ตอนที่ 226 ใครที่ใส่ใจจริงๆ
หลังจากเก็บเอกสารข้อมูลที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ไป๋เสว่เอ๋อร์ออกจากบริษัทกลับไปคฤหาสน์
พอเข้าไปก็เจอป้าจางออกมาทักทาย ถามด้วยรอยยิ้ม “คุณไป๋ในที่สุดก็กลับมาแล้ว เห็นคุณออกไปเมื่อคืน ป้าเองก็เป็นห่วง”
ได้ยินคำพูดอบอุ่นใจเช่นนี้ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงยิ้มให้ป้าจาง “ป้าจางคะ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันดูแลตัวเองได้คะ”
พูดจบเธอก็เดินขึ้นไปชั้นบน
“คุณไป๋!” ป้าจางเดินไปขวางและดึงเธอไว้ “จะไม่กินอะไรสักหน่อยรึคะ? วันนี้มี….”
คุณผู้ชายกำชับให้เธอทำเกี๊ยวน้ำใสและบะหมี่ทะเล
ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้า “ไม่คะ ฉันกินมาแล้ว”
“แบบนี้….” ป้าจางไม่มีคำพูดใดต่อ จึงได้แต่ปล่อยไป๋เสว่เอ๋อร์ไป
กลับถึงห้องไป๋เสว่เอ๋อร์หยิบกระเป๋าเดินทางออกมา เก็บเสื้อผ้าและของใช้ใส่กระเป๋าเดินทางเรียบร้อยแล้ว จึงหิ้วกระเป๋าออกไป
ป้าจางตะลึงตกใจเมื่อเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังหิ้วกระเป๋าเดินทางออกไปทางประตู จนถือผ้าขี้ริ้วติดมือไว้ “คุณไป๋….คุณ…. นี่คือ….”
ไป๋เสว่เอ๋อร์อธิบาย “ป้าจาง ฉันจะไปทำงานนอกสถานที่ที่สิงคโปร์ พรุ่งนี้เช้าไปขึ้นเครื่อง วันนี้ก็เลยจะออกไปอยู่ข้างนอก พรุ่งนี้จะได้ตรงไปสนามบินเลย”
ป้าจางได้ยินว่าไปทำงาน แม้จะสงสัย แต่ก็พยักหน้ารับทราบ “คะ”
หลังจากเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ออกจากประตูใหญ่ไปแล้ว ป้าจางลังเลว่าจะโทรแจ้งเผยลี่เชินดีไหม
ผ่านไปสองสามวินาที ป้าจางหยิบโทรศัพท์กดเบอร์ของเผยลี่เชิน
“กริ๊ง….กริ๊ง….”
โทรศัพท์ที่โต๊ะดังขึ้น แต่ไม่มีคนรับสาย
เผยลี่เชินไปเป็นเพื่อนเหอหลิงเฟิงเพื่อเลือกไวน์ พอกลับมาถึงที่โต๊ะอาหารเสียงดังจากโทรศัพท์มือถือก็ดับไปแล้ว
ตอนแรกเหอหย่าหานก็อยากบอกเผยลี่เชิน แต่พอมาคิดอีกที กลัวว่าจะเป็นไป๋เสว่เอ๋อร์โทรมา จึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ไม่พูดอะไร
“ลี่เชิน..อะ! นานแล้วนะที่เธอไม่ได้มานั่งดื่มไวน์เป็นเพื่อนลุงแบบนี้!”
เหอหลิงเฟิงพูดขณะที่เขาเทไวน์ให้เผยลี่เชิน
สีหน้าของเผยลี่เชินดูอ่อนโยน “ลุงเหอ หากผมว่าง งานไม่ยุ่ง ผมก็จะมาทุกวัน”
เหอหลิงเฟิงยิ้ม “เธอพูดเองนะ อย่าดีแต่พูดนะ!”
“แน่นอนครับ”
เผยลี่เชินชนแก้วกับเหอหลิงเฟิง จากนั้นก็ดื่มไวน์จนหมด
ดื่มติดต่อกันหลายแก้ว จนเหอหย่าหานทนดูไม่ไหว เธอจึงหันไปมองเหอหลิงเฟิงพร้อมกับพูดต่อ “พ่อคะ อย่ามัวแต่ดื่มอย่างเดียว กินกับแกล้มด้วยซิคะ”
เหอหลิงเฟิงหัวเราะ “ไม่สบายใจ ใช่ไหม?”
เหอหย่าหานหน้าแดง รีบปฏิเสธ “อะไรคะ หนูแค่ห่วงร่างกายคุณพ่อคะ”
เหอหลิงเฟิงหัวเราะไม่พูดต่อ แต่สีหน้าของเผยลี่เชินดูเฉยเมย
บรรยากาศดูแปลกไป เหอหลิงเฟิงจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “อ้อ….ช่วงนี้บริษัทเป็นไงบ้าง? ฉันเห็นมีข่าวเกี่ยวกับเผยซื่ออยู่บ่อยๆ”
“ช่วงนี้มีเรื่องยุ่งค่อนข้างเยอะ ผมกำลังจัดการอยู่…”
คุยไปคุยมาก็มาถึงช่วงสุดท้ายของอาหาร เผยลี่เชินเป็นเพื่อนดื่มไวน์กับเหอหลิงเฟิง สุดท้ายเหอหลิงเฟิงจึงพูดต่อ “ลี่เชิน วันนี้นั่งดื่มไวน์กับเธอดีกว่านั่งกินข้าวที่บ้าน แต่ตอนนี้ดึกมากแล้ว…”
เผยลี่เชินยิ้มพร้อมปฏิเสธ “ไม่เป็นไร ผมมีคนขับรถมาด้วย”
ฟังเขาพูด เหอหลิงเฟิงก็ไม่มีเหตุผลอะไรจะอ้างอีก ได้แต่พยักหน้า จึงพูดต่อ “งั้น..ก็เดินทางโดยสวัสดิภาพนะ”
ขณะพูดก็หันไปมองเหอหย่าหานข้างๆ “หย่าหานไปส่งลี่เชินที”
เหอหย่าหานรีบพยักหน้า ไปส่งเผยลี่เชินที่ประตู
“ส่งแค่นี้เถอะ ข้างนอกหนาว”
เผยลี่เชินพูดจบก็ลงจากบันไดแต่เหอหย่าหานกลับยื่นมือดึงแขนเขาไว้ “ลี่เชิน!”
เผยลี่เชินขมวดคิ้ว หันกลับมามองเธอ “ทำไมหรอ?”
เหอหย่าหานลังเลย แล้วพูดต่อ “ฉันรู้ว่าช่วงนี้คุณมีเรื่องวุ่นๆ มากมาย ฉันอยากบอกว่า ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือจากพ่อฉัน ก็บอกฉันได้ตลอดเวลา”
“ไม่ต้องหรอก ขอบใจนะ” เผยลี่เชินแกะมือที่เหอหย่าหานจับเขาอยู่ น้ำเสียงฟังดูห่างเหิน รีบลงจากบันไดไป
เขาขึ้นรถแล้วปิดประตู สั่งให้เจิงหงออกรถ “ไปบาร์โยวหลัน”
เหอหย่าหานยังคงยืนอยู่ตรงบันได มองดูรถที่จากไป ใจสั่นเทารู้สึกอึดอัดใจ
ผ่านมาหลายปีแล้ว ทำไมเผยลี่เชินถึงไม่ยอมรับเธอนะ?
เหอหลิงเฟิงเดินออกมา หยุดแล้วยืนอยู่ข้างเธอ “ไปแล้วรึ?”
“คะ” เสียงของเหอหย่าหานฟังดูผิดหวัง
“หย่าหาน..อะ ผู้ชายดีๆ ในโลกนี้มีตั้งมากมาย ถ้าลูกคิดได้แล้วพ่อจะหาผู้ชายที่ดีกว่านี้ให้…”
เหอหย่าหานรีบตอบออกไปโดยไม่ลังเล “แต่นั่นคงไม่ใช่เผยลี่เชิน”
ผู้ชายที่เธอปรารถนาตั้งแต่แรกมีเพียงแค่เผยลี่เชินเท่านั้น
ที่บาร์โยวหลัน
เผยลี่เชินและกู้หลี่เหลียงนั่งพิงพนักเก้าอี้ มองดูเงาเต้นรำที่ฟลอร์เต้นรำ
กู้หลี่เหลียงยกคางขึ้น “เอ้!…ดูสาวน้อยคนนั้นซิ อายุน่าจะสิบเจ็ด รูปร่าง….โอ้…โอ้….”
เผยลี่เชินกวาดตามองตาม แล้วก็พูดเสียงเข้ม “ก็ธรรมดา”
สีหน้าของกู้หลี่เหลียงดูไม่เชื่อ “นั่นเรียกว่าธรรมดา? พี่ใหญ่ลองเปิดตากว้างๆ มองดูใหม่ มันดูเต็มไม้เต็มมือกว่าผู้หญิงไม้กระดานของพี่เสียอีก”
เขายังพูดไม่จบ ก็รู้สึกได้ถึงสายตาเย็นชาของชายที่นั่งอยู่ด้านข้าง เขาจึงรีบหยุดพูด
เผยลี่เชินขมวดคิ้วถามกลับ “อะไรคือไม้กระดาน?”
กู้หลี่เหลียงหัวเราะ “ไม่…ไม่มีอะไร”
เผยลี่เชินเข้าใจความหมายของเขา แต่ขี้เกียจจะสนใจ จึงยกแก้วเหล้าดื่มจนหมดแก้ว
กู้หลี่เหลียงดื่มเหล้าเข้าไปมากจึงพูดจาเพ้อเจ้อไปเรื่อยเปื่อย “เฮ้ บอกตามตรง คุณเป็นคนที่ใส่ใจคนในครอบครัว แต่ทำไมสีหน้าถึงได้ดูเย็นชาขนาดนี้? เหมือนใครติดหนี้คุณไว้งั้น?”
มือที่ถือแก้วเหล้าของเผยลี่เชินหยุดนิ่ง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ใส่ใจใคร? กู้หลี่เหลียง หลายปีที่ผ่านมา คุณเคยเห็นฉันใส่ใจใครเลยไหม?”
“ไม่” กู้หลี่เหลียงยิ้มเฝื่อนเฝื่อน “แต่ตอนนี้ฉันว่าคุณใกล้จะตกหลุมแล้วล่ะ”
ขณะพูดเขาตบที่ไหลของเผยลี่เชิน พร้อมกับสีหน้าเหมือนคนพูดจาเลอะเทอะ “คนอื่นไม่รู้ แล้วฉันต้องไม่รู้ด้วยหรือไง? คุณลงโทษให้เธอไปทำงานที่สิงคโปร์ ไม่ใช่เพื่อปกป้องเธอหรือไง? ตอนนี้เผยซื่อมีเรื่องวุ่นวานมากมายที่คุณต้องจัดการ แต่หลายฝ่ายในบริษัทคอยกดดัน คุณก็ช่างเก่งเหลือเกิน เกิดเรื่องกับเธอขนาดนี้ ก็เลยส่งเธอไปซะ ฉันพูดผิดไหม?”
กู้หลี่เหลียงมองทะลุปรุโปร่ง ยิ้มด้วยความภาคภูมิ
เผยลี่เชินขมวดคิ้ว จ้องมองเขาพร้อมกับคำถาม “ทำไมวันนี้ฉันรู้สึกว่าคุณพูดมาก?”
กู้หลี่เหลียงไม่สนใจ ยังคงพูดต่อ “พนันกันไหม ไม่ต้องรอให้ไป๋เสว่เอ๋อร์กลับมาก่อนหรอก คุณจะบินไปสิงคโปร์หาเธอก่อน!”
เผยลี่เชินเคร่งขรึม ดื่มเหล้าเงียบๆ ภายในสมองนึกถึงแต่ใบหน้าเรียวเล็ก น่ารักของผู้หญิงคนนั้น ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ลืมเธอไม่ลง
พอเห็นเขาไม่พูดไม่จา กู้หลี่เหลียงหัวเราะออกมา “ฮา…ฮา…ฉันเดาถูกใช่ไหม!”
เผยลี่เชินขมวดคิ้ว หันกลับไปมองเขา ลดเสียงลง “ไปเลย!”
“ก็ได้…ก็ได้….ฉันไม่พูดแล้ว”
กู้หลี่เหลียงยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม หยุดสักครู่ สีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงมากแล้ว
กู้หลี่เหลียงพูดแบบสบายอารมณ์ “เรื่องอีเมล์ที่คุณให้ฉันไปสืบ ฉันรู้สึกว่าไม่ได้ใหญ่โต อีเมล์พวกนั้นถูกส่งจากคอมพิวเตอร์ของไป๋เสว่เอ๋อร์ไปหาเสิ่นหรูเฟิงจริง แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีคนอื่นมาใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเธอส่ง?”
คำพูดนี้ของเขาทำให้เผยลี่เชินฉุกคิดขึ้นมา เขาหยุดไปครู่หนึ่ง และตอบกลับทันที “ใช่…ทำไมฉันคิดไม่ถึงนะ!”
เรื่องอีเมล์เผยลี่เชินอยู่ระหว่างความเชื่อใจกับไม่เชื่อใจ เพราะเธอทำให้เขาขาดสติ ตอนนี้พอมาคิดก็มีความเป็นไปได้ที่คนอื่นอาจจะมาใช้คอมพิวเตอร์ของเธอ!
เผยลี่เชินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เมื่อเปิดเครื่องก็พบว่ามีโทรศัพท์จากที่บ้านโทรเข้ามา
เผยลี่เชินรู้สึกไม่สบายใจ รีบโทรกลับบ้านโดยไม่ลังเล