ตอนที่ 76 ฉันจะไปสืบเรื่อง คืนความยุติธรรมให้กับเธอ
เมื่อเผยลี่เชินได้สติกลับมา เงาของไป๋เสว่เอ๋อได้เลือนหายไปจากหน้าประตูแล้ว เขาอดทนอดกลั้นความโกรธไว้ หันหลังมามองเผยอี้ สายตามองด้วยความอาฆาตแทบจะฉีกร่างเขาแยกเป็นสองท่อน
ในขณะนั้นไม่มีใครพูดอะไรออกมา ทุกคนมองหน้ากันไปมา สื่อสารกันโดยใช้สายตาไร้ซึ่งเสียงพูดคุย
เผยลี่เชินกำหมัดแน่นเพื่อที่จะเก็บความโกรธทุกอย่างไว้ เขาหยิบเอกสารชูขึ้นมา อธิบายให้ทุกคนได้ฟัง “นี่มันเป็นเรื่องที่โมเมมั่วขึ้นมาทั้งนั้น! ช่วงที่ไปทำงานที่หนานไห่ ไป๋เสว่เอ๋อทำอะไรบ้าง ฉันรับรู้และเข้าใจที่สุดแล้ว!”
ทันใดนั้นก็มีคนพูดขึ้นมา “ประธานเผย คุณอย่าไปปกป้องเธอเลย ทุกคนมีตา คงแยกแยะออกว่าเรื่องไหนถูกเรื่องไหนผิด”
“นั่นสิประธานเผย เธอเป็นเลขาของคุณ มีเหตุผลอะไรไปเจอกับหัวหน้าผู้ดูแลที่ดินเพียงลำพัง”
เสียงอื้ออึงดังขึ้นมาทันที วุ่นวายไปหมด เผยลี่เชินรู้สึกมีเสียงดังจอแจในหัววนเวียนไปมา เขาอดกลั้นความโมโหไว้ มองไปที่พวกคนที่ตั้งข้อสงสัยทั้งหมด “พูดแบบนี้ พวกคุณยอมเชื่อกระดาษหนึ่งแผ่นที่ไม่มีที่มาที่ไป แต่กลับไม่เชื่อคำพูดของผมงั้นหรือ?”
ทันใดนั้น ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
ในความเงียบงันนั้น ผู้จัดการเฉินแผนกวางกลยุทธ์พูดขึ้นมาทันใด “ประธานเผย ผมว่าต้องให้เลขาไป๋พิสูจน์ความสามารถด้วยตัวเองให้ได้ก่อนจึงจะอยู่ที่นี่ต่อได้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ ความสามารถของเธอก็ไม่สามารถทำให้พวกเรามั่นใจได้ และรูปภาพนี้ก็เป็นเรื่องจริงจับต้องได้…ถ้าเลขาคนหนึ่งจะก่อเรื่องวุ่นวายจนทำให้ทุกคนไม่มีความสุข ไม่อย่างนั้นคุณ…..เปลี่ยนเลขาไหม?”
เผยลี่เชินหัวเราะเย้ย สายตาเย้าหยอก “ผู้จัดการเฉิน ความสามารถของไป๋เสว่เอ๋อมีมากน้อยเท่าไหร่ฉันรู้ดี เก็บเธอไว้หรือไล่ออกฉันเป็นคนตัดสินใจ อีกอย่าง ฉันขอพูดอีกสักนิด ในบริษัทเครือเผยซื่อไม่มีใครถูกไล่ออกด้วยเหตุผลที่ถูกเข้าใจผิดหรือถูกใส่ร้าย! ฉันจะพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ และจะชี้แจงให้ทุกคนได้ทราบ ไม่หลงเหลือความคลุมเครือใดๆ!”
เมื่อเขาพูดจบ กวาดสายตามองเอกสารที่อยู่บนโต๊ะ สายตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้น “ก่อนหน้าที่ฉันจะไป ฉันอยากที่ขอให้ทุกคนดูแลตัวเองให้ดี อะไรที่ไม่ควรพูดก็อย่าพูดสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่อย่างนั้นผลที่ตามมาต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง”
เมื่อเขาพูดจบ หันหลังและเดินจากไป หันไปเห็นเผยอี้ สบตากับเขาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินต่อด้วยฝีก้าวที่ฉับไวออกจากห้องประชุมไป
เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เป็นเรื่องที่เขาไม่คิดไม่ฝันมาก่อน เขาไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับเผยอี้ด้วยหรือไม่ ถ้าเขาเป็นคนทำจริงๆ เขาจะไม่มีวันให้อภัยเด็ดขาด!
เมื่อออกมาจากห้องประชุม เผยลี่เชินกลับไปที่ออฟฟิศประธานผู้บริหารโดยตรง ไม่ได้กลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง แต่กลับตรงไปที่ประตูหน้าห้องของไป๋เสว่เอ๋อ
เขาผลักประตูเข้าไป ข้างในไม่มีใครอยู่ กระเป๋าของสาวน้อยยังวางอยู่ที่ข้างโต๊ะ ดูไปแล้วเธอคงยังไม่กลับมา
เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้น โทรหาไป๋เสว่เอ๋อ โทรติดแต่ไม่มีใครรับ
เผยลี่เชินขมวดคิ้วเครียด กระวนกระวายใจขึ้นมาทันที
เขาเดินออกมาจากห้อง เห็นสวี่เยว่หรูเดินยกน้ำมาเสิร์ฟให้ ลังเลอยู่สักพัก เอ่ยปากถาม “เห็นไป๋เสว่เอ๋อรึเปล่า?”
สวี่เยว่หรูตะลึงไปพักนึ่ง “ไม่เห็นค่ะ ประธานเผยต้องการอะไรฉันไปทำให้ได้นะคะ”
“อื้ม” เผยลี่เชินตอบตามมารยาท และรีบเดินจากไป ตอนนี้เขาเพียงต้องการพบไป๋เสว่เอ๋อ
คนที่ก่อเรื่องเจ้าเล่ห์แบบนี้ในแฟ้มเอกสาร มีเจนตาทำร้ายไป๋เสว่เอ๋ออย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าเธอจะช่วยทำให้เขาได้ที่ดินตรงนั้นมา ก็ยังถูกคนชั่วใส่ร้ายป้ายสีเล่นสกปรกกับเธอเยี่ยงนี้
เขาโทรหาเธอไม่หยุดยั้ง คู่สายมีคนรับ “ฮัลโหล..”
เสียงอู้อี้ขึ้นจมูกดังขึ้นมา น่าสงสารจับใจ เผยลี่เชินฟังจนรู้สึกเจ็บปวด
เผยลี่เชินพูดด้วยน้ำเสียงสุขุม “คุณอยู่ที่ไหน?”
ไป๋เสว่เอ๋อสูดหายใจเข้าลึก พยายามปรับเสียงของตัวเอง สงบสติอารมณ์ “ฉันไม่เป็นไรค่ะ…ประธานเผย เดี๋ยวฉันกลับไปค่ะ”
สถานการณ์แบบนี้ เธอยังจะแสร้งทำเป็นเข้มแข็งต่อหน้าเขาอีก!
เผยลี่เชินกำมือถือแน่นอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าชาไปหมด เห็นได้ชัดว่าหมดความอดทนแล้ว “ไป๋เสว่เอ๋อ บอกผมมาว่าอยู่ที่ไหน อย่าให้ผมต้องถามซ้ำเป็นรอบที่สาม”
เสียงที่ฟังดูเกรี้ยวกราด ทำให้ไป๋เสว่เอ๋อหมดหนทางที่จะปฏิเสธ เธอกัดริมฝีปาก พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ฉันอยู่บนดาดฟ้า”
“รอผมก่อน”
เสียงในสายโทรศัพท์ที่มีเสียงผู้ชายแสนเย็นชา ไม่นานนักก็ตัดสายไป
ไป๋เสว่เอ๋อถือโทรศัพท์ไว้ ยืนมองเมืองไห่เฉิงบนดาดฟ้าชั้นสิบกว่าของตึก ใจของเธอสับสนปวดร้าวไปหมด
ตอนที่เธอขึ้นมา ทั้งหัวของเธอมีแต่ความเหม่อลอย รูปภาพและกระดาษแผ่นนั้นเป็นเหมือนคำสาปที่ทำให้เธอกระวนกระวาย หยุดคิดไม่ได้
เรื่องทั้งหมดนี้ทำให้เธอเข้าใจถึงคำว่า “เปิดฉากด้วยรูปหนึ่งรูป สิ่งอื่นล้วนแล้วเติมแต่งขึ้นมา” แค่รูปภาพใบเดียว ก็ตีความหมายให้เธอเป็นผู้หญิงที่เหมือนดอกไม้ริมทาง ที่มากไปกว่านั้นก็คือให้เอาความดีความชอบที่ได้ที่ดินมาสำเร็จยกกลับไปให้เธอ…
ไป๋เสว่เอ๋อกัดริมฝีปากแน่น ทำจิตใจให้สงบไม่ได้ จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมา “ไป๋เสว่เอ๋อ คุณจะทำอะไร!”
ไป๋เสว่เอ๋อยังไม่ทันได้หันกลับมา ก็รู้สึกได้ว่ามีคนมาอยู่ตรงหน้า ดึงแขนของเธอเหวี่ยงไปข้างหลัง เข้าสู่อ้อมอกอันกว้างใหญ่และอบอุ่น
เสียงทุ้มต่ำนั้นดังอยู่บนหัวของเธอ ในเสียงนั้นมีความโกรธปนอยู่ “ไป๋เสว่เอ๋อ เรื่องที่ทำให้คุณเสียใจเล็กน้อยแค่นี้ คุณรับมันไม่ได้แล้วงั้นเหรอ? ผมจะบอกคุณให้ กระโดดตึกไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้เลย!”
มือของฝ่ายชายออกแรงโอบกอดเอวของเธอไว้อย่างไม่ปกติ อดไม่ได้ที่จะกอดเธอไว้ในอ้อมอกของตัวเอง ไป๋เสว่เอ๋อมองหน้าเขาอย่างเหม่อลอย หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ
เธออยากจะกระโดดตึกที่ไหนกันล่ะ เธอแค่อยากจะขึ้นมาตากลมเรียกสติกลับมาแค่นั้น
“ฉันไม่ได้…”
เธอกำลังจะเอ่ยปากพูดอธิบาย ยังไม่ทันไร เผยลี่เชินก็ก้มตัวลงมา ทำให้ระยะห่างของทั้งสองยิ่งชิดใกล้กัน ขณะนั้นเอง ดวงตาทั้งสี่สบตาเข้าหากัน สูดลมหายใจร่วมกัน ใบหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด
“ผมจะไปสืบเรื่องนี้ คืนความยุติธรรมให้กับคุณ แต่คุณห้ามยอมแพ้เด็ดขาด”
ทุกคำเหมือนโดนเขาเน้นหนักเป็นพิเศษ ฝังลงในใจของไป๋เสว่เอ๋ออย่างจัง เธอคัดจมูกขึ้นมา น้ำตาจึงไหลรินลงมาทันใด
เธอไม่อยากจะแสดงอารมณ์มากมายใส่เผยลี่เชิน แต่เมื่อได้ยินเขาพูดประโยคเหล่านั้น เหมือนเธอได้ปลดความกังวลและความเครียดออกไป น้ำตาจึงไหลรินออกมาโดยไม่รู้ตัว
เธอกัดริมฝีปาก ยกมือขึ้นมาปิดตา พยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองให้ได้
มองดูผู้หญิงที่อยู่ในสภาพที่น่าสงสารขนาดนี้ เผยลี่เชินรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา ลูบปลอบเธอไปสองครั้ง แต่สีหน้าอารมณ์ของเขายังคงเย็นชาและเคร่งขึม เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งและสุขุม “ถ้าตัวคุณเองคิดจะยอมแพ้แล้ว งั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องช่วยคุณอีกแล้ว เข้าใจไหม ไป๋เสว่เอ๋อ”
ไป๋เสว่เอ๋ออดกลั้นน้ำตาไว้ พยายามออกแรงพยักหน้า เธอยกมือขึ้นมาปาดน้ำตา วางมือลงมา สูดหายใจเข้าลึก “ฉันจะไม่ยอมแพ้”
“ดี” เผยลี่เชินมองดูเธออย่างลึกซึ้ง ค่อยๆปล่อยเธอออก เดินถอยออกมานิดหน่อย พูดต่อ “ปรับอารมณ์สักหน่อย กลับห้องทำงานกัน”
หลังจากเห็นไป๋เสว่เอ๋อพยักหน้า เขาหันหลังกลับ เดินตรงไปที่บันไดดาดฟ้า
ไป๋เสว่เอ๋อมองดูเงาของผู้ชายที่ค่อยๆเดินจากไป สูดหายใจ สงบสติอารมณ์
ยังมีอีกหนึ่งคนที่ยืนอยู่ข้างเธอ เชื่อเธอ สนับสนุนเธอ เธอก็ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่จะต้องยอมแพ้
หลังจากนั้นสิบนาที เธอลงมาด้านล่าง กลับไปที่ออฟฟิศประธานผู้บริหาร ยังเดินไม่ถึงประตูก็เห็นสวี่เยว่หรูยืนอยู่อีกข้าง สีหน้าเยาะเย้ยจ้องมาที่เธอ
เธอสีหน้านิ่งเรียบ กำลังจะเดินอ้อมหลังของเธอ สวี่เยว่หรูกลับพูดขึ้น “เลขาไป๋ ฉันได้ยินมาว่าบริษัทเผยซื่อได้ที่ดินที่หนานไห่มาครั้งนี้ เธออุทิศตัวทำคุณงามความดีไว้เยอะเลยใช่ไหม?”