สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 230

ตอนที่ 230

ตอนที่ 230 อย่าหักหลังพี่ชาย

ชายพวกนั้นเห็นเช็คก็หัวเราะแล้วรีบรับปากทันที “มันแน่นอนอยู่แล้ว พวกเรารู้กฎดี” ได้เช็คแล้ว พวกเขาจากไปทันที

เสิ่นหรูเฟิงขึ้นรถด้วยสีหน้าปกติมองไปที่สวี่เยว่หรูพร้อมคำถาม “อยากกินอะไรฉันจะพาไป? หรือจะพาคุณน้าไปด้วยกันก็ได้?”

สวี่เยว่หรูหายใจลึก ดูเหมือนจะมีความกล้ามากขึ้น กัดริมฝีปากพร้อมคำถาม “ทำไมคุณถึงดีกับฉันขนาดนี้?”

ตั้งแต่พ่อของสวี่เยว่หรูทิ้งเธอและแม่ไป ชีวิตความเป็นอยู่ของเธอกับแมก็ลำบากมาก ครั้งแรกที่ถูกทวงหนี้พวกเธอต้องย้ายบ้านหนี้อยู่หลายครั้ง แต่เจ้าหนี้ก็ตามเจอจนได้ ทำลายข้าวของในบ้านเสียหาย ถูกข่มขู่จนกลายเป็นเรื่องปกติ

จนมาถึงตอนที่สวี่เยว่หรูทำงาน มีเงินเดือนประจำ จึงได้ทำข้อตกลงกับเจ้าหนี้ว่าเธอจะใช้หนี้ทุกสามเดือน ชีวิตจึงค่อยๆ ดีขึ้น แต่สุขภาพแม่ไม่ค่อยดี ต้องหาหมอกินยาต้องใช้เงิน ต้องใช้หนี้ แต่เธอคนเดียวก็สามารถยืนหยัดมาถึงตอนนี้

แต่ไหนแต่ไรไม่มีใครมาสนใจเธอ แม้แต่เผยลี่เชินซึ่งเธอมีใจให้ ก็ไม่เคยถามเรื่องทางบ้านเธอ คิดไม่ถึงเสิ่นหรูเฟิงกับช่วยเธอใช้หนี้จนหมด เสิ่นหรูเฟิงยิ้มกว้าง “ที่ฉันจัดการให้เธอ เพราะฉันพูดอย่างไรก็ทำตามที่พูด”

เขาชนะการประมูลมาจากเผยซื่อ ทำให้เสิ่นซื่อได้ประโยชน์มาไม่น้อย แค่ใช้หนี้สองแสนสามหมื่นหยวน สำหรับเขาถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย

สวี่เยว่หรูคิดใคร่ครวญ ไม่พูดอะไรอยู่นาน

เสิ่นหรูเฟิงอ้าปากถาม “เยว่หรู หากพวกเราต้องทำงานร่วมกันอีก เธอคิดว่าไง?”

หาคนแฝงตัวทำงานในเผยซื่อต้องอาศัยคนมีความสามารถ และสวี่เยว่หรูก็มีคุณสมบัตินี้ เขาจะพลาดโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้ได้อย่างไรกัน

“ครั้งก่อนฉันเคยบอกไว้แล้วว่าฉันแค่ช่วยคุณครั้งเดียว ฉันจะไม่หักหลังพี่ชายฉัน” สวี่เยว่หรูขมวดคิ้ว ผลักประตูลงรถ

เสิ่นหรูเฟิงยื่นมือคว้าข้อมือของสวี่เยว่หรูไว้โดยไม่ลังเล “เยว่หรู เธอซื่อตรงต่อเผยลี่เชินขนาดนี้ แล้วเขาล่ะ? สายตาของเขามีแต่ไป๋เสว่เอ๋อร์คนเดียว เธอเองก็รู้ อีกอย่างเขาเคยเห็นความรู้สึกของเธอไหม?”ใจของสวี่เยว่หรูสับสน ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว

เธอจึงเกลียดไป่เสว่เอ๋อร์ แต่เธอไม่คิดหักหลังเผยลี่เชิน

เมื่อเห็นสวี่เยว่หรูยังนิ่งเงียบ เสิ่นหรูเฟิงจึงพูดต่อ “ยิ่งกว่านั้น การทรยศหักหลัง ไม่ทำหรือทำนับครั้งไม่ถ้วน คุณคิดว่าถ้าเขารู้เรื่องหนังสือการประมูลแล้ว จะทำอย่างไร?”

สวี่เยว่หรูอึดอัดใจ สะบัดมือของเขาออก พูดอย่างขุ่นเคือง “ฉันมีวิธีทำให้เขาเชื่อใจฉัน”

เธอพูดจบลงจากรถไม่หันกลับมามองอีกเลย

เสิ่นหรูเฟิงนั่งอยู่ในรถ มองดูเงาของเธอที่จากไปพร้อมขมวดคิ้ว

หลังจากนั้นเขาก็พูดเสียงเบาๆ เขาเชื่อว่าอีกไมนาน สวี่เยว่หรูต้องกลับมาหาเขา

ในพริบตาก็ถึงวันจันทร์เวลาสำหรับการประชุมแลกเปลี่ยน

ไป๋เสว่เอ่อร์ไปสิงคโปร์ครั้งนี้เพื่อเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ ปัจจุบันตลาดในประเทศยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ หากบริษัทเทคโนโลยีในสิงคโปร์อยากร่วมมือกับเผยซื่อ ก็จะทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างได้ประโยชน์มหาศาล

พูดง่ายคือการประชุมครั้งนี้มีตัวแทนและผู้บริหารบริษัทมาเยี่ยมชมนิทรรศการเทคโนโลยี สร้างความประทับใจให้แก่ผู้บริหาร และแสวงหาโอกาสสำหรับความร่วมมือ

ตั้งแต่ไป๋เสว่เอ๋อร์เข้ามาในงานจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่เห็นประธานคนที่เธอต้องพบ เธอรู้สึกร้อนใจ

แต่เสี่ยวจางที่อยู่ข้างๆ เธอพูดอย่างตื่นเต้น “พี่เสว่เอ๋อร์ ดูเครื่องนั้นซิ มันน่าทึ่งมาก!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ยิ้มพร้อมกับถาม “เมื่อคืนที่พี่ให้ข้อมูลเธอไว้ เธออ่านดูรึยัง?”

เสี่ยวจางรีบพยักหน้าตอบรับ “ดูแล้วคะ”

“ไหนลองบอกซิ นี่คืออะไร?”

“คือชิปอัจฉริยะที่บริษัท บีซี คิดค้นขึ้นมา สามารถใช้ในอุปกรณ์สมาร์ทหลากหลาย หลักสำคัญคือใช้พลังงานทดแทนและอุปกรณ์การประมวลผลด้วยตนเอง”

ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้ารับ “ไม่เลว ตอนนี้ตลาดกำลังต้องการซิปอัจฉริยะและถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันของพวกเรา รวมถึงการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การจัดการขยะ การจัดเรียงลำดับอัตโนมัติ เป็นต้น ตอนนี้ตลาดในประเทศต้องการอย่างมาก เพราะเหตุนี้พวกเราจึงต้องร่วมมือกับริษัท บีซี เพื่อคว้าโอกาสนี้ไว้”

เสี่ยวจางพยักหน้ารับ “พี่เสว่เอ๋อร์ พวกเราต้องทำได้”

มีเสียงดังกะทันหันในห้องโถง ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงหันไปมองรอบๆ เห็นชายใส่แว่นตาสีเงินเดินเข้าไปทางฝูงชน และเดินมาทางนี้

ไม่ต้องบอกเลยไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เดาถูก เขาคือเหยียนเฝิงผู้ก่อตั้งบริษัท บีซี อย่างแน่นอน เขาเนชายวัยห้าสิบซึ่งมีอารมณ์ไม่ธรรมดา สีหน้าดูเคร่งขรึม เมื่อได้มองก็รู้ว่าไม่ใช่คนที่จะเข้าใกล้ได้ง่ายๆ

ทุกคนต่างรุมล้อมร่างของเหยียนเฝิง แต่สีหน้าเขายังดูเงียบๆ ไม่มีคำพูดใดๆ ได้แต่เรียกคนบรรยายมาอธิบายหลักการของเครื่องจักร

ไป๋เสว่เอ๋อร์เรียกเสี่ยวจางให้ตามคนบรรยายไป ได้ฟังเกี่ยวกับการทำงานของชิปอัจฉริยะก็เข้าใจมากยิ่งขึ้น

การบรรยายจบลงอย่างรวดเร็ว หลายคนยกแก้วไวน์ไปข้างหน้าเพื่อชนแก้วกับเหยียนเฝิง ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้ว่าเวลานี้ยังไม่เหมาะสม จึงได้แต่อดทนรอ

รอนานมากจนเสี่ยวจางหมดความอดทน เท้าคางถาม “พวกเราต้องรอถึงเมื่อไรถึงจะเข้าไปทักทายเหยียนเฝิง”

ไป๋เสว่เอ่อร์หันไปมองเธอ “ถ้าเธอว่าง ฉันมีงานให้เธอทำ”

เสี่ยวจางเงยหน้า “อะไรคะ?”

ไป๋เสว่เอ๋อร์หันมองไปคนที่พยักหน้าขึ้นลง “เห็นคนจีนคนนั้นไหม? พวกนั้นคือคู่แข่งในการประมูลของเรา เธอไปเอานามบัตรของเขามา พวกเราควรจะรู้ข้อมูลของคู่แข่งบ้าง รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งก็ชนะร้อยครั้ง”

“ได้คะ” เสี่ยวจางรีบลุกขึ้น เดินไปทางนั้น

มองดูเงาของเธอที่มีความมั่นใจ ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงยิ้มมุมปาก พอหันกลับมาอีกทีเธอก็พบว่าคนที่อยู่รอบๆ เหยียนเฝิงแยกย้ายกันไปเกือบหมดแล้ว

โอกาสดีครั้งเดียวในชีวิต ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบลุกขึ้น หยิบแก้วไวน์เดินไปทางนั้น

เหยียนเฝงกำลังพูดคุยกับคนข้างๆ เรื่องชิปอัจฉริยะ ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินไปอีกด้าน ยืนฟังด้วยความสงบนิ่ง

รอจนเหยียนเฝิงพูดจบ ก็หันมาเห็นหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงส่งยิ้มให้เขา เพื่อแสดงความยินดี “ประธานเหยียน ได้ฟังหลักการของคุณแล้ว ฉันรูสึกนับถือในตัวคุณ ความสามารถของชิปอัจฉริยะบริษัทคุณมีหลากหลาย ใช้กับหลากหลายสาขา ทำให้อนาคตดูสดใส”

“ขอบคุณ” เหยียนเฝิงยิ้มให้เธอ จากนั้นก็ละสายตาไป

ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงรีบพูดต่อ “ประธานเหยียน ฉันคือไป๋เสว่เอ๋อร์เป็นตัวแทนจากบริษัทเผยซื่อเมืองไห่เฉิง ที่มาร่วมการประชุมในครั้งนี้ ถ้ามีโอกาส พวกเรายินดีร่วมพูดคุยกับบริษัทของคุณในเรื่องความร่วมมือ”

เหยียนเฝิงหยุดนิ่งสักครู่ แล้วยิ้มให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ “ขอถามหน่อย พวกคุณคิดว่าจะใช้วิธีใดมาจูงใจให้พวกเราร่วมมือกับคุณ? ถ้าหากร่วมมือกับพวกคุณแล้ว บริษัทเราจะได้รายได้สักเท่าไร?”

เขาถามคำนี้ประเภทนี้กับไป๋เสว่เอ๋อร์

เผยซื่อมีความตั้งใจที่จะร่วมมือ แต่กลับยังไม่ได้คิดพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบถึงเรื่องนี้

เห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ตอบคำถามนี้ เหยียนเฝิงจึงหัวเราะ “คุณไป๋ บริษัท บีซี มีทั้งเงินทุน เทคโนโลยี หากไม่ได้ร่วมมือกับใครก็สามารถพัฒนาตัวเองได้ ถ้าร่วมมือกับบริษัทของพวกคุณ คุณจะให้ประโยชน์ที่คุ้มค่าอะไรบ้างแก่พวกเรา

ไป๋เสว่เอ๋อร์ตกตะลึง ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ซึ่งเหยียนเฝิงเดินจากไปแล้ว

แม้ว่าคำพูดของเหยียนเฝิงจะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่คำพูดพวกนั้นก็แฝงไว้ด้วยการปฏิเสธอย่างชัดเจน

กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาไม่ได้ตั้งใจจะร่วมมือกับเผยซื่อ

ไป๋เสว่เอ๋อร์ใจเต้นตุ๊บตับ แล้วก็รู้สึกหายใจไม่ออก

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท