สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 135

ตอนที่ 135

ตอนที่ 135 บททดสอบสำหรับเธอ

หัวใจของไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกแย่อย่างมาก ร่างกายของเธอแข็งทื่อไปชั่วครู่

เห็นได้ชัดว่าคุณพ่อเผยไม่อยากให้เธอกับเผยลี่เชินใกล้ชิดกันอย่างนั้นหรือ

ความรู้สึกเศร้าเสียใจที่อธิบายไม่ได้นั้นอัดแน่นเต็มเปี่ยมขึ้นมาในหัวใจของเธอ หัวใจของเธอรู้สึกเย็บเฉียบ ความรู้สึกหลากหลายพรั่งพรูและผสมปนเปกันไปหมด

เผยลี่เชินพูดเบาๆ ว่า “พ่อครับ เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ”

คุณพ่อเผยพูดอย่างเรียบเย็นว่า “ไม่เกี่ยวอย่างนั้นหรือ ฉันเคยเตือนแกไปตั้งนานแล้วไม่ใช่หรือไง อย่าให้ผู้หญิงคนเดียวมาทำให้ปัญญาของแกต้องปั่นป่วนได้ แล้วนี่อะไร แค่นี้ก็หวั่นไหวเสียแล้ว อยากเป็นแบบเผยอี้หรือไง”

เผยลี่เชินขมวดคิ้วแน่น เสียงของเขาจริงจังขึ้นเล็กน้อย “พ่อครับ ผมบอกพ่อแล้วไงว่าเรื่องชีวิตของผม ผมจัดการเองได้”

“จัดการเองได้งั้นเหรอ” สายตาของคุณพ่อเผยมองเผยลี่เชินอย่างเย็นชา พร้อมกับมองไปที่ป้าจองที่ยืนอยู่ข้างๆ และเอ่ยปากถามเธอว่า “ไป๋เสว่เอ๋อร์อยู่ที่นี่ใช่ไหม เรียกเธอลงมา”

“คือว่า…” สีหน้าของป้าจางรู้สึกกระอักกระอ่วน เธอมองคุณพ่อเผยสลับกับเผยลี่เชิน ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี

คุณพ่อเผยขมวดคิ้วแน่น “ทำไม ตอนนี้ไม่ว่าฉันพูดอะไรก็ไม่ฟังแล้วสินะ”

ป้าจองมองไปที่เผยลี่เชินอีกครั้ง ขณะที่เธอกำลังจะหมุนตัวขึ้นบันไดไปชั้นบนเพื่อเรียกไป๋เสว่เอ๋อร์ ก็พอดีกับที่หน้าบันไดมีเสียงของใครบางคนดังขึ้นมา “ไม่ต้องหรอกค่ะ”

เมื่อป้าจางหันศีรษะไปมองตามเสียงนั้น เธอก็มองเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังเดินมาทางเธอพอดี

ไป๋เสว่เอ๋อร์มองไปที่คุณพ่อเผยและเผยลี่เชินที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟา อยู่ๆ เธอก็รู้สึกเครียดขึ้นมา เธอรีบก้าวไปยืนข้างหน้า พร้อมกับทักทายคุณพ่อเผย “คุณลุงเผย สวัสดีค่ะ”

สีหน้าของคุณพ่อเผยเรียบเย็นราวกับน้ำแข็ง เขากวาดสายตามองไปที่เธอ พร้อมกับพูดอย่างเย็นชาว่า “ลี่เชินบาดเจ็บก็เพราะเขาปกป้องเธอใช่ไหม”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ก้มศีรษะลง พร้อมกับพยักหน้า “ใช่ค่ะ”

เมื่อความจริงเป็นเช่นนี้แล้ว เธอก็ไม่อาจที่จะปิดบังอะไรต่อไปได้อีก

“เธอน่าจะรู้นะ ว่าเธอทำงานเป็นเลขานุการให้กับเขา แต่กลับไม่ปกป้องดูแลเขา ซ้ำยังต้องให้เขามาปกป้องเธอจนบาดเจ็บแบบนี้ด้วย อย่างนี้มันสมควรหรือไม่”

ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมกับก้มตัวลงเพื่อที่จะขอโทษ “ขอโทษด้วยค่ะ”

“ขอโทษไปแล้วจะได้อะไรขึ้นมา! เผยลี่เชินไม่อยู่ที่บริษัท ตอนนี้ทั้งบริษัทเผยซื่อวุ่นวายไปหมดแล้ว แค่ผ่านไปไม่กี่วัน หุ้นของบริษัทก็ลดลงไปหลายจุดแล้ว!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังคงก้มศีรษะต่อไป และไม่อาจพูดอะไรออกมาได้

“นอกจากนี้!” คุณพ่อเผยพูดพร้อมกับมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า “ฉันรู้ดีว่าที่บ้านเธอสอนมาดี เธอมีความสามารถ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าฉันจะยอมรับเธอให้มาเป็นสะใภ้ของตระกูลเผยได้ ถ้าเกิดเธอมีเงื่อนไขอะไรอยากจะเสนอ วันนี้ก็พูดออกมาเสียให้หมด ขอแค่เธอยอมอยู่ในกฎระเบียบ และไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับลูกชายของฉันอีก ฉันจะยอมรับปากทั้งหมด แต่ถ้าวันนี้เธอไม่พูดออกมาล่ะก็ ในอนาคตอย่าคิดว่าจะได้อะไรจากตระกูลเผยอีก”

เมื่อเผยลี่เชินได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขาก็จริงจังขึ้นในทันที “พ่อครับ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของผม…”

“แก หุบปากซะ!” สีหน้าของคุณพ่อเผยเปลี่ยนไปในทันที เขาขมวดคิ้วพร้อมกับต่อว่าอย่างรุนแรง เผยลี่เชินจึงจำต้องเงียบลง

มือทั้งสองข้างของไป๋เสว่เอ๋อร์บีบแน่นและกุมเข้าไว้ด้วยกัน เธอรู้สึกสับสนไปหมด

วันนี้มันอะไรกันนะ ตอนแรกก็เหอหย่าหาน ตอนนี้ก็มาคุณพ่อเผยอีก ทุกคนต่างบังคับให้เธอเสนอเงื่อนไขมาทั้งนั้น

“พูดมาสิ ว่าเธอต้องการอะไร!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดลมหายใจลึก และพูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ฉันไม่ได้ต้องการอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่ยังคงต้องการทำงานกับท่านประธานเผยต่อไป รับเงินเดือนจำนวนปกติเท่าเดิม และทำงานให้ดีที่สุดก็พอแล้วค่ะ”

คุณพ่อเผยยิ้มอย่างเย็นชา “เธอคิดว่าพูดแบบนี้แล้ว ฉันจะเชื่อเธองั้นเหรอ”

“ฉันคิดแบบนี้มาตั้งแต่ต้นแล้วค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้าขึ้น สายตาของเธอมองไปที่เผยลี่เชิน เธอพูดอย่างจริงใจว่า “ท่านประธานเผยเคยช่วยฉันเอาไว้ เขามีเมตตากับฉันมาก ฉันรู้สึกซาบซึ้งมาโดยตลอด การที่ได้ทำงานร่วมกับเขา ทำให้ฉันได้เรียนรู้อะไรต่างๆ มากมาย และฉันไม่เคยรู้สึกเศร้าเสียใจในช่วงเวลาเหล่านั้นเลย การที่เขาต้องมาบาดเจ็บในครั้งนี้ อันที่จริงก็เป็นความผิดของฉัน ฉันพร้อมที่จะรับบทลงโทษ และพร้อมที่จะช่วยเหลือท่านประธานเผยในการนำตัวคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ออกมาเปิดเผยให้ได้ค่ะ”

เมื่อคุณพ่อเผยได้ยินดังนั้น สีหน้าของเขากลับผ่อนคลายลงเล็กน้อย เขาจ้องมองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อร์อย่างแน่นิ่ง ครู่ใหญ่ต่อมา เขาก็หันกลับไปมองที่เผยลี่เชิน พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นว่า “แกมากับฉัน”

เผยลี่เชินลุกขึ้น และเดินไปยังด้านนอกคฤหาสน์พร้อมกับคุณพ่อเผย

“พ่อครับ เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้…”

คุณพ่อเผยยกมือขึ้น เพื่อเป็นสัญญาณบอกให้เผยลี่เชินไม่ต้องพูดแล้ว

“พ่อรู้แล้ว เมื่อกี้พ่อลองทดสอบเธอดูก็เท่านั้น”

เผยลี่เชินมองชายสูงวัยด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ขณะที่เขายังไม่ได้พูดอะไรออกไปนั้น เขาก็ได้ยินคุณพ่อเผยพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่รีบร้อนว่า “พ่อก็เคยเป็นวัยรุ่นมาก่อน พ่อเคยเจอกับผู้หญิงทุกรูปแบบมาหมดแล้ว พ่อแค่อยากจะรู้ว่าเธอจะตอบกลับมาว่าอย่างไร ผู้หญิงบางคนน่ะ ถ้าเราคบไว้ข้างกายก็มีแต่จะพบกับหายนะ แต่ก็มีผู้หญิงบางคนที่จะคอยช่วยเหลือเราจากใจจริงอยู่เสมอ”

เมื่อคุณพ่อเผยพูดจบ เขาก็มองไปที่เผยลี่เชิน เผยลี่เชินจึงได้เข้าใจขึ้นมา

ครู่ต่อมา คุณพ่อเผยก็ถอนหายใจ “กลยุทธ์ที่ใช้กันในแวดวงธุรกิจ ฉันไม่ต้องพูดมาก แกก็รู้หมดแล้ว ถ้าเกิดมีคนลอบเล่นงานแกอยู่จริงแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าพวกมันจะต้องกลับมาเล่นงานแกอีกไม่หยุดแน่ เมื่อครู่พ่อทดสอบไป๋เสว่เอ๋อร์ ก็เพื่อดูว่าเธอจะสามารถอยู่ข้างกายของแกได้หรือไม่ เมื่อดูจากที่เธอตอบกลับมาแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้โกหก”

เผยลี่เชินก้มลงเล็กน้อย พร้อมกับพูดอย่างแผ่วเบาว่า “พ่อคิดมากเกินไปแล้ว คนแบบไหนที่ผมจะให้อยู่ข้างกายผม หัวใจของผมมีตราชั่งคอยวัดบอกผมอยู่แล้ว”

คุณพ่อเผยพยักหน้าเห็นด้วย “แกต้องระวังสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้ดีล่ะ ลองตัดสินใจดูเอาเองแล้วกัน ฉันไม่สามารถเข้ามายุ่มย่ามได้ทุกเรื่องหรอก”

“ครับ” เผยลี่เชินตอบรับ

“เอาล่ะ แกกลับเข้าไปเถอะ พ่อแค่มาดูแกก็เท่านั้น ไม่มีเรื่องอะไร แกไม่ต้องไปส่งพ่อหรอก”

ขณะที่คุณพ่อเผยพูดอยู่ เขาก็ก้าวลงบันไดไปอย่างช้าๆ คนขับรถของคุณพ่อเผยก้าวออกมา พร้อมกับเปิดประตูและเชิญให้ชายสูงวัยก้าวขึ้นรถยนต์

ขณะที่เผยลี่เชินมองดูรถยนต์ค่อยๆ แล่นหายลับตาไปจากประตูใหญ่ของคฤหาสน์ เขาก็หมุนตัวและกลับเข้าไปยังห้องรับแขก

ไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังนั่งอยู่บนโซฟาคนเดียวในสภาพที่เหม่อมองเคว้งคว้าง ราวกับว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ

เผยลี่เชินก้าวเข้าไปหาเธอ พร้อมกับพูดอย่างแผ่วเบาว่า “คิดอะไรอยู่เหรอ”

เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินดังนั้น เธอก็กลับมาได้สติอีกครั้ง และรีบลุกขึ้นยืน “ไม่มีอะไรค่ะ”

ขณะที่เธอกำลังพูดอยู่นั้น สายตาของเธอก็มองไปที่ด้านหลังของชายหนุ่ม พร้อมกับเอ่ยปากถามเขาว่า “คุณลุงไปไหนแล้วล่ะคะ”

เผยลี่เชินพยักหน้าเล็กน้อย และหันไปสั่งให้คนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ เตรียมอาหารค่ำ เขาก้าวเข้าไปยืนอยู่ข้างๆ ไป๋เสว่เอ๋อร์ เมื่อเขาว่าสีหน้าของเธอยังคงซีดเซียวอยู่ เขาก็ครึ่งยิ้มครึ่งสุขุมและพูดว่า “คุณกำลังกลัวอะไรอยู่น่ะ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตกตะลึง และสบตาเข้ากับสายตาของชายหนุ่มอย่างพอดี

เธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวของเธอนั้นกลัวสิ่งใด เมื่อได้ยินคุณพ่อเผยเปิดอกพูดกับเธออย่างตรงไปตรงมาแบบนั้น ครู่หนึ่ง เธอก็รู้สึกว่าระยะห่างระหว่างเธอกับเผยลี่เชินนั้นยิ่งห่างไกลกันมากขึ้นเสียเหลือเกิน

ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดตอบแบบขอไปที “เปล่าค่ะ”

เมื่อเธอพูดจบ เธอก็กำลังจะเดินจากไป ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกว่าข้อมือของเธอแน่น และถูกใครบางคนคว้าเอาไว้เสียแล้ว เธอหันกลับมา และมองไปที่เผยลี่เชิน “มีอะไรคะ”

น้ำเสียงของเผยลี่เชินนั้นเรียบเย็นเล็กน้อย “คุณมีเรื่องปิดบังผม”

ไป๋เสว่เอ๋อร์สูดลมหายใจลึก และพูดอย่างแผ่วเบาว่า “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันก็แค่ฉันไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว รู้สึกกังวลเรื่องคุณแม่ขึ้นมาเล็กน้อย”

ขณะที่เธอกำลังพูดอยู่ เธอก็พยายามแกะมือของเธอออกจากมือของเผยลี่เชินในทันที พร้อมกับรีบเดินจากไป

เธอจะบอกสิ่งที่อยู่ภายในใจของเธอให้เผยลี่เชินรับรู้โดยไม่กังวลเลยแม้แต่น้อยได้อย่างไร ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเผยลี่เชินก็ช่างน่าอับอายนัก เธอคิดที่จะใกล้ชิดกับเขามากขึ้นสักนิด แต่นั่นก็เป็นเพียงความเพ้อเจ้อที่ช่างไร้สาระเสียจริง

สิ่งที่คุณพ่อเผยพูดมานั้นถูกต้องทีเดียว เขาไม่อาจยอมรับเธอได้ ดังนั้น มันจะดีกว่าถ้าคำพูดบางอย่างยังคงเก็บซ่อนเอาไว้อยู่ภายในใจ

เมื่อเผยลี่เชินเห็นว่าเธอรีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว เขาก็ขมวดคิ้วแน่น

เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์กลับไปถึงห้องนอน เธอก็คิดได้ว่าไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เธอไม่ได้กลับบ้านไปหาคุณแม่เลย จังหวะนั้นเอง เธอก็รู้สึกผิดขึ้นมา เธอหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา และโทรไปหาคุณแม่ของเธอ

โทรศัพท์ดังอยู่สักพัก ถึงจะมีคนมารับสาย

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังไม่ทันได้พูดอะไร เธอก็ได้ยินเสียงจอแจดังมาจากอีกฝั่งของปลายสาย สีหน้าของเธอจริงจังขึ้น พร้อมกับเอ่ยปากถามไปว่า “แม่ นี่แม่อยู่ไหนคะ”

“ฮัลโหล ไป๋เสว่เอ๋อร์มีอะไรเหรอ ลูก”

ไป๋เสว่เอ๋อร์มองดูนาฬิกาที่ติดอยู่บนกำแพง “แม่คะ แม่ไม่อยู่บ้านเหรอ”

ดูเหมือนคุณแม่ไป๋จะรู้สึกสับสนเล็กน้อย เธอจึงรีบอธิบายในทันที “แม่มีธุระนิดหน่อย เลยออกมาข้างนอก เดี๋ยวก็กลับบ้านแล้วล่ะ”

ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เธอสูดหายใจลึก “ถ้าอย่างนั้น แม่ก็รับกลับบ้านแล้วกัน เดี๋ยวหนูจะหาวันกลับบ้านไปหาแม่นะคะ”

“ได้จ้ะ แม่ยังมีธุระที่ต้องทำ แม่วางก่อนนะ” คุณแม่ไป๋พูด พร้อมกับวางสายไปในทันที

ไป๋เสว่เอ๋อร์กำโทรศัพท์มือถือเอาไว้ในมือ ในใจรู้สึกกังวลขึ้นมา เวลาแบบนี้ ทำไมแม่ยังอยู่ข้างนอกได้ล่ะ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท