ตอนที่ 233 ไม่คิดจะขอบคุณฉันบ้างเหรอ
ไป๋เสว่เอ๋อฉีกยิ้มให้ หัวเราะเหอะๆ “เปล่านะ ฉันอยู่คนเดียว เมื่อครู่กำลังดูทีวีอยู่!”
ได้ยินเช่นนั้น เสี่ยวจางเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “นี่ พี่เสว่เอ๋อ วันนี้มีแผนต้องทำอะไรบ้าง?”
ตอนนี้งานสมาคมก็จบแล้ว เมื่อวานก็โดนยกเลิกนัดจากผู้ช่วยของเหยียนเผิง พวกเขาจะนั่งว่างอยู่ที่โรงแรมไม่ได้ อีกไม่นานก็ต้องกลับเมืองไห่เฉิงแล้ว แต่ถ้าพวกหล่อนไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย…
เมื่อได้ยินเสี่ยวจางถามขึ้น ไป๋เสว่เอ๋อก็อดไม่ได้ที่จะปวดหัวขึ้นมา “เสี่ยวจาง เธอกลับไปก่อน ฉันขอคิดสักพัก เดี๋ยวจะบอกเธอนะ”
“โอเคค่ะ” เสี่ยวจางพยักหน้า ยื่นอาหารเช้าในมือส่งให้ “พี่เสว่เอ๋อ อาหารเช้าค่ะ!”
“ขอบใจจ้ะ!” ไป๋เสว่เอ๋อยิ้มให้หล่อน ยื่นมือออกไปรับ จากนั้นปิดประตูห้องกลับไปในห้อง
เมื่อเผยลี่เชินออกมาจากห้องน้ำ เห็นในมือของไป๋เสว่เอ๋อถืออาหารเช้าไว้อยู่ สีหน้าเป็นกังวลนั่งลงบนโซฟา ไม่พูดจาอะไร
เขายักคิ้วขึ้น เดินขึ้นไปด้านหน้า “ให้ผมช่วยคุณไหม?”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อวางอาหารเช้าลงด้วยความไม่สบอารมณ์ จากนั้นลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะทำงาน พร้อมเปิดเอกสารของบริษัทBCไปมา
เผยลี่เชินเดินไปยืนข้างหล่อน ยกมือขึ้นเอาผมเกี่ยวหูหล่อน ค่อยๆพูดขึ้น “ดังนั้นคุณก็เลยไม่คิดจะเจรจาเรื่องร่วมงานแล้ว จากนั้นก็กลับบริษัทตระกูลเผยไปขอลาออกงั้นเหรอ?”
ไป๋เสว่เอ๋อเงียบไม่พูดอะไร ตอนนั้นหล่อนคิดวิธีแก้ปัญหาไม่ออก ผ่านไปสักพัก หล่อนหันหลังกลับไปมองเผยลี่เชิน ถามขึ้น “คุณมีวิธีอะไรบ้างไหม?”
เผยลี่เชินยิ้มมุมปาก “แน่นอน”
หลังจากนั้นสิบนาที เผยลี่เชินกดวางสาย “นัดเวลาเรียบร้อย วันนี้เจอกันตอนบ่ายสองถึงสี่โมง”
“จริงหรือเปล่าเนี่ย?” ไป๋เสว่เอ๋อตกใจ หล่อนเคยเจอเหยียนเผิง รู้ดีว่าเขาไม่มีความตั้งใจจะร่วมงานด้วย อีกอย่างผู้ช่วยของเขาเป็นคนหัวโบราณมาก อยากจะขอนัดเวลาไม่ถือว่าเป็นเรื่องง่ายเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนัดเวลาทั้งบ่ายแบบนี้
เผยลี่เชินวางมือถือลง สีหน้าจริงจัง “ก่อนที่จะมาสิงคโปร์ คุณเคยหาเอกสารเกี่ยวกับเหยียนเผิงไหม?”
ไป๋เสว่เอ๋อส่ายหน้า
“ถ้าคุณเคยสืบหาดูก็จะเข้าใจ ว่าเขาเป็นคนอารมณ์แปรปรวน สันโดษเอาแต่ใจ อีกทั้งหากจะพูดคุยเรื่องงานจะต้องพูดคุยกับประธานผู้บริหารเท่านั้น ขนาดรองประธานเขายังไม่ยอมรับเลย ดังนั้นตอนนี้ที่คุณน่าจะเข้าใจแล้วว่าทำไมนัดเขาไปแล้วถึงโดนยกเลิกโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ใช่ไหม?”
ไป๋เสว่เอ๋อคิดลังเลอยู่สักพัก เงยหน้ามองไปที่เผยลี่เชิน “ดังนั้นคุณก็เลยนัดเขาเอง เขาจึงยอม?” เผยลี่เชินพยักหน้า “อื้ม เขาคิดว่าคนที่อยากจะร่วมงานกับBCจริงๆ จะต้องให้ความเคารพเขาอย่างมาก และสามารถมาเจอเขาด้วยตัวเอง”
ไป๋เสว่เอ๋อเข้าใจขึ้นมาทันที
ผ่านไปครู่เดียวก็ถึงเวลาทานข้าว ไป๋เสว่เอ๋อบอกสิ่งที่ต้องทำกับเสี่ยวจาง จากนั้นก็ไปทานข้าวกับเผยลี่เชิน
ต่อมาก็ถึงสถานที่ที่เขานัดกับเหยียนเผิงไว้
เวลาบ่ายสองโมงตรง เหยียนเผิงมาพร้อมกับผู้ช่วยของเขาถึงร้านกาแฟตรงเวลาพอดี
เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อได้เจอกับเผยลี่เชิน ทัศนคติของเหยียนเผิงก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงทันที และยังปฏิบัติต่อไป๋เสว่เอ๋อด้วยท่าทีที่อ้อนน้อมมากเช่นกัน
ใช้เวลาไปครึ่งชั่วโมงกว่า ไป๋เสว่เอ๋ออ่านข้อได้เปรียบและเสียเปรียบบนสัญญาของทั้งสองฝ่ายหนึ่งรอบ สุดท้ายประธานบริษัททั้งสองหารือกันเรื่องรายละเอียดในการร่วมงานต่อ
สองชั่วโมงผ่านไป สัญญาในการร่วมมือระหว่างบริษัทถือว่าเสร็จสิ้นเรียบร้อย ไป๋เสว่เอ๋อคิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องทั้งหมดจะผ่านไปอย่างราบรื่นขนาดนี้ และคิดไม่ถึงเลยว่าจะพูดคุยกับเหยียนเผิงได้อย่างสบายแบบนี้ รีบตัดสินใจเซ็นสัญญาพรุ่งนี้เช้าทันที
การพูดคุยเจรจาเต็มไปด้วยความชื่นชมยินดี เผยลี่เชินกับไป๋เสว่เอ๋อกล่าวลาเหยียนเผิง จากนั้นก็ขึ้นรถเดินทางกลับ
เพิ่งขึ้นไปบนรถ ไป๋เสว่เอ๋อถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก้อนหินก้อนใหญ่ที่กดทับใจของหล่อนไว้หายไปในพริบตา
เผยลี่เชินมองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อด้วยสีหน้าเรียบเฉย ยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย ถามขึ้น “ไม่คิดจะขอบคุณผมหน่อยเหรอ?”
เขารีบเดินทางไกลมาที่นี่ ช่วยหล่อนแก้ไขปัญหาการเจรจาร่วมมือระหว่างบริษัทได้อย่างราบรื่น ยังไงก็คงคุ้มกับการได้จูบสักครั้งไหม? ไป๋เสว่เอ๋อตะลึง หันหน้าไปมองเผยลี่เชิน “ควรจะเป็นคุณที่ต้องขอบคุณฉันรึเปล่า?”
เผยลี่เชินได้ยินเช่นนั้น ยิ้มมุมปากขึ้นมาด้วยความไม่เข้าใจหล่อน ส่ายหน้าพูดขึ้น “ช่างเถอะ กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ผมจะพาคุณไปทานข้าว”
เมื่อกลับถึงโรงแรม เผยลี่เชินกลับถึงห้องก็ถอดเสื้อสูทออกทันที จากนั้นก็เริ่มถอดเสื้อเชิ้ต
ไป๋เสว่เอ๋อตะลึง “คุณ…ทำอะไรน่ะ?”
“เปลี่ยนเสื้อ” เผยลี่เชินพูดพลาง ปลดกระดุมเสื้อทั้งหมดออก
ไป๋เสว่เอ๋อรีบเบี่ยงสายตาออก รู้สึกลำบากใจพลางเดินไปที่ระเบียง หันหลังให้ห้องนอนรอจนกว่าเขาจะเปลี่ยนเสร็จ
เดิมทีเผยลี่เชินวางแผนการมาทำงานที่สิงคโปร์ครั้งนี้ไว้ว่า นอกจะจากมาทำงานแล้ว เขายังสามารถพาหล่อนเที่ยวพักผ่อนได้สองสามวัน ในกระเป๋าเดินทางมีชุดลำลองใส่เที่ยวอยู่สักหน่อย วันนี้ทำงานเสร็จแล้ว เขาก็อยากที่จะเปลี่ยนไปชุดใส่สบายๆ
กวาดสายตามองไปรอบๆ เผยลี่เชินบังเอิญมองไปเห็นกล่องสวยงามเล็กๆบนโต๊ะ เหมือนเป็นกล่องของขวัญที่ใส่เนกไทด์ไว้ เขาลังเลอยู่สักพัก ยกขึ้นมาเปิดออกดู ข้างในเป็นเนกไทด์หนึ่งเส้นจริงๆด้วย
พื้นสีน้ำเงิน ตัดกับลายเส้นสีขาว ดูเรียบหรู เขาชอบมาก
เผยลี่เชินเงยหน้าขึ้น มองไปที่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงระเบียง เขารู้สึกอบอุ่นใจ เดินตรงไปหาหล่อนทันที
เมื่อได้ยินเสียงฝีก้าวเดินเข้ามา ไป๋เสว่เอ๋อที่กำลังจะหันหลังกลับมา จู่ๆก็รู้สึกว่าเอวโดนจับไว้ หล่อนถูกใครบางคนโอบกอดแน่นจากด้านหลัง
มือข้างหนึ่งยื่นออกมา ในมือถือกล่องเล็กๆใบหนึ่งไว้ “นี่ให้ผมเหรอ?”
ไป๋เสว่เอ๋อมองจดจ่อไปที่สิ่งนั้น จึงจะเห็นได้ชัดเจนว่าของที่อยู่ในมือของฝ่ายชายคือเนคไทต์ที่หล่อนเพิ่งซื้อตอนไปเดินชอปปิ้งกับเสี่ยวจางตอนมาถึงสิงคโปร์ หล่อนไม่ชอบใจ รีบยื่นมือไปแย่งมา “ไม่ใช่…ไม่ได้ให้คุณซะหน่อย!”
แม้ว่าจะพูดออกมาแบบนี้ แต่จู่ๆใบหน้าของหล่อนร้อนวูบวาบขึ้นมาทันที
เผยลี่เชินก้มหน้าลง มองดูใบหน้าแดงก่ำของหญิงสาว อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปากขึ้น โน้มตัวลงไปกระซิบถามข้างหูหล่อนอีกครั้ง
“พูดจริงเหรอ?”
เสียงของไป๋เสว่เอ๋อสูงขึ้น ราวกับกำลังปิดบังอะไรในใจอยู่ “ใช่ค่ะ!”
เมื่อพูดจบ หล่อนก็หันหลังกลับไป กำลังจะเดินอ้อมหลังเผยลี่เชิน แต่ใครจะไปคิดว่าจู่ๆเขาจะผายมือทั้งสองออกขวางทางหล่อนไว้
เขาย้อนถามขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา “งั้นคุณบอกมาสิ ว่าคุณจะให้ใคร?”
ใบหน้าของไป๋เสว่เอ๋อแดงฉาด เงียบอยู่นาน ก็ไม่สามารถหาคนที่เหมาะสมได้ คนรอบข้างหล่อน นอกจากเผยลี่เชินแล้วก็ไม่มีผู้ชายคนอื่นอีก
เมื่อเห็นว่าไป๋เสว่เอ๋อไม่ยอมพูดอะไร เผยลี่เชินจึงยื่นมือออกมา แย่งกล่องในมือหล่อนไป พูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา “ของแบบนี้ คุณให้ผมได้เพียงคนเดียว เข้าใจไหม?”
เขาพูดพลาง ก้มหน้าลง บรรจงจูบลงไปบนแก้มของหล่อน จากนั้นก็หันหลังกลับไปทันที เดินตรงเข้าห้องไป
ไป๋เสว่เอ๋อยังหยุดยืนอยู่ที่เดิม ราวกับถูกฝังยึดไว้ ไม่ขยับไปไหน
ทำไมหล่อนถึงรู้สึกว่า หล่อนถูกเผยลี่เชินลวนลามล่ะ?
หลังจากที่เปลี่ยนชุดเสร็จ เผยลี่เชินก็พาไป๋เสว่เอ๋อไปทานข้าวที่ร้านอาหารใกล้ๆ เมื่อทานไปได้เพียงครึ่งเดียว ก็มีโทรศัพท์ดังขึ้นมา
เมื่อเขารับสาย สีหน้าของเผยลี่เชินก็ดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าคู่สายรายงานเรื่องอะไร เขาขมวดคิ้วแน่น เงียบไม่พูดอะไร
หลังจากนั้นไม่นาน เผยลี่เชินก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ผมจะรีบกลับไป คุณจัดการไปก่อน”
เมื่อเขาเก็บมือถือลง ไป๋เสว่เอ๋ออดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “ทำไมเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่า?”
ช่วงนี้หล่อนอยู่ที่สิงคโปร์ หล่อนจึงไม่ค่อยรู้เรื่องภายในบริษัท ตอนนี้เพียงแค่มองสีหน้าของเผยลี่เชิน น่าจะเป็นเพราะบริษัทมีปัญหาเกิดขึ้นอีกแล้ว
เผยลี่เชินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ยังคงเป็นเรื่องหั้นต๋าสแควร์ ได้เจรจาแนวทางแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว แต่มีผู้ประกอบการบางรายไม่เห็นด้วย”
เงียบไปสักพัก ไป๋เสว่เอ๋ออดไม่ได้ที่จะถามขึ้นอีก “แล้วเรื่องเอกสารการประมูล ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”