สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 79

ตอนที่ 79

ตอนที่ 79 ต้องการคุณ

หลังจากนั้นสามนาที ในห้องรับรองเล็กข้างห้องจัดเลี้ยง

เผยอี้รีบเดินเข้าไป มองไปที่เผยลี่เชินที่นั่งอยู่บนโซฟา นั่งลงตรงข้ามเผยลี่เชิน

“มีเรื่องอะไร?” สีหน้าเผยอี้เคร่งเครียด อดกลั้นอารมณ์ไว้

เผยลี่เชินพูดออกมาตรงๆไม่อ้อมค้อม สีหน้าขรึมพูดขึ้น “แกเป็นคนทำรึเปล่า?”

คนที่ไม่อยากให้ไป๋เสว่เอ๋ออยู่ในบริษัทเผยซื่อก็คือเผยอี้ ตอนแรกพวกเขายังพนันกันที่บ้าน ตอนนี้พวกเขาได้ที่ดินหนานไห่มาแล้ว เพื่อที่เผยอี้จะไล่ไป๋เสว่เอ๋ออกไปได้ เขาอาจจะใช้วิธีอื่น ดังนั้นคนที่เขาสงสัยเป็นคนแรกก็คือเผยอี้

เผยอี้จ้องไปที่เผยลี่เชินครู่หนึ่ง เขาเพิ่งจะเข้าใจความหมายของสิ่งที่เผยลี่เชินพูดออกมา เขานั่งยืดหลังตรงขึ้นมาทันที อดกลั้นความโกรธไว้ พูดขึ้น “เผยลี่เชิน พี่หมายความว่ายังไง? พี่คิดว่าผมจะใช้วิธีดูถูกเหยียดหยามแบบนี้งั้นรึ!”

แน่นอนว่าเขาไม่อยากให้ไป๋เสว่เอ๋อทำงานที่บริษัทเผยซื่อ เขาไม่เชื่อว่าไป๋เสว่เอ๋อจะมีศัยกภาพความสามารถในการทำงาน แต่เขาไม่มีทางใช้วิธีเลวทรามต่ำช้าแบบนี้แน่นอน!

มองดูเผยอี้ด้วยความโมโห เผยลี่เชินเก็บกดอาการไว้ เขาเปลี่ยนท่าทางนั่งพิงพนักเก้าอี้ พูดด้วยความเย็นชา “เผยอี้ แกใช่ไหม ถ้าแกไม่พูด ฉันจะไปตรวจสอบเอง และถ้าสุดท้ายตรวจพบว่าเป็นแกจริงๆ….”

ไม่รอให้เผยลี้เซินพูดจบ เผยอี้พูดแทรกขึ้นทันที “เผยอี้อย่างฉันแม้ว่าจะเกลียดไป๋เสว่เอ๋อเพียงไหน ก็ไม่ใช้วิธีสกปรกแบบนี้หรอก!”

“เกลียด?” เผยลี่เชินหัวเราะเย้ย กวาดสายตามองไปที่เผยอี้ เขาชะงักไปครู่หนึ่ง พูดต่อ “เผยอี้ ต่อไปอย่าก่อเรื่องให้ไป๋เสว่เอ๋ออีก แกทำให้เขาไม่มีความสุขก็เท่ากับทำให้ฉันไม่มีความสุขเช่นกัน”

เผนอี้ได้ยินเยี่ยงนั้น มองไปที่เผยลี่เชินด้วยสายตาเย้ยเยาะ หัวเราะเยาะขึ้นมา “ฉันยังไม่เคยเห็นพี่ปกป้องผู้หญิงคนไหนมากขนาดนี้ ถามหน่อยเหอะขยะที่ฉันทิ้งไปมีเสน่ห์มากมายขนาดนี้เลยเหรอ?”

“ในเมื่อแกเป็นคนจำกัดขยะ งั้นทำไมแกยังไปหาเรื่องเขาได้ทุกวี่ทุกวัน?” เผยลี่เชินยืดหลังตรง สีหน้าเคร่งขรึม “สิ่งที่ฉันควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว อย่าให้ฉันต้องเจอแกเพราะเรื่องนี้อีก”

เมื่อเผยลี่เชินพูดจบ เขาลุกขึ้น กำลังจะเดินออกจากห้อง

เผยอี้มองเยาะเย้ยลุกขึ้นตาม เขามองตามหลังเผยลี่เชินด้วยสายตาอันโหดร้าย

เขาคอยหาเรื่องเผยลี่เชินอยู่เสมอ เขายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ!

……

หลังจากมีงานเลี้ยงฉลอง เรื่องที่เป็นที่เลื่องลือของไป๋เสว่เอ๋อลดน้อยลงขึ้นทุกที วันสองวันผ่านไป ความเร่าร้อนนั้นก็หายตามไป เรื่องทั้งหมดก็ถูกทุกคนลืมทิ้งไป

ส่วนเรื่องงาน ไป๋เสว่เอ๋อเริ่มชินกับงานมากขึ้น ตั้งแต่กลับมาจากหนานไห่ ธุรกิจของบริษัทเริ่มยุ่งขึ้นมาก เธอทำงานล่วงเวลาติดกันสองวัน เผยลี่เชินก็ต้องออกไปงานเลี้ยงบ่อยขึ้น ปกติเขาจะพาฉีเฟิงหรือสวี่เยว่หรูไปออกงานด้วย เธอทำได้เพียงนั่งอยู่ในออฟฟิศรับโทรศัพท์และจัดตารางงาน

“ก๊อกๆ”

ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เมื่อไป๋เสว่เอ๋อเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นสวี่เยว่หรูยืนอยู่ตรงหน้าประตู

ตั้งแต่ที่พวกเขากลับมาจากเมืองหนานไห่ สวี่เยว่หรูเย็นชากับเธอขึ้นมาก นอกจากจะมีเรื่องที่สำคัญมากเป็นพิเศษจึงจะมาบอกเธอ บางครั้งเรื่องที่ผู้ช่วยควรจะทราบเธอกลับไม่บอกไป๋เสว่เอ๋อ แต่ไป๋เสว่เอ๋อเข้าใจดี ว่าตัวเองกับสวี่เยว่หรูเทียบกันไม่ติด แต่ความสัมพันธ์ที่ยังต้องพึ่งพากันมีอีกแสนยาวไกล ถ้าจะเป็นเพราะเรื่องเล็กๆน้อยๆทำให้ต้องทะเลาะกัน มีแต่จะส่งผลเสียต่อทั้งสอง ทั้งยังสร้างความวุ่นวายให้กับเผยลี่เชินอีกด้วย

ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ ไป๋เสว่เอ๋อได้แต่ทำใจอดกลั้นไว้ เรื่องเล็กๆก็ปล่อยไป ทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“มีเรื่องอะไรหรอคะเลขาไป๋?” ไป๋เสว่เอ๋อฝืนยิ้มให้ น้ำเสียงเป็นมิตร

“ประธานการเงินมีนัดเจอกับประธานเผยในวันพรุ่งนี้ เธออัพเดตตารางใหม่ด้วย แล้วก็จองร้านอาหารพรุ่งนี้ไว้ด้วยนะ ประธานการเงินชอบทานอาหารดิบ เธอจองไว้ด้วยล่ะ”

ไป๋เสว่เอ๋อรีบเอ่ยปากขอบคุณ “รับทราบค่ะ ขอบคุณค่ะ”

สวี่เยว่หรูไม่มีท่าทีโต้ตอบอะไร สีหน้านิ่งพลางหันหลังกลับ และรีบเดินออกไป

ไป๋เสว่เอ๋อเบี่ยงสายตาหันกลับมาเพิ่มตารางงานในแท็ปเล็ต และทำโน้ตจองร้านอาหาร

ในเมื่อชอบทานอาหารดิบ ก่อนอื่นต้องเลือกร้านที่เป็นอาหารญี่ปุ่น เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหาร้านอาหารญี่ปุ่นที่ได้รับคะแนนความนิยมค่อนข้างสูงในเมืองไห่เฉิง เธอหาดูหนึ่งรอบ สุดท้ายได้ร้านที่ถูกใจมาหนึ่งร้าน

ร้านอาหารแห่งนั้น เธอเคยไปมาก่อน บรรยากาศดี อีกทั้งบริการชั้นเลิศ ปลาดิบล้วนแล้วส่งตรงมาจากฮอกไกโดทางเครื่องบิน สดใหม่มาก

หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้ว ไป๋เสว่เอ๋อจดบันทึกชื่อร้านไว้ โทรไปที่ร้านอาหาร จองห้องVVIPหนึ่งห้อง

เมื่อเสร็จธุระทุกอย่างแล้ว เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เธอรีบเข้าไปที่ห้องทำงานของเผยลี่เชินเพื่อเปลี่ยนน้ำชาให้เขา

เธอเข้าไปในห้อง เผยลี่เชินกำลังตรวจเอกสาร ไป๋เสว่เอ๋อเดินเข้าไป เห็นแก้วกาแฟว่างเปล่าวางอยู่บนโต๊ะ เธอจึงยกขึ้นไปจะไปเปลี่ยนแก้วใบใหม่ มือของเธอเพิ่งจะยื่นออกไป ก็ถูกบางคนห้ามไว้

หลังมือของไป๋เสว่เอ๋อกระตุกขึ้น เงยหน้ามองไปที่เผยลี่เชิน “ประธานเผยไม่ต้องการรับกาแฟแล้วหรอคะ?”

“ผมต้องการคุณ” เผยลี่เชินยักคิ้ว

“ว่าไงนะคะ?”

ไป๋เสว่เอ๋อตกใจ รีบเก็บมือทั้งสองจากมือเขาลง สบตาฝ่ายชายที่มองมา จิตใจกระวนกระวาย

เห็นเธอทำท่าทีตื่นตกใจ เผยลี่เชินอดที่จะเหวอปากไม่ได้ เขารีบเซ็นเอกสารที่อยู่ตรงหน้า จากนั้นปิดแฟ้มเอกสาร เงยหน้าสบตามองไปที่ไป๋เสว่เอ๋ออีกครั้ง

เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม “วันนี้ผมจะกลับบ้านทานข้าว พ่อของผมให้พาคุณไปด้วย”

“ว่าไงนะคะ?”

ไป๋เสว่เอ๋อตะลึงขึ้นอีกครั้ง จนต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว

สำหรับเธอแล้วคุณท่านเผย เป็นชื่อที่วนเวียนอยู่ในหัวสมอง ปีนั้นคุณท่านเผยมีชื่อเสียงโด่งดังมากในวงการธุรกิจของเมืองไห่เฉิง วางกลยุทธ์ปราบคู่ต่อสู้ ตัดสินใจเฉียบขาด เมื่อก่อนเธอมักจะได้ยินพ่อพูดถึงบุคคลผู้นี้อยู่บ่อยๆ เธอเองก็เคยเห็นตามทีวีและหนังสือพิมพ์อยู่หลายครั้ง แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเจอตัวจริงของคุณท่านเผยเลยสักครั้ง

วันนี้เผยลี่เชินจะกลับบ้านไปทานข้าว คุณท่านเผยกลับให้เขาพาเธอไปด้วย เธอจะไม่ตกใจตะลึงได้อย่างไร? หรือว่า เขารู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเผยลี่เชินแล้ว?

ไป๋เสว่เอ๋อทำท่าทางสงสัยมองไปที่เผยลี่เชิน ยังไม่ทันได้ถาม เผยลี่เชินก็เดาถูกเสียก่อนว่าเธอต้องการจะพูดอะไร

เขายืนขึ้น จ้องมองไปที่ตาคู่นั้นของไป๋เสว่เอ๋อด้วยความจริงจัง “สบายใจได้ เขาเพียงแค่ได้ยินเรื่องที่คุณแสดงศักยภาพได้ดีที่เมืองหนานไห่ อยากจะชื่นชมคุณ”

ไป๋เสว่เอ๋อถอนหายใจ ท่าทางกระวนกระวายใจมองไปที่เผยลี่เชิน “ฉันไปแล้วจะเหมาะสมจริงๆเหรอ?”

เธอเป็นเพียงแค่เลขาข้างกายของเผยลี่เชิน และงานที่เธอทำที่หนานไห่ล้วนเป็นเรื่องที่เธอควรทำ คุณท่านเผยอยากเจอเพียงเพราะแค่เรื่องนี้ เธอจึงรู้สึกตื่นเต้นเป็นปกติ

“เพราะที่ดินผืนนั้น โครงการที่หนานไห่ถูกเลื่อนมาปีกว่า โครงการที่ทำสำเร็จยากขนาดนี้ ตอนนี้กลับทำได้แล้ว คุณเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ เขาอยากเจอคุณก็ไม่แปลก ”

เผยลี่เชินพูดมาขนาดนี้แล้ว เธอคงปฏิเสธไม่ได้ ไป๋เสว่เอ๋อลังเลอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็พยักหน้า ตอบรับเขา “โอเคค่ะ”

หลังจากนั้นสองชั่วโมง ไป๋เสว่เอ๋อนั่งอยู่บนรถของเผยลี่เชิน มุ่งตรงไปยังบ้านของคุณท่านเผย

ระยะทางที่ไม่ถือว่าใกล้ รถขับไปถึงเขตนอกเมือง จากถนนหลักขับมาจนถึงถนนแคบๆเลนส์เดียว ขับไปสิบนาทีกว่า ขับผ่านเนินเขาลูหนึ่ง ในที่สุดไป๋เสว่เอ๋อก็เห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ซ้อนอยู่หลังต้นไม้มากมาย

กำแพงขาวกระเบื้องเหลือง รถถูกจอดไว้ที่โรงจอดด้านนอก ไป๋เสว่เอ๋อลงมาจากรถ เดินตามเผยลี่เชินเข้าประตูใหญ่ไป เห็นพืชผักน้อยใหญ่ขึ้นอยู่เต็มสวน อีกทั้งมีทั้งดอกไม้และหญ้า สีเขียวชอุ่ม ดูมีชีวิตมากมาย

เดินไปบนทางเดินหิน ผ่านสวนดอกไม้ ก็ถึงประตูคฤหาสน์ ผู้ชายอายุราวห้าสิบปีเห็นเผยลี่เชิน รีบออกมาต้อนรับ “คุณชายกลับมาแล้ว!”

เผยลี่เชินพยักหน้าให้เขา ใบหน้าของเขาแสดงสีหน้าที่เธอไม่เคยจะได้เห็นในวันปกติ “ลุงหวา พ่อผมล่ะครับ?”

“คุณเผยฝึกเขียนตัวอักษรอยู่ในห้องหนังสือ ผมไปตามให้นะครับ”

“โอเคครับ”

ลุงหวารีบให้คนรับใช้มาเสิร์ฟน้ำชา จากนั้นขึ้นไปด้านบนทันที

เผยลี่เชินพาไป๋เสว่เอ๋อเดินไปที่ห้องรับแขก เพิ่งนั่งบนโซฟาได้ไม่นาน ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาตรงบันได

ไม่นานนักก็มีชายสูงอายุคนหนึ่งเดินลงมา เขาใส่ชุดยาวเหมือนสมัยซุนยัดเซน ริ้วรอยตีนกาลึกอย่างเห็นได้ชัด แต่นัยน์ตาทั้งคู่ของเขากลับยังเปล่งประกายและคมกริบ

จากนั้น เสียอันแหบแห้งแต่ทรงพลังดังขึ้น “ลี่เชิน!”

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท