเธอแต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะว่าครั้งก่อนเมื่อตอนพบกันลู่ผิงชวน ไป๋เสว่เอ๋อร์สังเกตเห็นว่าเขาเป็นคนปากกับใจไม่ตรงกัน แม้ว่าจะรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะขายที่ดินผืนนั้นให้แก่เผยซื่อ แต่กลับไม่ทำตามที่พูดไว้

แต่กลับมอบลูกสาวของตัวเองให้เผยลี่เชิน ซึ่งเป็นเพียงแค่การชะลอเวลาไว้เท่านั้น เพราะลู่ชิงอวี่แพ้พนัน เขาในฐานะของรองนายกเทศมนตรีไม่สามารถทุจริตต่อหน้าที่ได้ ต่อหน้าจึงแกล้งทำเป็นรับปาก แต่ลับหลังเขากลับไม่ทำอะไรเลย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาเผยซื่อก็ไม่มีทางได้ที่ดินผืนนั้น และก็ไม่มีวิธีอื่นอีกด้วย

แน่นอนว่าครั้งนี้ที่พวกเขาพบกันได้พูดคุยเรื่องที่ดิน ลู่ผิงชวนได้แต่พูดว่าวันหลังจะติดต่อฝ่ายบริหารอสังหาริมทรัพย์ แต่แท้ที่จริงไม่มีความจริงใจเลยสักนิด เพราะในใจของเขาคิดถึงแผนการอื่นไว้แล้ว

เพราะเธอคิดเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นหลังจากที่แน่ใจแล้วว่าจะได้พบกับลู่ผิงชวนแน่น เธอจึงนัดหมายกับหม่าสวี้หยางที่โรงแรมเดียวกัน ขอเพียงพวกเขาได้พบหน้ากันลู่ผิงชวนก็ไม่สามารถหลบเลี่ยงได้อีก ให้เขากับเผยซื่อทำสัญญากันต่อหน้าหม่าสวี้หยาง

แบบนี้ที่ดินผืนนั้นก็จะตกเป็นของพวกเขาเผยซื่อ

ทุกอย่างที่เธอคาดหวังไว้กลับลืมบอกเผยลี่เชินล่วงหน้า

เผยลี่เชินเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ดูงงๆ เขาจึงขมวดคิ้วมากขึ้น เขาแกล้งขยับตัวเข้าไปเกือบใกล้จมูก “ไป๋เสว่เอ๋อร์ ไหนพูดมาซิ ใครให้เธอกล้าดีขนาดนี้?”

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท