ตอนที่ 130 มีคนวางแผนใช้กลอุบาย
หลังจากเดินไปสักพักหนึ่ง ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกว่าเส้นทางการเดินขึ้นเขายิ่งเดินยากขึ้นเรื่อยๆ อุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้เสียพลังงานยิ่งมาก หล่อนก้าวเดินช้าลงโดยไม่รู้ตัว
เมื่อถึงตอนพักครึ่งทาง เผยลี่เชินเห็นใบหน้าของไป๋เสว่เอ๋อดูซีดเซียว เขาจึงยื่นมือไปที่หน้าหล่อน “เอากระเป๋ามาให้ผม”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันยังไหว”
ก่อนหน้านี้หล่อนใส่น้ำเข้าไปในกระเป๋าเผยลี่เชินหลายขวดแล้ว ตอนนี้เขาแบกของหนักพอสมควร ถ้าจะแบกกระเป๋าให้หล่อนอีก เกรงว่าเขาจะแบกสัมภาระหนักมากเกินไป
หล่อนหยิบกิ่งไม่ขึ้นมา ทำเป็นไม้เท้า จากนั้นก็เริ่มเดินต่อ
ยิ่งเดินขึ้นไป ยิ่งยากลำบากมากขึ้น เส้นทางบนภูเขาลาดชันขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาต้องเดินลัดเลาะเป็นแนวนอนตามทางบนเขา เพราะเริ่มเดินห่างจากทางเริ่มต้นมามากพอสมควรแล้ว
ไป๋เสว่เอ๋อหายใจหอบ มองไปรอบๆ นอกจากต้นไม้ใบหญ้าแล้ว หล่อนมองไม่เห็นใครอีกเลย ตอนแรกมีคนอื่นเดินตามมาในทางเดียวกันด้วย แต่ตอนนี้กลับไม่เจอใครอีกเลย
หล่อนเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “เผยลี่เชิน พวกเราคงไม่ได้หลงทางใช่ไหม?”
เมื่อเผยลี่เชินได้ยินหล่อนพูดเช่นนั้น เขาเงยหน้าขึ้นนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง มองไปรอบๆ พูดขึ้น “น่าจะไม่นะ พวกเราเดินตามสัญลักษณ์มาโดยตลอด”
เส้นทางบนภูเขา เมื่อเจอทางแยกจะมีสัญลักษณ์เป็นธงสีแดงปักอยู่ พวกเขาก็เดินตามสัญลักษณ์ธงแดงมาเรื่อยๆ พูดตามหลักแล้วคงไม่เดินผิดทาง แต่เส้นทางนี้กลับเปลี่ยวมากไปพิเศษ
ไป๋เสว่เอ๋อดื่มน้ำอึกหนึ่ง พูดชวน “งั้นพวกเราลองเดินต่อดูไหมคะ?”
เผยลี่เชินพยักหน้า สีหน้าดูจริงจัง “โอเค เดินตามผมมา”
ทั้งสองเดินประกบหน้าหลังกัน เดินตามทางเล็กๆของร่องเขาต่อ ทางที่เดินขึ้นไปเป็นทางลาดชันที่ต้องเดินอย่างยากลำบาก หลังจากเดินไปได้สักพัก ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกหมดแรง หล่อนยืนค้ำต้นไม้ด้านข้างไว้ หายใจหอบ
เมื่อเผยลี่เชินหันหลังกลับมา เห็นหล่อนใบหน้าซีดเซียว ขมวดคิ้วทันที รู้สึกเป็นกังวล เขาหยิบน้ำในกระเป๋ายื่นให้หล่อน
“ดื่มน้ำสักหน่อย พวกเราทานขนม พักผ่อนสักพัก แล้วค่อยเดินต่อ”
ไป๋เสว่เอ๋อยื่นมือรับน้ำไว้พร้อมพยักหน้า
พูดตามความจริงแล้ว การจัดกิจกรรมแบบนี้ ไม่ใช่กิจกรรมการปีนเขามืออาชีพ ไม่จำเป็นต้องจัดเส้นทางให้ยากลำบากขนาดนี้
แต่ทว่าทำไมเส้นทางที่พวกเขาเดินกันอยู่ถึงยากขนาดนี้กัน?
เผยลี่เชินรู้สึกสงสัย หยิบบิสกิตและนมในกระเป๋าออกมา ยื่นให้ไป๋เสว่เอ๋อ “คุณทานก่อน ผมไม่รีบ”
ถ้าเขารู้ว่ากิจกรรมนี้จะมีความยากขนาดนี้ เขาคงไม่พาหล่อนมาแน่นอน ตอนแรกคิดว่าแค่เป็นการเล่นสนุก แต่คาดไม่ถึงเลยว่า ผู้จัดกิจกรรมจะจริงจังขนาดนี้
หลังจากที่ทานขนมเรียบร้อยแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกดีขึ้นมาก หล่อนหยิบมือถือออกมา ก็เห็นว่าสัญญาณโทรศัพท์บนหน้าจอโชว์ขึ้นแค่ขีดเดียว อินเตอร์เน็ตก็เชื่อมไม่ได้ นับจากเวลาเริ่มการแข่งขัน ตอนนี้ก็ผ่านมาแล้วสองชั่วโมง
ไป๋เสว่เอ๋อมองดูด้านหลัง จากมุมที่หล่อนยืนอยู่นั้น เมื่อหล่อนมองไปก็ไม่เห็นใครสักคนเลย
หยุดอยู่สักครู่ หล่อนมองไปที่เผยลี่เชิน “พวกเราไปกันเถอะ ฉันว่าเราพักกันพอแล้วนะ”
เผยลี่เชินพยักหน้า “โอเค”
พวกเขาเดินไปข้างหน้าต่อ แต่ยิ่งเดินก็ยิ่งเอียง ร่องรอยบนทางเดินเล็กๆยิ่งเดินไปยิ่งเลือนรางขึ้นเรื่อยๆ พุ่มไม้ระหว่างทางสูงประมาณหนึ่งเมตร เมื่อเดินผ่านเข้าไป ก็มีเสียงโผ่งผ่างโผ่งพางอยู่ตลอด
อากาศยิ่งอยู่ยิ่งน้อย เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ฟ้าเริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รู้สึกกลัวไม่น้อย ไม่นานนัก “โครม”
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้น ไป๋เสว่เอ๋อสั่นไปทั้งตัว
เผยลี่เชินรีบหันหน้ามา น้ำเสียงรีบร้อนเป็นกังวล “ฝนจะตกแล้ว”
เขาพูดพลาง ยื่นมือออกมาดึงไป๋เสว่เอ๋อมาอยู่ข้างๆเขา
ฝนในหุบเขาจะตกก็ตก ถ้าพวกเขาอยู่ใต้ต้นไม้ จะเป็นที่ที่อันตรายที่สุด เวลาแบบนี้ต้องหาที่หลบฝนก่อน แล้วค่อยวางแผนต่อ
ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกกระวนกระวายใจ ก้าวเดินด้วยความกลัวจนสั่นไปหมด เท้าของหล่อนลื่นจนล้มลงไปบนพื้นดิน เผยลี่เชินดึงหล่อนขึ้นมาอย่างเต็มแรง เมื่อเขาหันหลังกลับมา ก็เห็นไป๋เสว่เอ๋อล้มอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าที่เจ็บปวดมาก
“ไป๋เสว่เอ๋อ!” เผยลี่เชินก้าวขึ้นมาข้างหน้า เมื่อเห็นกางเกงบนขาของหล่อนถูกเกี่ยวจนขาด ทั้งยังมีโคลนเปรอะเปื้อนผสมกันเลือด สีหน้าของเขานิ่งทันที รีบประคองหล่อนขึ้นมา
ฝนเริ่มตกลงมาปอยๆ เผยลี่เชินโอบเอวกอดหล่อนไว้ รีบเดินไปด้านข้าง
ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกว่าขาของตนค่อยๆเจ็บปวดขึ้น ฝนตกลงมาบนตัวหล่อน ทำให้ผมและหน้าของหล่อนเปียกไปหมดในเวลาอันรวดเร็ว
เผยลี่เชินอุ้มหล่อนขึ้นท่ามกลางสายฝน เพราะน้ำฝนที่ตกลงมา พื้นดินก็กลายเป็นเลนโคลน ทำให้เดินยากขึ้นกว่าเดิม เขามองเห็นถ้ำเล็กๆด้านข้างของภูเขา ตาเป็นประกายขึ้นมาทันที รีบวิ่งเข้าไป
ภูเขาคดตัวหุบลงไป ภายในเป็นก้อนหินและผาหิน ซึ่งเป็นที่หลบฝนให้พวกเขาได้พอดี
เผยลี่เชินค่อยๆวางไปเสว่เอ๋อลง จากนั้นก็รีบวางกระเป๋า ถามขึ้น “คุณเป็นยังบ้าง?”
ไป๋เสว่เอ๋อฝืนทนเจ็บ สูดลมหายใจเข้าลึก “ฉันโอเค…”
มองดูใบหน้าอันซีดเซียว เผยลี่เชินรู้สึกปวดใจขึ้นมา รีบค้นของในกระเป๋าเป้ทั้งด้านในและด้านนอก เขาหาเจอเพียงแค่ผ้าพันแผลกับน้ำเกลือหนึ่งขวด
เขาไม่ลังเลสักนิด รีบฉีกขากางเกงของไป๋เสว่เอ๋อออก ใช้น้ำเกลือทำแผลให้หล่อน จากนั้นใช้ผ้าก๊อตพันแผลให้
เมื่อครู่ที่ไป๋เสว่เอ๋อลื่นล้มลงไป คงไปเกี่ยวกับหินที่มีความแหลมคม จึงทำให้กางเกงของหล่อนฉีกขาดได้ขนาดนี้
“คุณอดทนอีกหน่อยนะ ผมจะติดต่อหัวหน้าทีมให้”
หลังจากที่เขาทำแผลให้เสร็จ จึงจะถอนหายใจสบายใจขึ้นมาได้หน่อย จากนั้นรีบหาวิทยุสื่อสารในกระเป๋า เพื่อติกต่อกับหัวหน้าทีม
เขากดปุ่มที่วิทยุสื่อสาร แต่ไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบรับ ลองอยู่หลายครั้ง แต่ไฟบอกสัญญาณก็ไม่สว่างขึ้นเลย
เขาเงยหน้ามองไป๋เสว่เอ๋อ “วิทยุสื่อสารของคุณล่ะ? เอามานี่”
ไป๋เสว่เอ๋อรีบหยิบวิทยุสื่อสารในกระเป๋าออกมายื่นให้เขา เผยลี่เชินลองกดปุ่มดู แต่ก็ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบรับ
“เกิดอะไรขึ้นหรอคะ? ใช้ไม่ได้หรอ?” ไป๋เสว่เอ๋อขมวดคิ้วถามขึ้น
เผยลี่เชินหยิบวิทยุสื่อสารทั้งสองเครื่องพลิกไปมาตรวจสอบดู จากนั้นก็ลองทดสอบทีละเครื่องอยู่หลายครั้ง แต่กลับใช้งานไม่ได้เลย
พูดตามหลักแล้ว ผู้จัดกิจกรรมจะต้องทำการตรวจสอบสิ่งของภายในกระเป๋าก่อนกิจกรรมจะเริ่มขึ้น โดยเฉพาะของสำคัญอย่างวิทยุสื่อสาร แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ของที่พวกเขาหยิบมาจะเสียเหมือนกันทั้งคู่…..
เริ่มรู้สึกมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี แวตาของเผยลี่เชินนิ่งขรึม กำวิทยุสื่อสารไว้ในมือแน่น “สิ่งของของพวกเราถูกบางคนกลั่นแกล้ง”
คิดไปคิดมาแล้ว มีเพียงเรื่องนี้ที่น่าจะเป็นไปได้
“ว่างไงนะคะ?” ดวงตาของไป๋เสว่เอ๋อเบิกกว้าง สีหน้าประหลาดใจ “เป็นไปได้ยังไง? พวกเราก็หยิบกันที่ด้านหลังของภูเขาเหมือนกันไม่ใช่เหรอ?” เผยลี่เชินพยักหน้า “น่าจะเป็นตอนที่พวกเราไปรับกระเป๋า ก็มีคนทำบางสิ่งบางอย่างกับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว”
ไป๋เสว่เอ๋อได้ยินเช่นนั้น รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา วิทยุสื่อสารของพวกเขาเสียทั้งคู่ อีกทั้งคนที่เดินตามเธอกันมาก็หายกันไปหมด หรืออาจจะมีปัญหาอย่างอื่นแอบแฝงอยู่ด้วย?
ทันใดนั้น หล่อนคิดบางอย่างขึ้นมาได้ หันหลังไปหาเผยลี่เชิน “เมื่อครู่หัวหน้าทีมของพวกเราบอกว่า เมื่อถึงครึ่งทางจะมีจุดแจกน้ำขนม แต่ทางที่พวกเราเดินมา เหมือนจะไม่มีจุดเติมเสบียงให้”
ทั้งสองสบตามองกัน เริ่มมีความสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ
ไป๋เสว่เอ๋อกัดปากแน่น “หรือว่า พวกเราเดินผิดทางจริงๆ?”
เพราะเดินมาผิดทาง ดังนั้นตลอดทางที่พวกเขาเดินมาจึงไม่เห็นคนอื่นเลย และไม่มีจุดเติมเสบียง แต่พวกเขาก็เดินตามสัญลักษณ์ธงแดงมาตลอด จะผิดพลาดแบบนี้ได้ยังไงกัน?
เผยลี่เชินคิดอยู่สักพัก จู่ๆก็พูดขึ้น “น่าจะมีคนมาแอบเคลื่อนย้ายป้ายสัญลักษณ์ เจตนาทำให้พวกเราเดินผิดทาง”