ตอนที่ 107 ให้ฉันช่วยเธอไหม
สวี่เยว่หรูได้แต่พยักหน้า น้ำเสียงแสดงความแน่ใจ “จริงคะ ฉันเห็นมากับตา”
เผยลี่เชินให้ความสำคัญกับการทำงาน จึงมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการแต่งกายของพนักงานบริษัท ในเมื่อเธอพูดเช่นนี้ แน่นอนทำให้เผยลี่เชินรู้สึกอิดหนาระอาใจในตัวไป๋เสว่เอ๋อร์
เผยลี่เชินยังคงจ้องมองเธอยากที่จะแยกแยะอารมณ์ได้ นิ่งอยู่นานโดยไม่มีคำพูดใดๆ
สวี่เยว่หรูถูกเขาจ้องมองทั่วร่าง เธอรู้สึกผิดเล็กน้อยจึงพูดว่า “ประธานเผย ฉันนึกถึงว่าเมื่อก่อนที่คุณพูดไว้ เวลาทำงานก็ต้องตั้งใจทำงาน ฉันรู้สึกว่าเลขาไป๋แต่งกายไม่เหมาะสมถึงได้พูดออกมา”
“งั้นรึ?” เผยลี่เชินยิ้มที่มุมปาก สายตายังคงดูเหยียดหยาม “แต่ฉันไม่เคยพูดว่าต้องสนใจชีวิตส่วนตัวของคนอื่น ฉันออกกฎสำหรับคนที่มาทำงานที่นี่ จนทำให้เธอคิดว่าคนที่ทำงานในเผยซื่อไม่สามารถมีชีวิตส่วนตัวในเรื่องความรักได้ใช่ไหม?”
สวี่เยว่หรูตะลึง “ประธานเผย ฉันไม่ได้หมายความเช่นนั้น”
เผยลี่เชินมาองด้วยสายตาเย็นชา “งั้นคุณหมายความว่าอย่างไร?”
สวี่เยว่หรูตกใจกับคำพูดนี้ ใบหน้าแดงก่ำ นิ่งอยู่นานโดยไม่พูดอะไรออกมา
เผยลี่เชินถอนสายตา พูดอย่างเย็นชา “รอให้คุณได้อยู่บนที่สูง มีอำนาจควบคุมคนอื่นได้ทุกเรื่องทุกเวลาแล้วค่อยทำก็ยังไม่สาย แต่ตอนนี้สนใจแต่เรื่องของตัวเองก่อนดีกว่า ออกไปได้แล้ว”
สวี่เยว่หรูกัดริมฝีปากเหมือนโดนคนตบหน้า แก้มชาทั้งสองข้าง สองมือประสานกัน “คะ”
เธอรู้สึกโกรธแค้นหลังจากออกจากออฟฟิศของเผยลี่เชิน จ้องมองไปที่ประตูออฟฟิศของไป๋เสว่เอ๋อร์ด้วยสีหน้าเคียดแค้น
คาดไม่ถึงว่าเผยลี่เชินจะคอยปกป้องไป๋เสว่เอ๋อร์ขนาดนี้! ทำไมกัน? ในใจสวี่เยว่หรูร้อนรุ่ม รู้สึกเกลียดไป๋เสว่เอ๋อร์เข้ากระดูกดำ
สักวันเธอจะเหยียบผู้หญิงคนนี้ให้จมธรณี
ยุ่งมาทั้งวันใกล้เวลาเลิกงาน ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงนำเอกสารไปส่งที่ออฟฟิศของเผยลี่เชิน ก่อนจะออกมาเขาเรียกเธอไว้ “รอก่อน”
ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบหันกลับมาเอ่ยปากถาม “ประธานเผย มีอะไรจะสั่งหรือคะ?”
เผยลี่เชินวางเอกสารในมือ มองเธอด้วยสายตาเย็นชาผิดปกติ “มานี่”
ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินเข้ามาหยุดที่ตรงหน้าโต๊ะ เห็นเขาหยิบกระดาษแผ่นเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ แล้วส่งให้เธอ เธอยื่นมามารับกระดาษแผ่นนั้นแล้วคลี่ออก เห็นเขียนที่อยู่พร้อมวันที่
“เรือนจำไห่เฉิงหลิงอัน”
มองเห็นอักษรไม่กี่ตัว ใจเต้นแรงเล็กน้อย ตระหนักได้ทันที
“คุณจัดการให้แล้ว”
เผยลี่เชินพยักหน้ารับ “อืม อนุญาตให้เยี่ยมได้ แต่ต้องอยู่ในห้องแยกต่างหาก”
“อยากให้ฉันไปกับเธอด้วยไหม?”
ได้ยินเสียงมาจากชายหนุ่ม ไป๋เสว่เอ๋อร์หยุดพักไปสักนิดก่อนจะส่ายหน้า “ไม่ต้องคะ ฉันไปคนเดียวได้คะ”
เธอไม่อยากเพิ่มปัญหาให้กับเผยลี่เชินอีก พรุ่งนี้ยังต้องทำงาน เรื่องในบริษัทก็หนักหนาสาพอแล้ว ถ้าหากเขาไม่อยู่คงเกิดเรื่องวุ่นวายเป็นแน่
ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดลมหายใจเข้าลึก ระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านเงยหน้ามองเผยลี่เชิน “ขอบคุณคะ”
แม้ว่าเธอจะพยายามกลั้นน้ำตาไว้ แต่เผยลี่เชินก็ยังคงมองเห็นนัยน์ตาของเธอมีสีแดง เขาลุกขึ้นแล้วก็เดินไปหาเธอ “ไม่เป็นไร มีเรื่องอะไรให้ช่วยก็บอกละกัน”
เขาเอื้อมมือไปข้างหน้าปัดผมที่หน้าผากไปไว้อีกข้าง ปลอบโยนเธอเบาๆ แต่ดังไปถึงหัวใจเธอ “พรุ่งนี้ฉันให้เธอลาพัก ไปทำธุระของเธอให้เรียบร้อย”
“คะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้ารับ เธอรู้ว่าเวลานี้แค่คำขอบคุณอย่างเดียวคงไม่พอ เธอจึงอ้าแขนโอบกอดเขาเบาๆ
เผยลี่เชินไม่มีปฏิกิริยาใดๆ โดยปกติเขาจะเป็นฝ่ายรุกชอบแกล้งเธอก่อน แต่ครั้งนี้กลับเป็นเธอที่กอดเขาก่อน ทำให้เขาประหลาดใจแต่ก็ดีใจ
ผ่านไปสองสามนาที ไป๋เสว่เอ๋อร์ปล่อยเขา ถอยหลังออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม “งั้นฉันไปทำงานก่อนะคะ”
พูดจบเธอหันหลังเดินจากไป
ใจของเผยลี่เชินเต้นแรง ยื่นมือออกไปคว้าข้อมือของเธอไว้ ลากเธอเข้าสู่อ้อมกอดของเขาอีกครั้ง
ไป๋เสว่เอ๋อร์เกือบร้องอุทานออกมา กว่าเธอตอบสนองร่างของเธอก็อยู่ในอ้อมกอดเขาแล้ว เธอเงยหน้าพบกับสายตาที่เร่าร้อนลึกซึ้ง
“ประธานเผย…..”
คำพูดยังไม่ทันหลุดจากปาก เผยลี่เชินเอนกายก้มหัวลงเพื่อหยุดคำพูดที่กำลังออกมาจากปากเธอ
ร่างของไป๋เสว่เอ๋อร์สั่นเทาเล็กน้อย มือสองข้างกดที่หน้าอกของเขาเบาๆ แล้วค่อยๆ เลื่อนลงมาโอบที่เอวของเขา
หลังจากที่สัมผัสที่ใบหู เผยลี่เชินก็ค่อยๆ ปล่อยเธอพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก “ไป๋เสว่เอ๋อร์เวลาเธออยู่ในบริษัทห้ามยั่วยวนฉันเป็นดีที่สุด”
ยั่วยวนเขา? มีที่ไหน?
ไป๋เสว่เอ๋อร์พยายามจะอธิบายแต่ก็ถูกชายหนุ่มรู้ทันความคิด ยื่นมือไปปิดปากเธอไว้ “เมื่อกี้นี้เธอกำลังยั่วยวนฉัน”
เขายิ้มอย่างมีเลิศนัย ไม่รอให้ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดอะไรอีก จึงกระซิบที่ข้างหูเธอ “กลับถึงบ้านแล้วทำได้ เข้าใจไหม?”
เสียงกระซิบของเขาที่ข้างหูเธอ เหมือนลมร้อนที่พัดผ่านเข้ามาในหูส่งผลต่อเส้นประสาททั่วร่างกาย จนทำให้ใบหน้าของเธอมีสีแดงเหมือนลูกตำลึงสุก
เธอค่อยๆ ผลักเขาออก ไม่กล้าเงยหน้าสบตาเขาได้แต่ก้มหน้า “ฉันไปทำงานก่อนนะ”
พูดจบเธอก็หันหลังเดินออกไปจากออฟฟิศเผยลี่เชินโดยเร็ว
นับวันดูเหมือนเธอจะอ่อนข้อให้กับเผยลี่เชินมากขึ้น
กลับถึงออฟฟิศ ไป๋เสว่เอ๋อร์ค่อยๆ คลี่กระดาษที่อยู่ในมือ ดูที่อยู่ที่เขียนในกระดาษ จิตใจค่อยๆ สงบลงอย่างช้าๆ
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่เธอจะได้พบหน้าพ่อของเธอ
วันนี้ไป๋เสว่เอ๋อร์ตื่นแต่เช้าตรู่ ยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าไม่รู้ว่าจะใส่เสื้ออะไรดี
เกือบสองเดือนมาแล้วที่ตระกูลไป๋เกิดเรื่องร้ายแรง ไม่รู้ว่าตอนนี้พ่อของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง เธอไม่ยอมให้ตัวเองรู้สึกแย่หรือดูแย่ก่อนจะพบพ่อ
เผยลี่เชินเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ เห็นเธอหยุดยืนอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าอยู่นาน เขาเดินผ่านไปกวาดตามองเสื้อผ้า แล้วก็ไปหยุดที่ชุดกระโปรงยาวสีฟ้า
เขาจึงเสนอว่า “ใส่สีฟ้าเถอะ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์มองกระโปรงยาวสีฟ้าตามสายตาของเขา เธอแน่ใจว่าชุดนี้เหมาะสมที่สุด สีขาวดำก็ดูอึมครึม สีแดงก็ดูแสบตา แต่สีฟ้าดูดีที่สุดแล้ว แม้ว่าจะไม่โดดเด่นแต่ก็ไม่ใช่เรียบง่ายเกินไป
“คะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์หยิบชุดกระโรงออกจากตู้เสื้อผ้า ตอนเปลี่ยนเสื้อเธอสังเกตเห็นว่าเผยลี่เชินยืนอยู่ข้างหลังจ้องมองเธอ เธอลังเลอยู่สักครู่หยิบเสื้อแล้วหันไปหาเผยลี่เชิน
“มีอะไรรึ?”
“คุณช่วยออกไปก่อนได้ไหม?” ลำคอของไป๋เสว่เอ๋อร์เหมือนถูกบีบจึงพูดออกมา
เผยลี่เชินได้ยินจึงยิ้มออกมา ไม่พูดอะไรต่อ แล้วเดินออกไปที่ระเบียงด้านนอก
เห็นเขาเดินไปแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ค่อยโล่งอก เธอจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดกระโปรงสีฟ้า ก่อนเดินออกจากห้องต้องสวมเสื้อโค้ทอีกชั้น
ตอนที่ใส่ชุดกระโปรงก็นึกขึ้นได้ว่าต้องรูดซิปที่ด้านหลัง ซึ่งเล็กมาก เธอไม่สามารถเอื้อมมือไปรูดซิปได้
เธอลองดูหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่สำเร็จสักที ชายหนุ่มเห็นเข้าจึงถาม “ให้ฉันช่วยเธอไหม?”