ตอนที่ 77 ผมเชื่อมั่นในตัวคุณ
ไป๋เสว่เอ๋อหยุดเดิน หันตัวไปด้านข้างกำหมัดในมือทั้งสองข้าวไว้แน่น ในเมื่อทุกคนรู้เรื่องกันหมดแล้ว
เมื่อสวี่เยว่หรูเห็นสีหน้าอารมณ์ของไป๋เสว่เอ๋อ ก็ยิ่งรู้สึกสะใจเหิมเกริม “เป็นอะไรรึ? ทำไมมองฉันแบบนี้ล่ะ?”
ไป๋เสว่เอ๋ออดกลั้นความโกรธไว้ เบนสายตาไปทางอื่น สุดท้ายก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรเธอ เธอรีบเดินกลับไปยังห้องทำงานของตนเอง ปิดประตูทันที
สวี่เยว่หรูที่อยู่หน้าประตูสีหน้าไม่พอใจ ไม่สบอารมณ์จนพึมพำออกมา และหันหลังจากไป
เผยลี่เชินยืนอยู่ด้านหน้าหน้าต่างบานเกล็ดในห้องทำงาน เขาดึงบานเกล็ดลงปิดสนิทไม่ให้เห็นอะไร ทันใดนั้นเอง มือถือของเขาดังขึ้น เขารีบสไลด์กดรับ “ว่ามา”
“ประธานเผย ภาพกล้องวงจรปิดออกมาแล้วครับ วันนี้คนที่เข้าไปวางเอกสารในห้องประชุมเป็นพนักงานทำความสะอาดของบริษัทครับ”
เผยลี่เชินขมวดคิ้วเครียด สักพัก ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พาเขามาที่ห้องทำงานฉัน”
“รับทราบ”
ก่อนที่จะมีการประชุมที่บริษัท ถ้ามีความจำเป็น จะมีการจัดเตรียมพนักงานนำเอกสารไปวางก่อนให้เรียบร้อย แต่วันนี้ไม่มีการแจ้งให้วางเอกสาร แฟ้มเอกสารนี้ หากมีคนนำไปวางไว้ เขาก็สามารถดูได้จากวิดีโอกล้องวงจรปิดจนหาตัวการเจอ แต่คาดไม่ถึงเลยว่า จะเป็นแม่บ้านทำความสะอาดของบริษัท
ไม่ถึงสิบนาที ฉีเฟิงผู้ช่วยของเผยลี่เชินพาป้าหลิวแม่บ้านทำความสะอาดมาที่ออฟฟิศประธานบริหาร
นี่ถือเป็นครั้งแรกของป้าหลิวในการเข้ามาห้องทำงานของเผยลี่เชิน เมื่อเห็นเผยลี่เชิน ก็พูดตะกุกตะกัก ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
สีหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ พูดออกคำสั่ง “วันนี้ที่คุณเข้าไปวางเอกสารในห้องประชุม เรื่องนี้เป็นยังไง บอกมาตรงๆ”
ป้าหลิวเงยหน้าขึ้น ค่อยๆมองไปที่เผยลี่เชินที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะ รู้สึกผิดและกระวนกระวายใจ “ฉัน…ฉันก็ไม่รู้ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร เพียงแต่มีคนคนหนึ่งให้ฉันทำเรื่องแบบนี้ เขาขวางฉันไว้ที่หน้าประตู เอาเอกสารให้ฉันหนึ่งชุด บอกว่าให้ไปจัดเรียงที่ห้องประชุมให้เรียบร้อย ถ้าทำสำเร็จจะให้เงิยสามหมื่นหยวน…”
ใบห้นาของเผยลี่เชินไม่มีสีหน้าอารมณ์อะไรมากนัก ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คนแบบไหน? คุณเห็นลักษณะหน้าตาเขาไหม? มีวิธีติดต่อเขารึเปล่า?”
“เขาใส่หน้ากากปิดปาก ฉันมองไม่ชัด อายุน่าจะประมาณสามสิบนิดๆ…เขายัดเงินให้ฉันก่อนหนึ่งหมื่น บอกว่าเป็นค่ามัดจำ ถ้าเรื่องนี้สำเร็จ เขาจะให้อีกสองหมื่นที่เหลือ…”
เผยลี่เชินกำหมัดสองข้างแน่น เงียบไม่พูดอะไร
จู่ๆฉีเฟิงพูดขึ้น “ประธานเผยคะ ไม่อย่างงั้นพวกเราเปิดกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าประตูบริษัท ตรวจสอบตามจากเส้นทางนี้ดีไหมคะ?”
เป้าหมายชัดเจน ทำงานอย่างรอบคอบ ใส่หน้ากากใส่หมวก เห็นได้ชัดว่ามีการเตรียมการล่วงหน้าอย่างดี และคงไม่มีใครบงการเบื้องหลัง อาจจะเป็นการทำเพียงคนเดียว พวกเขาไม่ใช่ตำรวจ คงไม่สามารถที่จะนั่งเสียเวลางมเข็มในมหาสมุทรหาคนร้ายหนึ่งคน ตอนนี้ภารกิจที่สำคัญที่สุดคือรีบหาความจริงคืนความยุติธรรมให้ไป๋เสว่เอ๋อให้ได้เร็วที่สุด มีเพียงวิธีนี้ จึงจะทำให้เรื่องที่ถูกสร้างขึ้นมาทั้งหมดไม่มีผลร้ายใดๆตามมา
“ไม่เป็นไร” เผยลี่เชินสบสายตา กวาดมองไปยังป้าหลิว จากนั้นพูดขึ้นอย่างไม่กระวนกระวาย “พาเธอไปที่แผนกการเงินรับเงินเดือนสามเดือน พรุ่งนี้ก็ไม่ต้องมาทำงานแล้ว”
เมื่อป้าหลิวได้ยินเช่นนั้น สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด รีบเอ่ยปากขอร้อง “ท่านประธานเผย! ท่านประธานอย่าไล่ฉันออกเลย! ต่อไปฉันจะไปทำเรื่องแบบนี้อีก! ประธานเผยคะ!”
เผยลี่เชินแสร้งทำเป็นหูทวนลม ก้มหน้าเปิดดูเอกสารต่อ
บริษัทเผยซื่อให้อภัยกับเรื่องที่ติดสินบนผู้อื่นแบบนี้ไม่ได้ วันนี้ปล่อยเธอไป วันต่อไปอาจจะมีคนที่สองที่สามทรยศเยี่ยงนี้อีกก็เป็นได้ เขาไม่มีความอดทนมากพอที่จะมีเรื่องราวต่อล้อต่อเถียงกับพวกเขา
ป้าหลิวถูกฉีเฟิงลากออกจากห้องทำงานประธานบริหาร เธอยังตะโกนร้องขอความเห็นใจจากเขาอยู่ ทำให้คนแถวนั้นได้ยินพากันหามามอง ไปเสว่เอ๋อที่นั่งอยู่ในห้องทำงานก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายข้างนอกเช่นกัน เธอเดินไปมองที่หน้าต่าง ได้ยินสิ่งที่ป้าแม่บ้านพูดร้องขอความเห็นใจ เธอเข้าใจขึ้นมาทันที
ป้าแม่บ้านคนนี้ จะต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดในวันนี้แน่นอน เธอสูดหายใจเข้าลึก รีบเดินออกจากห้อง เดินไปเคาะห้องข้างๆทันทีทันใด
หลังจากได้ยินเสียงตอบรับที่ผ่านออกมาจากในห้องทำงาน ไป๋เสว่เอ๋อผลักประตูเข้าไป เมื่อเห็นเผยลี่เชินที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน เธอใจเย็นขึ้นมาอย่างเร็วไว
เผยลี่เชินเห็นเธอไม่พูดอะไร แต่ในใจก็สามารถเดาได้ว่าทำไมเธอถึงมาที่นี่ เขาวางเอกสารในมือลง “มานี่”
น้ำเสียงไม่แข็งเหมือนการพูดปกติทุกวัน แต่กลับดูอ่อนโยนขึ้นมาก
ไป๋เสว่เอ๋อค่อยๆเดินเข้าไป รอคำตอบจากเขา
เผยลี่เชินยืนขึ้น เดินไปหาเธอ “มีคนใช้เงินจ้างป้าแม่บ้านนำเอกสารมาไว้ในห้องประชุม ยังตรวจสอบไม่ได้ว่าเป็นใคร ผมรู้สึกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าคุณเป็นผู้บริสุทธิ์”
ขั้นแรกแน่นอนว่าต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่มีความผิด แต่พูดอย่างเดียวก็ถือเป็นเรื่องง่าย แต่จะพิสูจน์ยังล่ะ? เธอไม่มีหลักฐานใดๆ แม้ว่าจะอธิบายให้ทุกคนฟัง แต่ใครจะไปเชื่อกัน?
เผยลี่เชินมองความคิดทั้งหมดของเธอออก เขาเดินใกล้เข้ามา ยื่นมือมาจับไหล่ของไป๋เสว่เอ๋อไว้ “ไป๋เสว่เอ๋อ คุณไม่เชื่อผมงั้นหรือ?”
ไป๋เสว่เอ๋อสบตาเขา สายตามองเข้าไปในแววตาของฝ่ายชายอย่างลึกซึ้ง เธอนึกถึงเหตุการณ์ในคืนนั้นที่หนานไห่ ตอนที่เธอกับเขาเผชิญหน้ากับลู่ชิงหนิง คำพูดที่เธอพูดกับเขา เธอเชื่อเขา ดังนั้นจึงไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น
ตอนนี้ ทำไมจะไม่เป็นแบบนั้นล่ะ เธอเชื่อเขา ดังนั้นเธอจะไม่กลัวอีกต่อไป
ทันใดนั้น พลังบางอย่างทำให้เธอเข้มแข็งขึ้นมาทันที เธอมองไปที่เผยลี่เชิน พยักหน้า “ฉันเชื่อมั่นในตัวคุณ”
เผยลี่เชินได้ยินเช่นนั้น สายตาเปล่งประกายขึ้นมา เผยอปากขึ้น พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า
ใจของไป๋เสว่เอ๋อสั่นไหว มองไปที่ผู้ชายตรงหน้าอย่างประหลาด ราวกับไม่เคยรู้จักเขามาก่อน
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเขายิ้มแบบนี้ ชะล้างความเย็นชาและความอึดอัดที่มีไปทั้งหมด เป็นรอยยิ้มที่มองดูแล้วสบายใจไร้กังวล มีเสน่ห์ใสบริสุทธิ์ ราวกับมีกลิ่นหอม
ไม่รีรอให้เธอตอบโต้อะไร เผยลี่เชินหันหลังกลับไป พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม “คุณกลับไปก่อน รอผมแจ้งช่วงบ่าย”
ไป๋เสว่เอ๋อได้ยินเช่นนั้น ได้สติขึ้นมา มีความกระวนกระวายใจเล็กน้อยรีบตอบกลับ “รับทราบค่ะ”
เธอหันหลังกลับไป ออกไปอย่างรวดเร็ว
ในใจราวกับมีฝูงกวางวิ่งชนไปมา วิ่งชนใจของเธอไม่หยุดหย่อน แต่รอยยิ้มของเผยลี่เชินเมื่อครู่ กึ่งจริงกึ่งหลอก แต่สำหรับเธอแล้วราวกับว่าเป็นความฝัน
ที่จริงเรื่องเพราะเรื่องโกหกที่โดนใส่ร้าย ทำให้เธอเศร้าใจระทมทุกข์ แต่ตอนนี้ไม่ได้กังวลหรือใส่ใจอะไรมากแล้ว
โบราณกล่าวว่า ทำอะไรต้องตรงไปตรงมา ไม่ต้องกลัวสิ่งใด เธอคิดได้แบบนี้ถือเป็นเหตุผลเพียงส่วนหนึ่ง แต่เหตุผลที่สำคัญไปมากกว่านั้นเพราะมาจากเผยลี่เชิน
เวลาเข้างานตอนบ่าย ไป๋เสว่เอ๋อจัดเตรียมตารางงาน จากนั้นเริ่มเคลียร์งานที่เหลืออยู่ เพิ่งทำไปได้เพียงครึ่งหนึ่ง ก็มีคนมาเคาะประตู
ประตูที่ถูกเปิดออก คนที่เข้ามาก็คือผู้ช่วยลึกลับผู้ชายของเผยลี่เชิน เธอเคยเจอเพียงไม่กี่ครั้ง พอจำเขาได้บ้าง ไป๋เสว่เอ๋อรีบลุกขึ้น “ผู้ช่วยฉี….”
“เลขาไป๋ ประธานเผยให้ผมมาแจ้งคุณว่า อีกยี่สิบนาทีให้ไปร่วมงานปาร์ตี้ที่ห้องจัดเลี้ยงชั้นสิบแปด”
“โอเคค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อรีบตอบกลับ แม้ว่าในใจจะมีข้อสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร
เธอไม่เคยไปห้องจัดเลี้ยงที่ชั้นสิบแปด ได้ยินมาว่าห้องนั้นเป็นห้องแบบขึ้นบันไดที่สามารถจุคนได้หลายร้อยคน เป็นสถานที่ที่บริษัทใช้เฉพาะจัดงานเลี้ยงประจำปี ฉลองวันหยุดและงานรื่นเริงบางโอกาสเท่านั้น
ผ่านไปสิบนาที ไป๋เสว่เอ๋อลงไปทันที เมื่อเธอถึงประตูหน้าห้องโถง ก็มองเห็นคนกลุ่มหนึ่งแต่ไกล เธอค่อยๆเดินอย่างช้าๆ รอคนพวกนั้นเข้าไปก่อนจึงเดินตามเข้าไป
เธอมองจากประตูด้านหลัง มองเห็นคนในห้องประชุมแทบจะนั่งเต็มกันหมดแล้ว เธอมองหาเผยลี่ทั่วงาน มองไปหนึ่งรอบ ก็หาเขาไม่เจอ
ขณะที่เธอกำลังลังเลว่าจะเข้าหรือไม่เข้าไป ด้านหลังของเธอมีเสียงคนเรียกขึ้นมา “ทำไมถึงไม่เข้าไปล่ะ?”
ไป๋เสว่เอ๋อหันหลังมามองด้วยความมึนงง เมื่อเห็นเผยลี่เชินที่ยืนอยู่ด้านหลัง เธอรีบหันหลังกลับ เอ่ยปากถาม “นี่คืองานเลี้ยงฉลองอะไรหรอคะ?”
เผยลี่เชินยักคิ้ว พูดขึ้น “ฉลองความสำเร็จของโปรเจคหนานไห่”
ไป๋เสว่เอ๋อตะลึง ไม่รอให้เธอได้สติกลับมา เผยลี่เชินเดินไปตรงที่ประตู “เดินตามผมเข้าไปพร้อมกัน”