ตอนที่ 140 ผมทำให้คุณต้องเจ็บหรือเปล่า
“ตึก” ผ้าเช็ดตัวผืนนั้นได้หล่นไปกองอยู่ที่พื้น ใบหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์เต็มไปด้วยความตกใจ “เป็นอะไรไปคะ”
เมื่อเห็นว่าคิ้วของหญิงสาวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เผยลี่เชินถึงได้สติกลับคืนมา ดูเหมือนว่าเขาจะใช้แรงมากเกินไปแล้ว
เขาปล่อยข้อมือของหญิงสาว เมื่อเห็นว่าแขนของหญิงสาวมีรอยแดงปรากฏขึ้น คิ้วของเขาก็คลายออก คอของเขากลับรู้สึกแน่นขนัด และพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลงมากโดยไม่รู้ตัว “ผมทำให้คุณเจ็บหรือเปล่า”
ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกสับสน เธอชักมือของเธอกลับมา พร้อมกับสูดหายใจลึก “ไม่เป็นไรค่ะ…”
ขณะที่พูดอยู่นั้น เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาของชายหนุ่มที่เพิ่งเกิดขึ้นไปเมื่อครู่ เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามเข้าว่า “เมื่อกี้เป็นอะไรไปคะ ฉันมือหนักไปหรือเปล่า”
เผยลี่เชินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเขานึกถึงความรู้สึกเมื่อครู่นี้ ภายในหัวใจของเขาก็รู้สึกซาบซ่านขึ้นมาอีกครั้ง “เปล่าหรอก คุณใช้แรงน้อยไปต่างหาก”
ขณะที่เผยลี่เชินกำลังพูดนั้น เขาก็จับมือของเธออย่างเบามือ พร้อมกับมองไปที่รอยแดงที่ยังคงไม่หายไป นั่นทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วขึ้นมา เขาไม่รอให้ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดสิ่งใด และเอื้อมมือไปคว้าเธอเข้ามากอดเอาไว้ในอ้อมแขน
เมื่อถูกชายหนุ่มกอดอย่างฉับพลัน ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ตกใจไปชั่วครู่ เธอค่อยๆ ยกมือขึ้นและสวมกอดเขาเช่นกัน
ระหว่างที่เธอกำลังเงยหน้าขึ้น และอยากที่จะพูดอะไรบางอย่าง เธอกลับถูกใครบางคนจูบอย่างแนบแน่น ไป๋เสว่เอ๋อร์ทำตัวไม่ถูก ร่างกายของเธอราวกับว่าถูกตรึงเอาไว้จนไม่สามารถขยับไปไหนได้ แต่ทว่าทุกบริเวณที่สัมผัสเข้ากับผิวหนังอันเปลือยเปล่าของชายหนุ่มกลับทำให้เธอรู้สึกชาไปหมด
“เผยลี่เชิน…”
หญิงสาวเรียกชื่อของชายหนุ่มด้วยเสียงที่แผวเบา แต่นั่นกลับทำให้ภายในใจของเผยลี่เชินยิ่งยากที่จะควบคุม
“วันนี้… คงไม่ได้นะคะ…”
เมื่อเผยลี่เชินได้ยินดังนั้น เขาก็มีทีท่าชะงักเล็กน้อย เขาเงยหน้ามองเธอ สายตาของเขาเห็นได้ชัดว่าเต็มไปด้วยความปรารถนา แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น เขาก็ยังอดทนและถามเธอออกไปว่า “เป็นอะไรไปเหรอ”
“รอบเดือนของฉันใกล้จะมาแล้ว…”
เมื่อเผยลี่เชินได้ยินดังนั้น คิ้วของเขาก็ขมวดเล็กน้อย เขาหยุดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะ และจูบเบาๆ ที่หน้าผากของเธอแทน “ครับ ผมเข้าใจคุณ“
ไป๋เสว่เอ๋อร์นึกไม่ถึงว่าเขาจะสามารถตอบเธอได้อย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะรับรู้ความรู้สึกของเขาได้อย่างชัดเจน…
ไป๋เสว่เอ๋อร์ลองเชิงเขาอย่างระมัดระวัง “คุณไม่เป็นไรจริงๆ ใช่ไหมคะ”
เผยลี่เชินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ทำไมถึงจะเป็นล่ะ คุณคิดว่าผมควบคุมตัวเองไม่ได้งั้นเหรอ”
“……” ไป๋เสว่เอ๋อร์นิ่งเงียบ พูดอะไรไม่ออกในทันที ขณะที่เธอยังคงนิ่งอยู่นั้น เธอก็ถูกชายหนุ่มพาออกไปยังด้านนอกอย่างเบามือ “ฉันยังถูหลังให้คุณไม่เสร็จเลย…”
เผยลี่เชินพูดอย่างไม่ลังเลว่า “วันนี้ผมจัดการเอง ช่วงนี้คุณก็ไม่ต้องเข้ามาในห้องน้ำแล้วกัน”
เมื่อไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินดังนั้น หัวใจของเธอก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา เธอนึกไม่ถึงว่าเผยลี่เชินจะใส่ใจคนอื่นได้มากถึงขนาดนี้ แถมยังคิดถึงความรู้สึกของเธอด้วย
เธอเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ และเปลี่ยนชุดที่เปียกปอนเพราะความไม่ระวังเมื่อครู่ เมื่อเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนเตียงนอนก็สั่นขึ้นหลายต่อหลายครั้ง
ไป๋เสว่เอ๋อร์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู มันเป็นข้อความที่ส่งมาจากเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมปลายของเธอ “นี่เป็นเบอร์ติดต่อเฉียวเจิ้น ว่าแต่ทำไมจู่ๆ เธอถึงอยากตามหาเขากันล่ะ”
ขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังอ่านข้อความอยู่นั้น เธอก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และตอบข้อความกลับไปว่า “ไม่มีอะไรหรอก มีเรื่องบางอย่างที่ฉันอยากถามเขาก็เท่านั้น ขอบคุณมากนะ”
เมื่อตอบข้อความเสร็จแล้ว เธอก็จ้องไปที่เบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธออย่างเหม่อลอย ครั้งนี้ ต้องลองถามเพื่อนสมัยมัธยมปลายตั้งหลายคนถึงจะได้เบอร์ติดต่อของเฉียวเจิ้นมา ไม่รู้ว่ามันจะมีประโยชน์ไหม…
เช้าวันต่อมา ไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าร่วมการประชุมว่าด้วยเทคโนโลยีรุ่นใหม่ล่าสุดร่วมกับเผยลี่เชิน เมื่อใกล้เวลาเที่ยง การประชุมก็เสร็จสิ้นลง และไม่อาจหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกันระหว่างบรรดาผู้เข้าร่วมการประชุมได้
ผู้ที่จัดงานนี้ขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีแห่งหนึ่งที่มีการเติบโตที่ดีทีเดียวในรอบไม่กี่ปีมานี้ของเขตไห่เฉิง และยังเคยร่วมงานกับบริษัทเผยซื่อมาก่อนด้วย บริษัทเผยซื่อเองมีโรงงานที่ชำนาญในการผลิตชิ้นส่วนของเทคโนโลยีระดับสูงอยู่แล้ว จึงจำเป็นที่จะต้องร่วมมือกันกับบริษัทนั้นในลักษณะนี้
ประธานหวางคุนในวัย 30 กว่าปี ได้เชิญเผยลี่เชินและฟางหรงเทียน รวมถึงบรรดาผู้จัดการต่างๆ ที่เคยร่วมงานกันเข้าไปที่ห้องรับรองเพื่อทานอาหารร่วมกัน
“ครั้งนี้ เราได้มีโอกาสร่วมโต๊ะกับประธานเผยและรองประธานฟางแห่งเผยซื่อพร้อมกันด้วย ผมนายหวางคนนี้รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก แก้วแรกนี้ ผมขอดื่มให้ประธานเผยและรองประธานฟางครับ”
ขณะที่หวางคุณพูดอยู่นั้น เขาก็รินเหล้าเต็มแก้ว หลังจากที่เขาลุกขึ้นและพูดแสดงความชื่นชมต่อเผยลี่เชินแล้ว เขาก็ดื่มเหล้ารวดเดียวจนหมดแก้ว
จากนั้น บริกรก็เดินมารินเหล้าให้กับเผยลี่เชินและฟางหรงเทียน เจตนานั้นมองออกอย่างเห็นได้ชัด เผยลี่เชินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขามองไปที่หวางคุน “ประธานหวาง ขอโทษด้วยครับ ผมเกรงว่าผมคงไม่อาจดื่มเหล้าในแก้วนี้ได้ เมื่อสัปดาห์ก่อนที่ผมไปเข้าร่วมกิจกรรมขององค์กรการกุศล ผมได้รับบาดเจ็บขณะกำลังปืนเขา บาดแผลยังไม่หายดีทั้งหมดเลยครับ”
เมื่อหวางคุนได้ยินดังนั้น เขาก็ลังเลไปครู่หนึ่ง ในที่สุด สายตาของเขาก็มองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ เผยลี่เชิน และหยุดอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่ง เขายิ้มและพูดว่า “ประธานเผย ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว คงต้องให้เลขาของคุณดื่มแทนคุณเพื่อเห็นแก่ผมแล้วล่ะครับ”
เมื่อหวางคุนพูดจบได้ไม่นาน ใบหน้าของเผยลี่เชินก็เย็นชาขึ้นมาในทันที เขาเงยหน้ามอง และจ้องตรงไปที่หวางคุน หลังจากนั้นสักพัก เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นว่า “ประธานหวาง ดูเหมือนว่าวันนี้จำเป็นที่จะต้องมีใครสักคนดื่มเหล้าแก้วนี้ใช่ไหมครับ”
หวางคุณไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเผยลี่เชิน เขายิ้มและมองไปยังผู้คนที่กำลังนั่งร่วมโต๊ะด้วย “ยากที่จะได้เห็นทุกคนมารวมตัวกันเช่นนี้! ดื่มสักแก้วคงไม่เป็นอะไรหรอกน่า”
หวางคุนยิ้ม และยังคงพูดต่อไปว่า “อีกอย่าง ทั้งคุณผู้ช่วยฝึกหัด คุณเลขาก็ต้องคอยช่วยดื่มเหล้าอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดานี่!”
สีหน้าของเผยลี่เชินเย็นชาขึ้นอีกครั้ง ความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมาจากทั่วทั้งร่างกายของเขา ฟางหรงเทียนที่นั่งอยู่ด้านข้างสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขาจึงรีบเอ่ยปากแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็ว “ประธานหวาง ถึงแบบนี้อาจจะไม่ดีนัก แต่ผมขอเป็นตัวแทนประธานเผยดื่มเหล้าแก้วนี้เอง เท่ากับว่าท่านประธานขอดื่มเหล้าแก้วนี้เพื่อเป็นการเคารพคุณนะครับ”
ขณะที่ฟางหรงเทียนพูดอยู่นั้น เขาก็ยกแก้วเหล้าขึ้นและดื่มจนหมด จากนั้นเขาก็ให้บริกรมาเต็มเหล้าให้เต็มแก้วอีกครั้ง พร้อมกับยิ้มและมองไปที่หวางคุน “แก้วที่สองนี้แสดงออกถึงความเคารพที่ผมมีต่อคุณ ประธานหวาง หลังจากนี้พวกเราสองบริษัทจะต้องร่วมมือกันไปอีกนาน ทำไมจะต้องให้เรื่องเล็กๆ มาทำให้ขุ่นข้องหมองใจด้วยล่ะครับ”
เมื่อหวางคุนดูออกว่าเผยลี่เชินอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก เขาถึงหัวเราะเบาๆ และเลิกคะยั้นคะยอ “ตกลง รองประธานฟางได้ดื่มแทนไปแล้ว ผมก็ดีใจ เอาล่ะ พวกเราทุกคนมาดื่มให้หมดแก้วกันเถอะ ใครที่ดื่มไม่ได้ก็ดื่มชาหรือน้ำเปล่าแทนเหล้าก็ได้ครับ”
เพราะเหตุการณ์เล็กน้อยที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ทำให้เผยลี่เชินรู้สึกไม่พอใจ ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ได้แต่หวังอยู่ในใจให้งานเลี้ยงรับรองนี้จบลงอย่างรวดเร็ว และสามารถไปจากที่นี่ได้เร็วที่สุด
เมื่อเห็นว่างานเลี้ยงใกล้จะเลิกราแล้ว จู่ๆ หวางคุนก็พูดเรื่องงานขึ้นมากลางโต๊ธอาหารในทันที เขามองไปที่เผยลี่เชิน พร้อมกับพูดอย่างสุภาพว่า “ประธานเผย วันนี้ผมมีเรื่องหนึ่งที่ผมอยากจะแจ้งให้คุณทราบไว้ ผมจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายขึ้นในช่วงปลายเดือนหน้า ดังนั้นก่อนที่จะถึงตอนนั้น ผมต้องเตรียมสินค้าคงคลังเอาไว้ก่อน และผมอยากที่จะร่วมงานกับบริษัทเผยซื่อของพวกคุณ”
เมื่อเผยลี่เชินได้ยินดังนั้น เขาก็วางตะเกียบลงอย่างเบาๆ สีหน้าของเขายังคงเรียบนิ่ง “ประธานหวางกับเผยซื่อก็เคยร่วมงานกันมาก่อน คุณน่าจะรู้ขั้นตอนดีอยู่แล้ว สำหรับการร่วมมือกันในครั้งนี้ ให้คุณติดต่อมายังผู้ที่รับผิดชอบคนเดิมโดยตรงก็ได้ครับ”
“ไม่ๆ ๆ ครั้งนี้ไม่ได้หรอก” หวางคุนส่ายศีรษะ “รายการสินค้าในครั้งนี้มีความพิเศษเป็นอย่างมาก ต้องการในปริมาณที่มากและจำเป็นที่จะต้องให้โรงงานผลิตชิ้นส่วนออกมาเสร็จตั้งแต่ต้นเดือนของเดือนหน้า แบบนี้ถึงจะสามารถทันกับกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ทางเราได้วางแผนเอาไว้”
เผยลี่เชินเงยหน้ามองไปที่หวางคุน สายตาของเขาดูจริงจังขึ้น “คุณต้องการเท่าไร”
หวางคุนดื่มไปค่อนข้างมากทีเดียว เขาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ชูห้านิ้วขึ้นมา “50,000 ชิ้นพร้อมส่งภายในต้นเดือนหน้า”
เผยลี่เชินขมวดคิ้ว เขาคิดอยู่ครู่ใหญ่ ถึงจะพูดตอบออกมาว่า “ถ้าหากเป็นงานเร่งด่วน ผมเกรงว่าจะผลิตให้ไม่ทัน”
บริษัทเผยซื่อบริหารงานอยู่ในหลายภาคส่วน แต่ไม่ว่าจะเป็นตัวบริษัทเองหรือว่าโรงงานก็ตาม เผยลี่เชินย่อมเข้าใจสถานการณ์ล่าสุดในแต่ละเดือนเป็นอย่างดี พร้อมกับคอยดูแลทุกสถานการณ์อย่างเอาใจใส่
เมื่อพิจารณาตามคำร้องขอของหวานคุนแล้ว ถ้าเกิดก่อนต้นเดือนหน้าต้องผลิตชิ้นส่วนออกมาให้ได้ถึง 50,000 ชิ้น นั่นไม่ใช่ปริมาณที่น้อยเลยทีเดียว เมื่อหลังจากรวมกับรายการอื่นๆ ที่ทางบริษัทรับมาและไม่อาจเลื่อนวันส่งสินค้าออกไปได้แล้ว ดังนั้น รายการสินค้าในครั้งนี้ พวกเขาไม่สามารถที่จะผลิตให้ได้ทันแน่นอน
ฟางหรงเทียนที่นั่งอยู่ข้างๆ คาดไม่ถึงว่าเผยลี่เชินจะปฏิเสธรายการนี้ สีหน้าของเขาตกใจ และรีบกระซิบคุยกับเผยลี่เชินทันทีว่า “ลี่เชิน รายการสั่งสินค้าปริมาณมากขนาดนี้ภายในครั้งเดียว พวกเรามาลองคิดให้รอบคอบก่อนดีกว่านะ…”