บทที่ 175 สัมภาษณ์
แม้ว่าเรื่องอื้อฉาวของพวกเขามีอย่างท่วมท้น แต่ในฐานะของคู่กรณีไม่อาจยอมรับได้อย่างชัดเจน ข่าวของสื่อที่รายงานออกไปล้วนแต่เป็นการคาดเดาทั้งสิ้น แต่เมื่อถึงวันที่พวกเขาจะออกมาประกาศความสัมพันธ์ของพวกเขา เรื่องราวก็จะแตกต่างออกไป
ต้องพิจารณาความเห็นของครอบครัวทั้งสองฝ่าย มุมมองของพนักงานในบริษัทรวมถึงอนาคตข้างหน้าด้วย
เผยลี่เชินเห็นสีหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์ที่เต็มไปด้วยความลังเล จึงพูดเบาๆ “เธอไม่ยอมรึ?”
จากมุมมองของเขา การประกาศความสัมพันธ์ของพวกเขาให้คนอื่นรับรู้ ดีกว่าให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกชี้หน้าด่า หรือมานินทาลับหลัง แบบนี้ทำให้ปฏิสัมพันธ์การไปมาหาสู่ของเขาและเธอเป็นปกติ ไม่มีใครมาวิพากษ์วิจารณ์ถูกกล่าวหาได้อีก
ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลครู่หนึ่งและดูจริงจังนิดหน่อย “คุณเคยคิดว่าถ้าประกาศออกไปแบบนั้น จากนั้นพวกเราจะเผชิญหน้ากับอะไร?”
“คิดไว้แน่นอน” สีหน้าเผยลี่เชินดูจริงจัง “แต่พวกเราจะเผชิญไปด้วยกัน”
ไป๋เสว่เอ๋อร์จิตใจสั่นไหว เงยหน้ามองดูดวงตาที่ลึกซึ้งของเผยลี่เชิน ทันใดนั้นก็นำความกังวลในใจโยนทิ้งไป
ในเมื่อเลือกที่จะอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ต้องเผชิญหน้าร่วมกันในทุกเรื่อง
เธอกุมมือเขาไว้ ยิ้มที่มุมปาก “คะ งั้นพวกเราก็ประกาศบอกทุกคนไปตามนั้น”
เช้าวันรุ่งขึ้น ตอนกินข้าวเช้า เผยลี่เชินรับโทรศัพท์ของฉีเฟิง
“ประธานเผยครับ ผมได้รับข่าวมาว่าวันนี้จะมีนักข่าวมาดักรอที่ประตูบริษัท คุณต้องการให้ผลเคลียร์ในจุดนี้หรือไม่?”
ข่าวอื้อฉาวของไป๋เสว่เอ๋อร์และเผยลี่เชินกลายเป็นประเด็นร้อน ซึ่งพวกเขายังไม่ได้ออกมาเปิดเผยแก้ต่างในสังคมออนไลน์ ความสงสัยของสื่อก็ยังมีต่อไป มันเป็นกลไกของสื่อ จึงนั่งไม่ติดก็สู้มานั่งรออยู่ที่บริษัทดีกว่า
แต่สำหรับเผยลี่เชินกลับเป็นเรื่องดี
ข่าวอื้อฉาวพวกนี้ที่สื่อนำเสนอโดยมีเจตนาทำลายภาพลักษณ์ของเผยซื่อ ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของเผยซื่อได้รับผลกระทบอย่างมาก
ในเมื่อสื่อทั้งหลายต่างก็มาถึงที่ พวกเขาจะไม่คว้าโอกาสนี้เพื่อชี้แจงเรื่องราวให้กระจ่างได้อย่างไร?
ฉีเฟิงเห็นเผยลี่เชินเงียบไป จึงถามต่อ “ประธานเผย ถ้าต้องการผมจะให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขวางไว้ที่หน้าประตู จะได้ไม่กระทบต่อภาพลักษณ์ของเผยซื่อ”
“ไม่ต้อง คุณมาเฝ้าประตูให้เร็วขึ้น ถ้าพวกเขามาถึงเร็ว ก็พาไปที่ห้องโถงหาน้ำอุ่นๆ มารับรอง บอกว่าเป็นบริการฟรีจากบริษัท”
เพื่อให้ได้ข่าวที่มีค่า พวกนักข่าวจึงรีบมาที่บริษัท วันนี้อากาศค่อนข้างเย็น อุณหภูมิไม่สูงมาก พวกเขารอด้านนอกคงหนาวตาย
ฉีเฟิงไม่เข้าใจ “ประธานเผย เอ่อคือ…..”
“ไม่ต้องถามมาก ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ”
“ครับ”
หลังจากวางสาย เผยลี่เชินเงยหน้ามองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยของไป๋เสว่เอ๋อร์ ยิ้มที่มุมปาก “เราจะไม่ใช้โอกาสในการประชาสัมพันธ์ที่ส่งถึงประตูบ้านของเราได้อย่างไร”
หลังจากหนึ่งชั่วโมงกว่าผ่านไป เผยลี่เชินและไป๋เสว่เอ๋อร์มาที่บริษัท
กำลังจะถึงบริษัทก็มองเห็นแต่ไกลว่ามีกลุ่มคนออกันอยู่หน้าประตู ทุกคนต่างมีกล้องและไมโครโฟน ทำให้รู้ว่าทุกคนล้วนเป็นนักข่าวทั้งสิ้น
พวกเขามาถึงประตูใหญ่ของบริษัท นักข่าวต่างกรูกันเข้ามา โจ๋วฝันลงจากรถก่อนเพื่อชี้แจงกับนักข่าว “คุณเผยลี่เชินจะให้สัมภาษณ์กับพวกคุณทุกคน แต่ได้โปรดอย่าเบียดเสียดเข้ามา ไม่เช่นนั้นจะยุติการสัมภาษณ์ทุกอย่าง”
นอกจากนี้ฉีเฟิงยังได้เตรียมการล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัย จากนั้นเผยลี่เชินและไป๋เสว่เอ๋อร์เปิดประตูรถ
พวกเราลงจากรถ พวกนักข่าวต่างก็กรูกันเข้ามา “คุณเผย คุณมีอะไรจะบอกเกี่ยวกับข่าวคุณกับคุณไป๋บนสังคมออนไลน์บ้างไหม?”
“คุณเผย แหล่งจากวงในบอกว่าคุณมีความสัมพันธ์กับคุณไป๋มาระยะหนึ่งแล้ว จริงไหม?”
“………………”
คำถามต่างๆ เหมือนธนูที่พุ่งตรงมายังพวกเขาไม่หยุดหย่อนแต่เผยลี่เชินกลับไม่สะทกสะท้าน ดึงมือไป๋เสว่เอ๋อร์ให้มาเดินข้างๆ แล้วยกมือไปทางนักข่าว
ดูเหมือนเขาจะมีพลังสนามแม่เหล็กที่น่าตกใจ เมื่อเขายกมือเสียงจากพวกนักข่าวค่อยๆ เงียบลง
สีหน้าของเผยลี่เชินดูเคร่งขรึม พูดด้วยเสียงต่ำ “ผมจะตอบคำถามของพวกคุณ แต่ได้โปรดเข้าใจด้วยว่าต้องถามทีละคน หวังว่าทุกคนคงให้ความร่วมมือ”
ขณะนั้น พวกนักข่าวต่างเงียบสงบ
มีนักข่าวคนหนึ่งเริ่มถาม ด้วยคำถามเมื่อสักครู่
เผยลี่เชินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วตอบกลับ “ตอนนี้ความสัมพันธ์ของผมและไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ถือเป็นความรักแบบปกติเหมือนคนทั่วไป แต่ข่าวในโลกออนไลน์จริงบ้างเท็จบ้างแต่ไม่มีแบบชู้สาวแน่นอน”
นักข่าวอีกคนถามต่อ “ในสังคมออนไลน์พูดถึงความรักของคุณมีผลต่อบริษัท เรื่องนี้คุณคิดอย่างไร?”
“ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ออเดอร์ของบริษัทหลั่งอี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของผมโดยตรง แต่ในฐานะประธานบริษัท จึงต้องรับผิดชอบ นี่เป็นความผิดพลาดของโครงการไม่เกี่ยวข้องอะไรกับความรักของผม อยากให้ทุกคนลองพิจารณาดู”
“ความรักในออฟฟิศ พฤติกรรมของคุณเช่นนี้ส่งผลเสียต่อพนักงาน คุณคิดเห็นอย่างไร?”
ใบหน้าของเผยลี่เชินปรากฏรอยยิ้ม “อย่างแรกเลย เผยซื่อเป็นบริษัทที่มีพนักงานหลากหลาย จึงไม่อาจห้ามเรื่องความรักในสำนักงานได้ ดังนั้นผมเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นผมกับไป๋เสว่เอ๋อร์ หรือพนักงานคนอื่น ต่างมีความสามารถแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว พวกเราต่างก็เป็นผู้ใหญ่แล้วก็มีวิธีจัดการชีวิตตัวเอง”
คำพูดของเขาไม่มีอะไรที่ผิดปกติหรือไม่เหมาะสม อีกทั้งทำให้คนอื่นหมดคำถามอีกด้วย
แต่ในขณะนี้มีเสียงไม่ปรารถนาดีดังขึ้นมา “มีคนกล่าวว่าคุณไป๋อยู่กับคุณเผยเพราะเงิน เรื่องนี้จริงหรือเปล่า?”
ดูเหมือนคำถามนี้ต้องการให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบ ช่วงเวลานี้ทุกคนจับจ้องไปที่เธอ
เผยลี่เชินขมวดคิ้วเข้ม ขณะกำลังจะตอบ ไป๋เสว่เอ๋อร์ซึ่งอยู่ข้างๆ เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงแบบปกติธรรมดา
“คนที่กล้าถามแบบนี้แสดงว่าตัวเองยังไม่เคยเจอรักแท้?” ไป๋เสว่เอ๋อร์สายตาแน่วแน่ มีรอยยิ้มเล็กน้อย “ไม่ว่าฉันจะตอบอย่างไร เกรงว่าทุกคนก็คงจะมีคำตอบอยู่แล้ว ดังนั้นคำถามนี้ให้เวลาเป็นเครื่องช่วยพิสูจน์จะดีกว่า”
เธอพูดจบก็หันไปหาเผยลี่เชินพร้อมรอยยิ้ม
จากนั้นก็มีคำถามด้วยเสียงเล็กแหลมดังขึ้น “แล้วที่เมื่อก่อนคุณคบกับเผยอี้น้องชายของคุณเผย ตอนนี้เจอหน้ากันรู้สึกอึดอัดใจบ้างไหม?”
“ไม่คะ วันนี้ทุกคนต่างมีทางเลือกที่ดีกว่า ก็ควรยินดีและอวยพรให้กัน ในอดีตก็ปล่อยไปซะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบโดยไม่ลังเล
พวกเขาสองคนเข้ากันได้ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย ตอบคำถามที่นักข่าวถามได้ดีไม่มีที่ติ กลับกลายเป็นพวกนักข่าวที่เสียเปรียบ คำถามที่ควรตอบก็ตอบได้น่าพอใจ ภายใต้การดูแลของโจ๋วฝันและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาต่างได้รับการยอมรับ ถือว่ายุติข่าวลือที่น่าสงสัย คำพูดเยาะเย้ยถากถางต่างๆ นานา ก็ถูกยุติลงด้วยความรักที่มั่นคง
ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินตามเผยลี่เชินไปห้องโถง รู้สึกโล่งใจอย่างมาก
เผยลี่เชินหยุดเดินหันมาทางฉีเฟิง กำชับเบาๆ “ที่เหลือยกให้คุณจัดการ”