ตอนที่ 90 คุณเชื่อฟังอยู่ในโอวาทแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“หื้ม?” สวี่เยว่หรูตกใจชะงัก สายตาดูมีพิรุธ สีหน้ากระวนกระวายมองไปที่เผยลี่เชิน รีบส่ายหน้า “เปล่านี่ ฉันไม่รู้”
เดิมทีเผยลี่เชินแค่ลองถามดู แต่เมื่อเห็นท่าทีของสวี่เยว่หรู เขาขมวดคิ้วย่นเข้าหัน สายตาหยุดมองที่สวี่เยว่หรู
เขาพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ ถามขึ้นอีกครั้ง “คุณไม่รู้จริงเหรอ?”
สวี่เยว่หรูกระสับกระส่าย คิดว่าเผยลี่เชินไปรู้เรื่องอะไรมา รีบพูดขึ้นทันที “ฉันไม่รู้”
ปกติหล่อนจะพูดจาระมัดระวังอ่อนหวานกับเผยลี่เชินเสมอ แต่วันนี้กลับถูกเขามองด้วยท่าทีที่น่าสงสัย ทำให้ยิ่งน่ากลัวมากขึ้น
หล่อนตกใจจนทำตัวไม่ถูก พูดพึมพำ ถุงของขวัญที่อยู่ในมือตกลงไปบนพื้น ปฏิกิริยาท่าทางเช่นนี้ ดูผิดปกติอย่างมาก เผยลี่เชินมองออกแน่นอน จะพูดออกไปตรงๆคงไม่ง่าย เขาหรี่ตาลงจ้องไปที่สวี่เยว่หรู เห็นหล่อนท่าทีกระวนกระวายรีบก้มลงเก็บถุงของขวัญ แถมยังไม่กล้าสบตาเขา ตอนนั้นเอง เขาเข้าใจทุกอย่างขึ้นมาทันที
“สวี่เยว่หรู”
เขาเรียกชื่อของหล่อนขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา พลางเดินขึ้นไปข้างหน้า จ้องไปที่หล่อน “คุณกำลังโกหกผมอยู่”
เขาเรียนรู้เรื่องและคลกคลีเรื่องราวมากมายในแวดวงธุรกิจ เจอคนและเรื่องมามากมายหลายรูปแบบ สายตาของคนถูกขัดเกลาจนเฉียบแหลม ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร ไม่ต้องพูดก็สามารถรับรู้ได้ถึงแปดสิบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ และอาจจะมีหกสิบเปอร์เซ็นต์บ้าง
สวี่เยว่หรูกลัวจนตัวสั่น หล่อนยืดตัวขึ้นตรง แต่ไม่กล้าสบตาเผยลี่เชิน กลับเบี่ยงสายตามองไปที่รองเท้าหนังของเขา
เผยลี่เชินเห็นสวี่เยว่หรูไม่มีท่าทีจะยอมเอ่ยปากพูด เสียงสูงและดุขึ้น “บอกมา หล่อนไปไหน”
สวี่เยว่หรูสั่นไปทั้งตัว กำมือทั้งสองแน่น “ฉัน…ฉันให้หล่อนไปส่งเอกสารทำโบชัวร์ที่โรงพิมพ์ในเมืองหนานเฉิง”
เผยลี่เชินได้ยินเช่นนั้น หน้ามืดตามัวขึ้นมาทันที โรงพิมพ์อยู่นอกเมืองหนานเฉิง หล่อนไปและกลับคนเดียว คงเสียเวลาไม่น้อย
เขาไม่คิดลังเลอะไร รีบหยิบมือถือออกมาโทรหาไป๋เสว่เอ๋อ มีเสียงรอสายดังขึ้น ดังอยู่นานแต่กลับไม่มีคนรับ
เผยลี่เชินขมวดคิ้วจนแทบจะผูกโบว์กัน รู้สึกใจคอไม่ดี โทรหาต่ออีกสองครั้ง แต่ก็ไม่มีคนรับ
ถ้าไป๋เสว่เอ๋อไม่ได้ติดอะไร ทำไมถึงไม่รับโทรศัพท์ล่ะ? นี่มันไม่ปกติ
เผยลี่เชินทนไม่ไหว รีบเปิดประตูขึ้นรถไป แต่กลับนึกอะไรขึ้นได้ หยุดชะงักไป หันมามองสวี่เยว่หรู
“เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ คุณมาอธิบายให้ผมฟังวันหลัง”
เขาไม่ชอบเรื่องความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันของคนในบริษัทมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถึงแม้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับไป๋เสว่เอ๋อ แต่เป็นพนักงานคนอื่น เขาก็จะต้องให้สวี่เยว่หรูมาอธิบายให้ชัดเจนเช่นกัน
เมื่อเขาขึ้นรถ พูดกำชับเจิงหงให้ขับตรงไปที่นอกเมืองหนานเฉิงทันที และโทรหาลูกน้องของตน ให้เขาช่วยหาตำแหน่งที่ตั้งตามโทรศัพท์ของไป๋เสว่เอ๋อ
ขอเพียงแค่หล่อนเปิดโทรศัพท์ไว้ ก็จะสามารถตามหาหล่อนได้แน่นอน!
……
หลังจากนั้นยี่สิบนาที เท้าข้างขวาของไป๋เสว่เอ๋อเจ็บจนทนไม่ไหว อีกทั้งยังหารถไม่ได้ ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งกังวลใจ หล่อนเดินไปที่ด้านข้างของสวนดอกไม้ ไม่ได้สนใจว่าที่ตรงนั้นคืออะไร นั่งลงไปทันที
หล่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เมื่อเปิดขึ้น บนหน้าจอมีการแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับเป็นจำนวนมาก
เป็นเบอร์ของเผยลี่เชินโทรมา โทรหาหล่อนตั้งสองครั้ง อันที่จริงไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกซึ้งใจอยู่บ้าง แต่เมื่อนึกถึงคำพูดที่สวี่เยว่หรูรับสายเมื่อครู่ ความอบอุ่นใจที่หล่อนรู้สึกขึ้นมากลับดับสลายไปในทันที
หล่อนสูดลมหายใจเข้าลึก ลบการแจ้งเตือนที่โชว์บนมือถือ คิดอยู่ว่าจะเรียกรถอย่างไรดี
เมื่อก่อนตอนหล่อนอยู่ตระกูลไป๋มีรถคอยรับส่งเสมอ ไม่ว่าจะไปไหนก็มีคนขับรถส่วนตัว ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาหล่อนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย
แต่วันนี้ ที่ที่ห่างไกลจนแทบไม่เห็นเงาของผู้คน แม้ว่าหล่อนจะควักเงินให้เป็นจำนวนมาก แต่ถึงอย่างไรก็คงหารถไม่ได้สักคัน
อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็ว หล่อนใส่เสื้อยูนิฟอร์ม ด้านล่างเป็นกระโปรงคลุมแค่เข่า ขาที่โผล่ออกมาทั้งสองข้างเย็นจนชาไม่รับรู้ถึงความรู้สึก แถมยังมีบาดแผลที่เท้าด้านขวา หล่อนนั่งสั่นอยู่ตรงนั้น
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ จู่ๆก็มีรถยนต์สาดแสงส่องมาที่หล่อน ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกตัวขึ้นหรี่ตาหันไปมอง มองตรงไปที่แสง หล่อนเห็นรถคันหนึ่งค่อยๆขับมาใกล้หล่อน แต่แสงจ้าเกินไป หล่อนเห็นเพียงแค่ภาพเลือนลางของรถ อย่างอื่นมองไม่เห็นอะไรเลย
ทันใดนั้น รถก็จอดลง มีคนเปิดประตูลงมาจากรถ คนรูปร่างสูงใหญ่เดินตรงมาทางหล่อน ไป๋เสว่เอ๋อกลัวเล็กน้อย ใจของหล่อนสั่นไปหมด
เขาเดินออกมาจากแสงเจิดจ้า ทั้งตัวของเขาถูกปกคลุมไปด้วยแสงสลัว เงาและท่าทางที่คุ้นเคย ตอนนั้นเอง หล่อนเริ่มเห็นเขาแล้ว
เผยลี่เชิน เป็นเขาจริงๆ
มือทั้งสองของไป๋เสว่เอ๋อที่จับแผลบนเท้าไว้กำแน่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แต่ตัวเธอเองกลับเย็นชาไปหมดขยับตัวไม่ได้เลย แสบจมูกเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะหนาวเกินไป หรือเป็นเพราะการมาของเขา
ร่างสูงใหญ่หยุดอยู่ตรงหน้าหล่อน บังแสงสว่างจ้าไว้ได้พอดี เงามืดโน้มลงมาหาตัวของหล่อน
สีหน้าของฝ่ายชายนิ่งขรึม จ้องมาที่หล่อนอยู่สักพัก น้ำเสียงดุพูดขึ้น “คุณกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย!”
ไป๋เสว่เอ๋อกัดปากแน่น อารมณ์ผันผวน
เขาไม่ได้ทานข้าวเดินเที่ยวอยู่กับสวี่เยว่หรูงั้นเหรอ? เขาไม่ได้ตั้งใจลงโทษหล่อนเหรอ? งั้นเขามาหล่อนทำไมกัน?
ความสงสัยทั้งหมดวนเวียนอยู่ในหัวหล่อน แต่ก็ไม่ได้ถามออกมา หล่อนมองไปที่เผยลี่เชินด้วยความดื้อ ร่างกายจะขยับก็ขยับไม่ได้
สบตากันอยู่นาน เผยลี่เชินมองอารมณ์ความรู้สึกออก หล่อนรกำลังรู้สึกน้อยใจ แต่กลับมีความเข้มแข็งมากกว่า แววตาที่มีน้ำตาคลอเบ้าแต่ไม่รินไหลลงมา ทำให้เขารู้สึกปวดใจมากมาย
มองดูหล่อนอยู่สักพักใหญ่แต่ก็ไม่มีท่าทีจะไปไหน เขาผ่อนคลายขึ้น เอ่ยปากถาม “จะไปหรือไม่ไป?”
ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกตัวขึ้นมา เก็บอารมณ์ ค่อยๆลุกขึ้น แต่สีหน้าของหล่อนช่างเยือกเย็นเหลือเกิน
หล่อนค่อยๆเดินอย่างเชื่องช้าจนทำให้เผยลี่เชินรู้สึกผิดสังเกต เขามองไปที่เท้าที่มีผ้ามัดไว้ ตกใจชะงัก เขาเพิ่งจะเห็น “เท้าไปโดนอะไรมา?”
“ไม่เป็นอะไรค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา เดินต่อไปจุดที่รถจอด จากนั้น มือของหล่อนก็ถูกใครบางคนจับไว้
“อย่าขยับ” เผยลี่เชินสั่งด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม เขาก้มตัวลงไป ค่อยๆจับข้อเท้าของหล่อนไว้
ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกอบอุ่นที่ข้อเท้าขึ้นมาทันที ก้มลงมองเผยลี่เชินที่กำลังแก้มัดผ้าที่หล่อนพันแผลเอาไว้ ทันใดนั้น หัวของหล่อนก็โล่งไปหมด
เมื่อเห็นหล่อนได้รับบาดเจ็บ เผยลี่เชินรู้สึกไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด รีบพันผ้าใหม่ให้หล่อน จากนั้นลุกขึ้นมาโอบเอวและอุ้มขึ้น
ตกใจจนร้องตะโกนออกมา ไป๋เสว่เอ๋อตัวเบามาก สองมือของหล่อนกอดไปที่คอของฝ่ายชายโดยทันที
“คุณ…..”
หล่อนกระพริบตาไปมา รู้สึกสับสนมึนงง เผยลี่เชินหันหน้ามามองพอดี ทั้งสองสบตาเข้าหากัน
“ต้องรีบทำแผลให้เร็วที่สุด ขึ้นรถก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
เขาพูดพลาง รีบเดินตรงไปที่รถ ไป๋เสว่เอ๋อหน้าแดงก่ำ หล่อนจับปกคอเสื้อของเขาไว้แน่น เงียบอยู่พักใหญ่ พูดอะไรไม่ออก
ความดื้อรั้นก่อนหน้านี้ กลับหายไปในพริบตา มองดูใบหน้าของเขาจากทางด้านข้าง หล่อนไม่ได้รู้สึกโกรธอีกต่อไปแล้ว
เผยลี่เชินอุ้มหล่อนขึ้นรถ ด้วยท่าทางที่อ่อนโยนและใส่ใจ ใจของไป๋เสว่เอ๋อเต้นรัว เม้มปากไว้แน่น ขณะนั้นเอง หล่อนลืมความเจ็บปวดของบาดแผลไปในทันที
ตอนที่เผยลี่เชินกำชับบอกเจิงหงให้ขับไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หล่อนเพิ่งจะได้สติขึ้นมา
เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ราวกับความฝัน จู่ๆเขาก็ปรากฏตัวขึ้น จากนั้นก็พาหล่อนออกมา…..
“แผลนี่เกิดขึ้นได้ยังไง?”
เสียงนิ่งขรึมของฝ่ายชายดังขึ้น ปลุกไป๋เสว่เอ๋อจากการเหม่อลอย หล่อนสูดหายใจเข้าลึก พูดความจริงออกมา “ตอนอยู่ในโรงพิมพ์ไม่ทันได้ระวัง ก็เลยหกล้มลงไปค่ะ”
เผยลี่เชินได้ยินเช่นนั้น โกรธจนบีบหัวใจ เขาจ้องมองไปที่หล่อน อดไม่ได้ที่จะย้อนถามกลับ “สวี่เยว่หรูให้คุณไปคุณก็ไป คุณเชื่อฟังอย่างง่ายดายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”