ตอนที่ 194 คุณไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับผม
ไป๋เสว่เอ๋อตกใจตะลึง ชะงักไปทันที
เมื่อครู่เขายังปากแข็งบอกว่าตัวเองไม่ได้เมา แต่ทำไมจู่ๆก็มายอมรับว่าตัวเองเมาซะงั้นล่ะ?
“มึนหัว” เผยลี่เชินพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ตัวของเขาเริ่มโอนเอนหันไปซบไป๋เสว่เอ๋อ
เขาเข้ามาใกล้ข้างหูของหล่อน กระซิบขึ้นเบาๆ น้ำเสียงแฝงไปด้วยการหยอกล้อ “ผมเมาแล้ว คืนนี้คุณช่วยอาบน้ำให้ผมดีไหม?”
ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกมึนไปหมด เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ หล่อนก็เข้าใจทันที
เผยลี่เชินเมาซะที่ไหนกัน เขาก็แค่อยากจะฉวยโอกาสนี้ลวนลามหล่อน!
ไป๋เสว่เอ๋อทั้งโกรธทั้งขำ แทบอยากจะสะบัดมือเขาออก แต่แขนของเผยลี่เชินโอบเอวหล่อนไว้อยู่ จะผลักยังไงก็ผลักไม่ออก
สีหน้าของไป๋เสว่เอ๋อนิ่งขรึม แสร้งทำน้ำเสียงจริงจัง “เผยลี่เชิน ฉันรู้นะว่าคุณกำลังแกล้งฉันอยู่”
“เปล่านะ ผมพูดจริง” เผยลี่เชินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ใช้ปากไปกระซิบเบาๆข้างหูของไป๋เสว่เอ๋อ
ไป๋เสว่เอ๋อหัวเราะ เมื่อหล่อนเงยหน้าขึ้นมามองไปเห็นเจิงหงที่กำลังเดินมาทางนี้พอดี หล่อนคิดบางอย่างขึ้นมาได้ ในเมื่อเขาคิดสกปรกกับหล่อน ก็ต้องโดนแกล้งกลับ หล่อนพูดกับเจิงหง “ลุงหงคะ ประธานเผยเมาแล้วค่ะ คุณรีบประคองเขาไว้หน่อยนะ!”
ไป๋เสว่เอ๋อตั้งใจใช้น้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังกระวนกระวาย เมื่อเจิงหงได้ยินเช่นนั้น เขารีบยื่นมือเขาไปประคองเผยลี่เชินจากไป๋เสว่เอ๋อ
เมื่อเห็นมือของเจิงหงยื่นเข้ามา เผยลี่เชินกลับยืนตรงขึ้นมาทันที สีหน้าจริงจังพูดขึ้น “ผมไม่เป็นอะไร ไม่ได้เมา…”
เผยลี่เชินกลับกลายเป็นคนละคน เมื่อครู่ยังแสร้งทำเป็นเมาออดอ้อนอยู่ในอ้อมอกของหล่อน แต่ตอนนี้เมื่อเห็นเจิงหงเดินเข้ามาประคอง เขาก็รีบหายเป็นปกติทันที ทั้งยังลุกขึ้นยืนเดินเป็นปกติด้วยตัวเองได้
เมื่อเจิงหงเห็นเหตุการณ์เปลี่ยนเป็นเช่นนี้ เขารีบเก็บมือลง สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย มองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อ และ มองไปที่เผยลี่เชิน เขาไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ไป๋เสว่เอ๋อฝืนยิ้ม รีบก้าวเดินไปด้านหน้า แสร้งทำเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร
เมื่อขึ้นรถไป เพิ่งจะออกรถได้ไม่นาน เผยลี่เชินก็หันไปซบไหล่ของไป๋เสว่เอ๋ออีกครั้ง “มึนหัว…..”
ไป๋เสว่เอ๋อยักคิ้วขึ้น มองดูเผยลี่เชินที่แกล้งเมาจนติด ทั้งยิ้มขึ้นด้วยความเอ็นดู หล่อนหยุดชะงักไปสักพัก กระซิบถามขึ้น
“ถ้าเมาแล้วก็จะพูดแต่ความจริง ในเมื่อคุณเมาแล้ว ฉันก็มีคำถามจะถามคุณสักหน่อย ฉันถามอะไรคุณต้องตอบ เล่นไหมคะ?”
“อื้ม” เผยลี่เชินที่พิงไหล่ของไป๋เสว่เอ๋ออยู่ ตอบกลับเบาๆ
ไป๋เสว่เอ๋อเงียบไปครู่หนึ่ง ถามขึ้นด้วยความสงสัย “คุณมีความลับรึเปล่า?”
สีหน้าของเผยลี่เชินชะงักไป จากนั้นก็ตอบกลับ “มี”
หลังจากที่เขาตอบกลับ ไม่นานนัก เขาก็มองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อ ย้อนถาม “คุณล่ะ? มีความลับรึเปล่า หรือว่ามีบางอย่างปิดบังผมอยู่?”
น้ำเสียงของเขากลับไม่เหมือนที่เขาแกล้งเมาเมื่อครู่ ทันใดนั้นเองเขาดูจริงจังเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
ไป๋เสว่เอ๋อนิ่งเงียบ ไม่ตอบอะไร
ถ้าพูดไปว่ามีเรื่องบางอย่างปิดบังเผยลี่เชินอยู่ งั้นเรื่องที่หล่อนแอบสืบหาจดหมายฟ้องร้องถือเป็นหนึ่งเรื่อง แต่เพียงเพราะเรื่องนี้ หล่อนไม่อยากพูดถึงต่อหน้าเผยลี่เชิน
ผ่านไปสักพัก หล่อนตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย “ไม่มีค่ะ”
เมื่อเป็นแบบนี้ การรพูดโกหกก็จะต้องโกหกต่อไปให้จบ ถ้าหล่อนไม่อยากพูดเรื่องจดหมายฟ้องร้องออกมา ก็ต้องพูดโกหกต่อไป
ทันใดนั้น ไหล่ของไป๋เสว่เอ๋อเบาลงทันที เผยลี่เชินที่เดิมทีพิงไหล่ของหล่อนอยู่ก็ยืดตัวห่างออกมา หล่อนรู้สึกถึงลางสาหรณ์ที่ไม่ดี รีบหันมองไป ในความมืดมิดนั้น หล่อนหันไปสบสายตาอันเยือกเย็นของเขาพอดี
เผยลี่เชินสูดหายใจเข้าลึก ราวกับกำลังรวบรวมความกล้าถามหล่อนขึ้น “ไป๋เสว่เอ๋อ คุณจะไม่ยอมบอกผมจริงๆงั้นเหรอ?”
เขาเฝ้ารอให้หล่อนบอกเรื่องจดหมายฟ้องร้องอยู่ทุกวัน แต่ไป๋เสว่เอ๋อกลับไม่เคยพูดถึงเลยสักนิด มาถึงตอนนี้หล่อนยอมที่จะพูดโกหกแต่ไม่ยอมที่จะบอกเขาสักคำ!
เมื่อได้ยินเผยลี่เชินพูดออกมาเช่นนั้น ไป๋เสว่เอ๋อขนลุกซู่ขึ้นมาทันที มองไปที่เผยลี่เชินอย่างตกตะลึกไปสักพัก จึงถามขึ้น “คุณ…คุณรู้หมดแล้วเหรอ?”
“คุณไปพบเฉียวเจิ้นเพื่อไปขอรายละเอียดเนื้อหาจดหมายฟ้องร้องของสถานีตำรวจ คุณไปพบผู้ช่วยคนก่อน เพื่อสืบคดีขั้นถัดไปว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการฟ้องร้องนี้ คุณแอบสืบคดีมากมายเพียงตัวคนเดียว แต่กลับไม่ยอมที่จะบอกผม ไป๋เสว่เอ๋อ คุณเห็นผมเป็นคนนอกหรือไง?”
เผยลี่เชินย้อนถาม น้ำเสียงชัดถ้อยชัดคำ สมเหตุสมผล
ไป๋เสว่เอ๋อตะลึงหยุดชะงักไป พูดอะไรไม่ออก หล่อนคิดไม่ถึงเลยว่า เผยลี่เชินรู้เรื่องราวทั้งหมดนี้แล้ว!
“ฉัน…เปล่า” ไป๋เสว่เอ๋อรู้สึกไม่สบายใจ รู้ดีว่าถ้าไม่พูดยอมรับออกไปก็หมดหนทางแล้ว หล่อนก้มหน้าลง เริ่มคัดจมูก
เผยลี่เชินเริ่มมีอารมณ์โมโห เขายื่นมือออกมา จับข้อมือของหล่อนไว้แน่น ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ในเมื่อไม่ได้เห็นผมเป็นคนนอก แล้วทำไมคุณต้องปิดบังผมมาโดยตลอด?”
ไป๋เสว่เอ๋อสูดหายใจเฮือกใหญ่ หัวใจเต้นแรงผิดปกติขึ้นทันที
เมื่อเห็นว่าหล่อนไม่ยอมตอบ เผยลี่เชินจึงเอ่ยปากถามขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงนิ่งขรึม “ทำไมต้องปิดบังผม?”
ไป๋เสว่เอ๋อกัดริมฝีปากแน่น พูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา “ฉันรู้สึกว่าฉันติดหนี้บุญคุณกับคุณไว้เยอะมากพอแล้ว ไม่อยากทำให้คุณเดือดร้อนอีก…”
ตั้งแต่เริ่มแรกเผยลี่เชินเป็นคนช่วยตระกูลไป๋ปลดหนี้ ต่อมาหล่อนก็ได้มาทำงานอยู่เคียงข้างเขา บุญคุณที่เผยลี่เชินทำให้หล่อนและตระกูลไป๋มีมากมาย เรื่องนี้หล่อนเข้าใจดีที่สุด!
ดังนั้นหล่อนจึงไม่ยอมให้เผยลี่เชินต้องมาเดือดร้อนช่วยเหลือเรื่องการสืบหาจดหมายฟ้องร้องอีก และไม่อยากทำให้เขาลำบากเพราะตัวหล่อนเอง เพราะเหตุนี้หล่อนจึงปิดบังเขามาโดยตลอด
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า จะปิดบังมาจนกระทั่งเขาจับได้
เมื่อไป๋เสว่เอ๋อเงยหน้ามองขึ้น หล่อนเห็นสายตาของเผยลี่เชินที่เต็มไปด้วยทั้งความโกรธและความเยือกเย็น มือที่เขาจับข้อมือหล่อนไว้ยิ่งกำแน่นขึ้น พร้อมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ไป๋เสว่เอ๋อ สำหรับคุณแล้ว คุณไม่เคยเป็นปัญหาสำหรับผม และผมก็ไม่ได้รู้สึกลำบากหรือเดือดร้อน!”
ไป๋เสว่เอ๋อได้ยินเช่นนั้น ใจของหล่อนสั่น รู้สึกอบอุ่นไปทั้งใจ
เผยลี่เชินสูดหายใจเข้าลึกพร้อมพูดต่อ “และคุณก็ไม่ได้ติดหนี้บุญคุณอะไรกับผม! สิ่งที่ผมกลัวก็คือ คุณโกหกและปิดบังผม! คุณเข้าใจไหม?”
ไป๋เสว่เอ๋อคัดจมูกสะอื้น น้ำตารินไหลออกมาอย่างอดกลั้นไว้ไม่ไหว หล่อนพยักหน้าลงช้าๆ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นคลอน “ค่ะ ฉันเข้าใจ…”
เมื่อเห็นสภาพอันน่าสงสารเอ็นดูของหล่อนในตอนนี้ เผยลี่เชินก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา เขายื่นมือไปดึงหล่อนไว้มากอดในอ้อมอก
เรื่องที่ไป๋เสว่เอ๋อปิดบังเขา ทำให้เขาโกรธมาก แต่เมื่อเห็นหล่อนเป็นแบบนี้ เขากลับโกรธไม่ลงจริงๆ
เผยลี่เชินยกมือขึ้นค่อยๆลูบไปที่หลังของหล่อน เขาสร่างเมาไปเยอะมาก ผ่านไปไม่นานนัก เขาก้มหน้าลง เห็นไป๋เสว่เอ๋อนอนหลับตาอยู่ในอ้อมอกของเขา
เดิมทีเขาก็รู้สึกโกรธหล่อนไม่ลง มาตอนนี้ยิ่งทำให้เขาใจอ่อนมากขึ้น เขาถอนหายใจเบาๆ กอดหล่อนแน่นขึ้น
นับจากวันนี้เป็นต้นไป เขาจะไม่ยอมทำให้หล่อนต้องเสียใจอีก สักนิดก็ไม่ได้!
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น เผยลี่เชินนั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหาร กำลังเลื่อนดูเอกสารในแท็บเล็ต ยังไม่ทันอ่านอีเมลจบสักฉบับ โทรศัพท์ในห้องนั่งเล่นก็ดังขึ้นมา
เมื่อป้าจางได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ก็รีบวิ่งออกมารับสายทันที หลังจากพูดได้เพียงไม่กี่ประโยค ป้าจางก็รีบนำโทรศัพท์ไปให้เผยลี่เชิน ขณะกำลังยื่นโทรศัพท์ให้เขา ป้าจางพูดขึ้นเบาๆ “โทรศัพท์จากคุณท่านเผยค่ะ”
เผยลี่เชินได้ยินเช่นนั้น รีบพยักหน้าตอบรับทันที ยื่นมือออกไปรับ “ฮัลโหล พ่อ มีเรื่องอะไรครับ?”
คู่สายเงียบไปครู่หนึ่ง สักพักเสียงของคุณท่านเผยก็ดังขึ้น น้ำเสียงของเขาฟังดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ “มีเรื่องหนึ่งที่พ่อรู้สึกว่ามีความจำเป็นต้องบอกลูกสักคำ”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงของคุณท่านเผย เผยลี่เชินขมวดคิ้วขึ้นทันที “เรื่องอะไรครับ?”
คุณท่านเผยสูดหายใจเข้าลึก ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เผยลี้กำลังจะแต่งงานกับจินจิงจิง พ่ออนุญาตไปแล้ว”