สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 222

ตอนที่ 222

ตอนที่ 222 เข้าใจผิดมากขึ้น

จิตใจลู่เหยาสั่นไหว จ้องมองไป๋เสว่เอ๋อร์อยู่สักพัก

ต่อมาเขาก็ตอบสนองโดยการละสายตาจากเธออย่างรวดเร็ว สั่งเถ้าแก่เนี้ยร้านโจ๊ก เอาโจ๊กบัวลอยถั่วแดงสองชาม

โจ๊กร้อนๆ สองชามถูกยกมา ลู่เหยายังสั่งของว่างเบาๆ กินแล้วสดชื่น

ไป๋เสว่เอ๋อร์นั่งลง มือสองข้างก่อนหน้าเคยเย็นเจี๊ยบ แต่ตอนนี้ค่อยๆ อุ่นขึ้น

“ชิง..ชิง ครั้งนี้ฉันกลับมา ได้ยินข่าวเรื่องตระกูลไป๋”

ลู่เหยาพูดได้ครึ่งหนึ่งแล้วหันไปมองไป๋เสว่เอ๋อร์ ซึ่งเธอก็รู้ดีว่าเรื่องอะไร จึงพยักหน้ารับ “อืม พ่อฉันทำเรื่องที่ไม่ควรทำ”

เธอลดสายตาลง และกวนโจ๊กที่อยู่ในชามอย่างระมัดระวัง

“เธอกับคุณน้าสบายดีไหม?”

เมื่อก่อนอยู่มหาวิทยาลัย ไป๋เสว่เอ๋อร์เข้าร่วมในกลุ่มทดลองของอาจารย์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางด้านภาษากับเพื่อนร่วมชั้น รุ่นพี่และนักเรียนต่างชาติ

เธอจึงได้รู้จักกับลู่เหยาเพราะกลุ่มทดลองนี้ ความสัมพันธ์ของทุกคนในกลุ่มเป็นไปด้วยดี และเคยออกไปแข่งขันร่วมกัน คุณแม่ไป๋ก็เคยเจอหน้าพูดคุยกับลู่เหยามาแล้ว

ไป๋เสว่เอ๋อร์นิ่งเงียบไปสักครู่ นึกถึงเรื่องของแม่ตัวเองกับเฟิงเจิ้นปัง ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ จากนั้นเธอก็ก้มหัวลดเสียงต่ำ “แม่สบายดีคะ”

สังเกตเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ผิดปกติ ลู่เหยาจึงหยุดหัวข้อสนทนานี้ แล้วเปลี่ยนเรื่องพูดใหม่ “ได้ยินว่าเดือนหน้าจะมีงานเลี้ยง จัดโดยกลุ่มของพวกเราที่เคยเรียนในมหาวิทยาลัยด้วยกัน เธอจะไปไหม?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ลังเลสักพัก หลังจากที่ตระกูลไป๋เกิดเรื่อง เธอก็ไม่ได้ติดต่อเพื่อนฝูงเลย ถ้าเกิดจู่ๆ ไปร่วมงานเลี้ยง มันจะกะทันหันเกินไปรึเปล่า?

ลู่เหยามองทะลุปรุโปร่งความคิดของเธอ เขาจึงยิ้มพร้อมคำพูด “ตั้งแต่ฉันไปเรียนต่อต่างประเทศจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เคยไปร่วมงานเลี้ยงเลย ถ้าไงพวกเราไปด้วยกันดีไหม?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังคงดูเย็นชา “ค่อยคุยกันทีหลังเถอะคะ”

ลู่เหยายิมรับ “ได้”

กินโจ๊กเสร็จสองคนก็เดินเคียงข้างกัน ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดเบาๆ “รุ่นพี่ได้พบกันวันนี้ ฉันมีความสุขมาก”

ฉันก็ด้วยเหมือนกัน”

ไป๋เส่วเอ๋อร์หยุดก้าวแล้วชี้ไปที่โรงแรมที่อยู่ตรงหน้า ยิ้มให้กับลู่เหยา “งั้นฉันไปก่อนนะ บ๊ายบาย”

ลู่เหยาไม่ได้ถามไป๋เสว่เอ๋อร์ว่าทำไมคืนนี้ถึงนอนค้างที่โรงแรม แต่กลับพูดเสียงเบา “ฉันไปส่งเธอนะ”

เมื่อไปถึงประตูโรงแรม ต่างคนก็แลกเบอร์โทรศัพท์ติดต่อกัน ก่อนแยกย้ายกันไป

ในเวลาเดียวกัน เผยลี่เชินยืนอยู่ตรงหน้าต่างชั้นสองของคฤหาสน์ด้วยสายตาใบหน้าเย็นชา

ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือที่วางบนขอบหน้าต่างก็ดังขึ้น ในที่สุดสีหน้าของเผยลี่เชินก็เปลี่ยนไป เขารับโทรศัพท์ “ฮัลโหล”

“ประธานเผย คุณไป๋ไปแถวๆ สวนอีเดน จากนั้นก็ไปกินข้าวกับผู้ชายคนหนึ่งในร้านอาหารเล็กๆ แล้วก็เข้าไปในโรงแรมทิงเคอที่อยู่ใกล้ๆ”

“ผู้ชาย?” ดวงตาของเผยลี่เชินดูหม่นหมอง

“ครับ…แต่เธออยู่คนเดียวในโรงแรม ผู้ชายคนนั้นส่งเธอแค่หน้าประตูโรงแรมแล้วก็ไป”

มือที่กำมือถือแน่นของเผยลี่เชินค่อยจางคลายออก ใจเขารู้สึกอึดแน่นโดยไม่รู้ตัว

ดึกป่านนี้ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังออกไปข้างนอกแถมยังไปเจอผู้ชายอื่นอีก!

ความโกรธค่อยๆ พุ่งทะยานในจิตใจ เผยลี่เชินพูดเสียงเข้ม “ไปสืบว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร!”

“ครับ”

หลังจากวางสายโทรศัพท์ เผยลี่เชินกำหมัดแน่น จากนั้นหยิบแก้วเหล้าที่วางอยู่ข้างๆ ยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว

เขาคิดมาตลอดว่าชายที่อยู่ข้างกายไป๋เสว่เอ๋อร์มีแต่เขาคนเดียว ส่วยเผยอี้ก็เป็นเพียงอดีตเท่านั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนเรื่องจะไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้ว

ดึกมากแล้ว เผยลี่เชินก็ยังไม่สามารถข่มตาให้หลับได้

เช้าวันต่อมา ไป๋เสว่เอ๋อร์ตื่นแต่เช้า แล้วก็ตรงไปที่บริษัทเลย

แม้ว่าจะมีความเข้าใจผิดระหว่างเธอกับเผยลี่เชิน แต่เธอก็ยังคงเป็นพนักงานของเผยซื่อ ในวันทำงานก็มาทำงานตามปกติ

มาถึงที่ทำงานได้ไม่นาน ก็เห็นเจียงหวั่นหวั่นมาแบบกระวีกระวาด ในมือถืออาหารเช้ามสองถุง เมื่อเห็นไป๋เส่วเอ๋อร์จึงรีบร้องเรียกทันที “เสว่เออร์!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์เห็นเจียงหวั่นหวั่นที่ตามเธอมาด้วยความรีบร้อน จึงตกใจ

จากนั้นเจียงหวั่นหวั่นจึงส่งอาหารเช้าให้เธอ ไป๋เสว่เอ๋อร์ตะลึงสักครู่พร้อมกับรอยยิ้ม “ขอบใจนะ”

“ขอบจงขอบใจอะไรกัน” เจียงหวั่นหวั่นโบกไม้โบกมือ จากนั้นก็หยิบปาท่องโก๋ขึ้นมากินแล้วถามต่อ “อ้อ…เมื่อคืนเธอโทรศัพท์หาฉันมีเรื่องอะไรหรือ? ฉันนอนหลับไปแล้วเลยไม่ได้รับ”

“ก็ไม่มีเรื่องอะไรหรอก” ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดไปเรื่อยเปื่อย “อ้อ…วันนี้เฝิงเช่นเขาไม่มาทำอะไรให้เธอลำบากใจใช่ไหม?

เจียงหวั่นหวั่นตะโกนว่า “ฉันขี้เกียจจะสนใจเธอ พอเห็นเธอมาฉันก็รีบออกมา!”

“นั่นนะถูกแล้ว” ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้ม จากนั้นก็เปิดดูถุงอาหารเช้า

อีกด้านหนึ่งที่สำนักงานผู้ถือหุ้น เฝิงเช่นเอาแต่ร้องห่มร้องไห้ “คุณลุงคะ..คุณลุงต้องจัดการเรื่องนี้ให้หนูนะคะ หนูนอนร้องไห้ทั้งคืน…หนูรู้ว่าคุณลุงจะมาประชุมวันนี้ หนูเลยอยู่รอพบ หนูเป็นหลานสาวแท้ๆ ของคุณลุงที่โดนรังแกโดนเอาเปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรม คุณลุงจะเพิกเฉยไม่ได้…”

ถานปินซึ่งนั่งอยู่บนโซฟามีสีหน้าเคร่งเครีย เขาจ้องมองเฝิงเช่น จากนั้นถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย “หลานนะหลาน ไปมีเรื่องกับใครไม่มี ดันไปมีเรื่องกับผู้หญิงของเผยลี่เชิน! เหมือนแกว่งเท้าหาเสี้ยนเลยรู้ไหม!”

เฝิงเช่นสูดหายใจเข้าลึก “หนูไปหาเรื่องเธอที่ไหนกัน เธอมาหาเรื่องหนูเอง! คุณลุงก็รู้กิตติศัพท์ของผู้หญิงคนนี้ในบริษัทว่าเป็นอย่างไร เธอจงใจทำให้หนูอับอายขายหน้า จนหนูไม่กล้าสู้หน้าคนในบริษัทได้ คุณลุง….”

“หลานจะให้ลุงพูดอย่างไร? หรือจะให้พูดว่าหลานถูกใส่ร้ายจึงถูกไป๋เสว่เอ๋อร์ฉีกหน้า! เช่นเช่น ความผิดอยู่ที่หนู หนูให่ลุงออกหน้าแทน แบบนี้ทำให้ลุงรู้สึกลำบากใจ”

พอเฝิงเช่นได้ยินจึงเงยหน้ามองถานปิน “ใครว่าไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ผิด! คุณลุงรู้รึเปล่า ข้อมูลการประมูลของบริษัทที่รั่วไหลเป็นฝีมือของไป๋เสว่เอ๋อร์”

“ว่าไงนะ?” ถานปินตะลึง “หลานหมายถึงที่ดินปินหูที่หัวจั๋วชนะการประมูล?”

เฝิงเช่นปาดน้ำตาพูดอย่างมั่นใจ “ใช่คะ! หนูได้ยินมากับหู คนที่สำนักงานประธานบริษัทพูดกันว่าไป๋เสว่เอ๋อร์เคยเห็นต้นฉบับหนังสือการประมูลแล้วก็เป็นเธอที่ทำให้มันรั่วไหล จนทำให้เผยซื่อต้องอับอายในงานประมูลที่ผ่านมา! แถมราคาหุ้นของบริษัทก็ยังร่วงไม่หยุด”

ถานปินนิ่งไปสักครู่ทันใดนั้นก็โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ลดเสียงลง “ที่หลานพูดมาจริงแน่นะ?”

“แน่นอนคะ!” เฝิงเช่นกล้าสาบาน “เรื่องนี้หนูได้ยินเลขาสวี่ที่ทำงานในสำนักงานประธานบริษัทพูด เธอยังกำชับว่าอย่าให้หนูไปพูดที่ไหนอีก”

สายตาของถานปินกำลังดำดิ่งในความคิด ทันใดนั้นก็ปรากฎรอยยิ้มที่มุมปาก “เช่นเช่น ลุงคิดออกแล้วว่าจะออกหน้าแทนหนูอย่างไรดี”

ดวงตาของเฝิงเช่นเป็นประกายเมื่อได้ยิน “คุณลุง…คุณลุงต้องทำให้ไป๋เสว่เอ๋อร์อับอายขายหน้าให้ถึงที่สุด ไม่เช่นนั้นเรื่องที่หนูไม่ได้รับความยุติธรรมคงสูญเปล่า”

“ลุงมีวิธีของลุง” ถานปินพูดแล้วลุกขึ้นเดินไปด้านนอก

เฝิงเช่นมองเงาด้านหลังของถานปิน รู้สึกสะใจ

ในที่สุดครั้งนี้เธอก็มีโอกาสแก้แค้นไป๋เสว่เอ๋อร์แล้ว

เมื่อใกล้ถึงเวลาทำงาน ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงพูดเตือนเจียงหวั่นหวั่น “หวั่นหวั่นพอแล้ว ถ้าเธอยังไม่กลับไป รับรองเธอไปเข้างานสายแน่!”

สีหน้าของเจียงหวั่นหวั่นดูผิดหวัง แสยะยิ้ม แล้วก็กลับออกไปจากออฟฟิศของไป๋เสว่เอ๋อร์

ภายในห้องเงียบลง ไป๋เสว่เอ๋อร์นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน มือพลิกเอกสารไปมา

สักครู่ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูจากออฟฟิศข้างๆ ดังขึ้น ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงหยุดเปิดเอกสาร

ดูท่าเผยลี่เชินจะมาแล้ว….

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท