ตอนที่ 235 หรือว่าท้อง
เหมือนรู้สึกว่ายังระบายอารมณ์ออกมาไม่สุด สวี่เยว่หรูจึงหยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้น ซัดลงไปบนพื้นเต็มแรง
เดิมทีหล่อนคิดว่าจะฉวยโอกาสเรื่องเอกสารประมูลขับไล่ไป๋เสว่เอ๋อออกจากบริษัทตระกูลเผย แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า หลังจากที่ให้ไปคุยธุรกิจที่สิงคโปร์ หล่อนกลับมาเดินลอยหน้าลอยตายิ้มแย้มในบริษัทได้ เหมือนคนที่ไม่เป็นอะไร!
ไม่สิ…เผยลี่เชินบอกว่าจะไปต่างประเทศช่วงสองวันนี้ วันนี้เขากลับมาด้วยกันกับไป๋เสว่เอ๋อ หรือว่า…หรือว่า เขาไปสิงคโปร์มา?
หลังจากที่สวี่เยว่หรูทำความเข้าใจกับเรื่องราวทั้งหมด หล่อนจึงจะเข้าใจขึ้นมา ที่แท้เผยลี่เชินไปหาไป๋เสว่เอ๋อ! มิน่าล่ะดูหล่อนทำท่าทางภูมิใจกับความสำเร็จในการคุยงานขนาดนั้น!
สวี่เยว่หรูยิ่งคิดยิ่งแค้น กำหมัดแน่น โกรธจนสีหน้าแดงฉาด
ตั้งแต่มหาวิทยาลัยถึงตอนนี้ หล่อนชอบเผยลี่เชินมาโดยตลอด แต่เผยลี่เชินกลับไม่เคยเห็นหล่อนอยู่ในสายตา ตอนนี้เมื่อมีไป๋เสว่เอ๋อเข้ามา ราวกับจะกดหล่อนลงไปให้จมมิด เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?
สุดท้าย สวี่เยว่หรูรีบคว้ามือถือบนโต๊ะ กดเบอร์โทรออก
ไม่นานนัก มีเสียงดังจากฝั่งคู่สาย น้ำเสียงขำขัน “คิดถึงฉันแล้วเหรอ?”
สวี่เยว่หรูสูดหายใจเข้าลึก กลั้นหายใจครู่หนึ่ง นิ่งไปสักพัก ในที่สุดก็กัดปากพูดออกมา “ฉันยินยอม ร่วมงานระยะยาว”
อยู่ในออฟฟิศไม่นานนัก ฉีเฟิงก็เข้ามาหาข่าวไป๋เสว่เอ๋อ “เลขาไป๋ ประธานเผยบอกว่าจะกลับบ้าน ให้คุณเตรียมตัวเก็บของ”
“โอเคค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อพยักหน้า รีบเก็บของ ลุกขึ้นเดินออกไป
แต่ก็ไม่ใช่ว่าจัดการงานทั้งหมดเสร็จแล้ว แต่ตอนนี้หล่อนง่วงไม่ไหวแล้ว อยากจะกลับบ้านไปอาบน้ำและนอนพักดีๆ
หล่อนกลับบ้านพร้อมกับเผยลี่เชิน ป้าจางรีบยิ้มต้อนรับทันที “ประธานเผย คุณไป๋ ในที่สุดพวกคุณก็กลับมา สองวันมานี้ไม่มีใครอยู่บ้าน รู้สึกเงียบเหงาไปมากเลยค่ะ!”
ไป๋เสว่เอ๋อยิ้มให้ป้าจาง เอ่ยปากถามขึ้น “ป้าจาง มีข้าวต้มไหมคะ?”
“มีจ้า! มีข้าวต้มฟักทอง เดี๋ยวป้าไปตักมาให้นะคะ คุณเผยรับด้วยไหมคะ?”
เผยลี่เชินนานๆทีจะอารมณ์ดีแบบนี้ จากนั้นก็พยักหน้าลง
ป้าจางรีบหันหลังเดินเข้าไปในห้องครัว ตักข้าวต้มสองถ้วยออกมา “ว้าว! ในที่สุดคุณเผยก็ยอมทานข้าวสักที ก่อนหน้าที่เขาจะไปสิงคโปร์ ไม่ยอมทานอะไรเลย ดื่มแต่น้ำ ป้ากังวลใจมากเลย!”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ป้าจางเผลอพูดออกมา ไป๋เสว่เอ๋อตกตะลึง หันไปมองเผยลี่เชิน และมองไปที่ป้าจาง ถามขึ้น “เขาไม่ทานข้าว? ทำไมล่ะคะ?”
ป้าจางกำลังจะพูดตอบ แต่รู้สึกถึงสายตาที่เผยลี่เชินมองมา จึงยิ้มและรีบปิดปากเงียบ
ไป๋เสว่เอ๋อเหลือบมองเผยลี่เชิน จากนั้นหันไปมองป้าจาง “ป้าจาง ไม่เป็นไรค่ะ พูดออกมาได้เลย”
ดูเหมือนป้าจางจะเกรงกลัวเผยลี่เชิน พูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มต่ำ “คุณท่านเขาเป็นห่วงคุณไป๋ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ดูไม่มีความสุขเลย..”
“หื้ม!” เผยลี่เชินขมวดคิ้ว กระแอมออกมาขัดคำพูดป้าจาง “ป้าจาง ไปเอาอาหารมาเพิ่มหน่อย”
ป้าจางรีบตอบรับทันที จากนั้นก็หันหลังกลับไปที่ห้องครัว
ตอนแรกไป๋เสว่เอ๋อไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่่ แต่ดูจากท่าทีของเผยลี่เชินแล้ว หล่อนอดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปากขึ้น
“ยิ้มอะไร?” เผยลี่เชินวางช้อนน้ำซุปลง ขมวดคิ้วถามขึ้น
“เปล่าค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อแสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในใจกลับมีความสุขมาก
แอบยิ้มอยู่คนเดียว หล่อนก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเผยลี่เชินอีก ยักคิ้วถามขึ้น “ที่แท้คุณก็เป็นห่วงฉันขนาดนั้นเลย?”
เผยลี่เชินท่าทางติดๆขัดๆทำอะไรไม่ถูก สีหน้าจริงจังขึ้นมา เหมือนกำลังใช้ความคิดในการตอบ จากนั้นพยักหน้าลง
“อื้ม”
เหมือนได้ยินคำตอบที่ชัดเจน ไป๋เสว่เอ๋อดีใจจนยิ้มไม่หุบ ใบหน้าของหล่อนปรากฏรอยยิ้มและความดีใจขึ้น
ทันใดนั้น หล่อนก็รู้สึกว่าเอวถูกจับไว้แน่น เมื่อหันหลังกลับไป เพิ่งพบว่าเผยลี่เชินลากเก้าอี้มานั่งข้างหล่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มือข้างหนึ่งของเขาโอบเอวหล่อนไว้
“คุณเป็นห่วงผมไหม?” สีหน้าเผยลี่เชินจริงจัง
ไป๋เสว่เอ๋อลังเลอยู่ครู่นหนึ่ง พยักหน้าลงอย่างมึนๆ
หล่อนยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดอะไร จู่ๆหน้าของหล่อนก็ถูกบดบังด้วยความมืด ฝ่ายชายประทับรอยจูบลงบนริมฝีปากของหล่อน ด้วยความหื่นกระหาย
“คุณไป๋คะ ทานซาลาเปาถั่วแดงไหมคะ?” ป้าจางถามพลาง เดินออกมาจากห้องครัว เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็น เหตุการณ์ตอนนี้ รีบหยุดเดินและหันหลังกลับไปในครัวทันที
ไป๋เสว่เอ๋อทำท่าทีเสมือนโดนไฟดูด รีบผลักเผยลี่เชินออก แก้มของหล่อนแดงก่ำ จากนั้นรีบหันกลับไป
“เอ่อ…ฉัน ฉัน…ทานค่ะ”
ไม่ว่ายังไง ป้าจางก็ถือเป็นผู้ใหญ่ หล่อนกับเผยลี่เชินทำแบบนี้ต่อหน้าป้า…ดูไม่เหมาะสมเลยจริงๆ
ไป๋เสว่เอ๋อยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นจากทางด้านข้าง “ป้าจาง เอาอาหารไปส่งข้างบนนะครับ พวกเราไปทานบนห้องนอน”
เขาพูดพลาง ดึงมือของไป๋เสว่เอ๋อขึ้นไปข้างบน
สีหน้าของไป๋เสว่เอ๋อแดงขึ้นมาก ใครจะไปรู้ว่าเขาจะกลับห้องนอนไปทำอะไร!
“ไม่…ไม่ต้อง”
ไป๋เสว่เอ๋อกำลังจะบอกปฏิเสธ แต่กลับถูกฝ่ายชายกอดไว้ในอ้อมอก กึ่งดึงดึ่งลากขึ้นบันไดไป
ป้าจางฝืนยิ้ม รีบหยิบถาดมาใส่ข้าวต้มและซาลาเปาถั่วแดง ขึ้นไปส่งด้านบน
ประตูดัง “ปั้ง” ปิดล็อค ไป๋เสว่เอ๋อมองดูข้าวต้มและซาลาเปาถั่วแดงบนโต๊ะเครื่องแป้ง ไม่ทันได้ตั้งตัว เงยหน้าขึ้นมาก็เห็นเผยลี่เชินกำลังปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกภายในเงากระจก
หล่อนรีบหันหลังด้วยความตื่นตกใจ “คุณ…จะทำอะไร!”
เผยลี่เชินยิ้มมุมปาก น้ำเสียงแหบแห้งฟังดูไม่คุ้นหู เดินเข้าไปใกล้ชิดหล่อน “แน่สิ ผมต้องกินคุณก่อน”
ไป๋เสว่เอ๋อเย็นวาบที่หลังขึ้นมาทันที หล่อนเข้าใจแล้ว ว่าคืนนี้ คงไม่รอดแน่….
เหมือนที่คิดไว้ เช้าวันต่อมา เมื่อไป๋เสว่เอ๋อตื่นขึ้น รู้สึกว่าขาอ่อนแรง ไม่มีแรงยืน ปวดบวมไปทั้งขา เมื่อเดินหนึ่งก้าวก็เจ็บหนึ่งครั้ง
“เผยลี่เชิน…” ไป๋เสว่เอ๋อกัดฟัน อยากที่จะพูดบ่นเขา แต่จู่ๆหล่อนก็คิดกลับคำพูด ไม่กล้าพูดอะไร
ถ้าเขาได้ยินขึ้นมา เกรงว่าครั้งต่อไปคงโดนหนักกว่านี้
หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ไป๋เสว่เอ๋อเดินลงมาด้านล่าง เห็นเผยลี่เชินนั่งจิบกาแฟอยู่บนโต๊ะอาหารอยู่แล้ว มือถือที่ตั้งอยู่ด้านข้างเปิดรายงานข่าวเศรษฐกิจไว้
เมื่อได้ยินเสียงก้าวลงบันได เขารีบหยิบนมร้อนไปตั้งไว้ฝั่งตรงข้าม
ไป๋เสว่เอ๋อนั่งลง ป้าจางนำไข่ดาวและปีกไก่ออกมาเสิร์ฟพอดี
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณไป๋”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ป้าจาง” ไป๋เสว่เอ๋อเพิ่งจะยิ้มทักทายเสร็จ กำลังจะเริ่มทานอาหารเช้า เมื่อเห็นปีกไก่ในจาน รู้สึกพะอืดพะอม อยากจะอาเจียนออกมา
หล่อนหน้าถอดสี ยกมือขึ้นปิดปากฝืนไว้
ป้าจางรีบถามขึ้น “คุณไป๋เป็นอะไรไปคะ?”
เมื่อเผยลี่เชินเห็นปฏิกิริยาของหล่อน รีบขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
“ไม่เป็นไรค่ะๆ….เหมือนว่าไม่ค่อยสบายท้องเท่าไหร่ค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อรีบปัดมือไปมา
“ป้าไม่ได้ใส่น้ำมันเยอะนะ…” ป้าจางตกใจ รีบเก็บจานตรงหน้าของไป๋เสว่เอ๋อออกไป
“เกิดอะไรขึ้น?” สีหน้าของเผยลี่เชินนิ่งขรึม
“หรือว่า…” ป้าจางทั้งตกใจทั้งดีใจ พูดมาครึ่งหนึ่งแล้วเงียบไป
“อะไร?” เผยลี่เชินหันหน้ามองป้าจาง
ป้าจางกระอึกกระอัก “หรือว่าท้องคะ?”
ไป๋เสว่เอ๋อได้ยินเช่นนั้น ตกใจสุดขีด รีบปัดมือโบกไปมา “ฉันก็แค่ไม่สบายท้อง น่าจะเป็นเพราะทานอาหารที่สิงคโปร์ไม่ค่อยถูกปาก ช่วงนี้ท้องไม่ค่อยดีเท่าไหร่่”
แม้ว่าหล่อนจะพูดแบบนั้น แต่เผยลี่เชินกลับคิดว่าคำพูดที่ป้าจางพูดขึ้นเป็นความจริง เขาพูดขึ้นด้วยเสียงนิ่งขรึม “ดื่มนมให้หมด ผมพาคุณไปตรวจที่โรงพยาบาล