ตอนที่ 251 ความลับสีดำที่ถูกเปิดเผย
เมื่อเสี่ยวจางกับเสี่ยวหลิวถูกไป๋เสว่เอ๋อร์ถามเข้าแบบนั้น ทั้งสองคนก็สะดุ้งโหยงในทันที พวกเธอรีบหมุนตัวหันหลังกลับมา และรีบยกมือขึ้นมาตบเบาๆ ที่หน้าอก “กลัวแทบตายเลย!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา และถามแกมหยอกกลับไปว่า “ก็ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมจะต้องกลัวขนาดนี้ด้วยล่ะ”
“หนูนึกว่าเป็นท่านประธานเผยน่ะสิคะ! ตกใจจนขนลุกเลยเนี่ย!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์หัวเราะ และยังถามต่อไปว่า “เมื่อกี้พวกเธอกำลังคุยอะไรกันอยู่เหรอ”
ในตอนแรกนั้นเธอเองก็ไม่ได้อยากรู้อยากเห็นอะไรมากนัก แต่เมื่อได้ยินชื่อที่คุ้นเคยดังขึ้นมาในช่วงหลัง ก็อดไม่ได้ที่เธอรู้สึกอยากจะเอ่ยปากถามออกไป
“พี่ พี่ยังไม่รู้เหรอคะ ภรรยาของรองประธานเผย ดาราสาวชื่อดังจินจิงจิงผู้ยิ่งใหญ่ วันนี้เธอถูกคนออกมาแฉความลับฉาวโฉ่เต็มไปหมดเลยค่ะ! พี่ลองเข้าไปดูในเวยโป๋สิคะ รับรองว่าพี่จะต้องอึ่งทึ่งตะลึงตกใจจนอ้าปากค้างแน่นอนเลยค่ะ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็มองไปที่เสี่ยวจางด้วยความรู้สึกขบขันเล็กน้อย “พูดเวอร์เกินไปหรือเปล่า”
“ไม่เวอร์เกินไปเลยสักนิดเดียวค่ะ เรื่องจริงล้วนๆ !”
“โอเคๆ เดี๋ยวถ้าฉันมีเวลาจะลองเช็กดู ไว้เลิกงานแล้วเราค่อยมาคุยกัน แต่ว่าอย่าให้ท่านประธานเผยได้ยินเชียวล่ะ!”
ขณะที่ไป๋เสว่เอ๋อร์พูดอยู่นั้น เธอก็หมุนตัวหันหลังและเดินเข้าไปยังห้องทำงานของตัวเอง
เธอนั่งลงที่โต๊ะทำงานในห้อง และอดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและดูด้วยตาของตัวเอง
อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด ข่าวคราวที่เกี่ยวกับจินจิงจิงกลายเป็นข่าวฮิตติดเทรนด์และมีผู้คนเข้ามาค้นหาเป็นจำนวนมาก ระดับความนิยมไม่มีตกเลยสักนิดเดียว
ในตอนแรกที่จินจิงจิงเปิดตัวเดบิวต์เข้าวงการและยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าไรนัก เธอก็เคยคบอยู่กับบรรดาผู้นำทางธุรกิจชื่อดังอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว เห็นได้ชัดว่าภาพถ่ายที่ถูกถ่ายเอาไว้ได้นั้นล้วนเป็นตอนที่เธอเพิ่งจะเข้าวงการใหม่ๆ ทั้งนั้น คุณภาพของภาพถ่ายอยู่ในระดับปานกลาง แต่ว่าก็สามารถมองออกอย่างเห็นได้ชัดว่าทั้งหมดนั้นคือจินจิงจิงอย่างแน่นอน
เมื่อข่าวนี้ถูกแฉออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากรู้สึกไม่พอใจและผิดหวังกับภาพที่ได้เห็นในทันที ภาพในอดีตของจินจิงจิงที่เต็มไปด้วยคนคุ้นตายิ่งก่อให้เกิดกระแสในด้านลบ และเมื่อรวมกับที่เธอเพิ่งแต่งงานกับเผยอี้ไปเมื่อไม่นานมานี้ ก็ยิ่งทำให้ความสงสัยใคร่รู้ของสาธารณชนโหมกระหน่ำมากขึ้นไปอีกด้วย
“โครม!”
ภายในห้องทำงานของรองประธาน เผยอี้เตะอัดตู้เก็บเอกสารที่วางอยู่ข้างๆ เข้าไปอย่างเต็มแรงด้วยความโกรธจัด เมื่อเสียงโครมดังขึ้น ตู้เก็บเอกสารก็ล้มลงมากองอยู่ที่พื้นเสียแล้ว
ฟางลู่ เลขาของเผยอี้ยื่นอยู่ที่หน้าประตู เอ่ยปากกระซิบเพื่อที่จะโน้มน้าวเขาว่า “ท่านรองประธานคะ ท่านอย่าโกรธไปเลยค่ะ…”
“ไม่ให้โกรธอย่างนั้นเหรอ ผมจะไม่โกรธได้อย่างไรกันล่ะ!” เผยอี้พูดขึ้นมาด้วยความโมโห “รีบไปตรวจสอบมาให้ผมเลยว่าภาพถ่ายพวกนี้เป็นของจริงหรือของปลอม! แล้วใครเป็นคนเอามันออกมาปล่อยกัน!”
ฟางลู่รู้สึกกลัวอย่างมากจนไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปอีก เธอรีบตกปากรับคำและเริ่มหาตัวคนปล่อยข่าวนั้นในทันที
เผยอี้โกรธจัดจนคุมตัวเองแทบไม่อยู่ เขาเดินวนไปวนมาอยู่ภายในห้องทำงานที่แสนรกและไม่เป็นระเบียบ ในที่สุด เขาก็เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา และกดโทรออกไปที่เบอร์ของจินจิงจิง
โทรศัพท์ดังอยู่เป็นเวลานาน แต่กลับไม่มีใครรับสายเลยสักนิดเดียว มือของเผยอี้กำโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือเอาไว้แน่น เมื่อเขากดวางสาย และกดโทรออกไปที่เบอร์เดิมอีกครั้ง
เมื่อไม่มีใครรับสายเช่นเดิม เผยอี้โกรธจัดจนวางมือถือกระแทกเข้ากับโต๊ะที่อยู่ข้างหน้าในทันที
เขาก็ตะโกนเรียกชื่อจินจิงจิงด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด “จินจิงจิง! ผมประเมินคุณไว้ต่ำกว่าที่คิด!”
จากนั้น เขาก็ก้าวขาออกไป และเดินข้ามบริเวณโต๊ะทำงานที่แสนวุ่นวาย และออกไปยังด้านนอก
เผยอี้รีบขับรถกลับไปยังคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว โดยที่เส้นทางทั้งสองข้างของถนนนั้นแล่นผ่านไปราวกับสายฟ้า เขาเบรครถอย่างกะทันหัน เขานำรถเข้าไปจอดไว้ที่บริเวณสวนในคฤหาสน์ และเดินลงจากรถมาด้วยความโกรธจัด
ดูเหมือนว่าบรรดาคนรับใช้ต่างคาดการณ์เอาไว้แล้วว่าเผยอี้จะกลับบ้านมาอย่างแน่นอน พวกเขาทุกคนจึงยืนออกันอยู่ที่ด้านหน้าประตูบ้าน พร้อมกับเอ่ยปากเกลี้ยกล่อมเขาว่า “คุณผู้ชายคะ คุณผู้ชายใจเย็นลงก่อนนะคะ คุณผู้หญิงท่านร้องไห้อยู่ในห้องนอนตลอดทั้งเช้าวันนี้เลยนะคะ…”
“ถอยไป!” เผยอี้โบกมือ และผลักคนรับใช้ที่อยู่ตรงหน้าเขาออกไปอย่างเต็มแรง
“คุณผู้ชายคะ อย่าโมโหไปเลยค่ะ…”
บรรดาคนรับใช้ต่างเดินไปขวางหน้าเขาไว้ทีละคนๆ เห็นได้ชัดว่าจินจิงจิงได้สั่งการพวกเขาเอาไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าตอนนี้เผยอี้นั้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จนไม่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลยแม้แต่สักนิดเดียว
“ใครกล้าขวางทางฉัน! ฉันจะไล่มันออกเดี๋ยวนี้!”
เมื่อเผยอี้ตะโกนออกไปแบบนั้น บรรดาคนรับใช้ที่ยืนเป็นแถวกันอยู่ทั้งสองข้างต่างก็ชะงักไปครู่หนึ่ง และไม่กล้าไปยืนข้างหน้าขวางทางเขาอีกต่อไป
เผยอี้โกรธจัดราวกับระเบิดที่พร้อมจะทำลายล้างได้ทุกเมื่อ เมื่อเขาเดินไปถึงยังหน้าประตูห้องนอน เขาก็เตะประตูเข้าไปเต็มรักเพื่อเปิดประตู “จินจิงจิง!”
เมื่อเขาเห็นจินจิงจิงในสภาพที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายหายใจไม่ออกและลงไปกองอยู่ที่พื้นนั้น ความโกรธจัดของเผยอี้ไม่เพียงแต่จะไม่ลดลง แต่เขากลับยิ่งรู้สึกหัวร้อนโกรธจัดมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
“จินจิงจิง! คุณนี่มันต่ำตมไม่พอจริงๆ ! ทำไมผมถึงไม่รู้ว่าคุณเคยมีอดีตที่หรูหราขนาดนี้!”
ขณะที่เผยอี้พูดอยู่นั้น เขาก็ก้มตัวลงและคว้าคอเสื้อของจินจิงจิงขึ้นมา พร้อมกับกับดึงร่างของเธอที่นั่งกองอยู่กับพื้นให้ลุกขึ้นยืน
“เผยอี้… ฉันทำผิดไปแล้ว สำหรับคุณแล้ว ฉันจริงใจกับคุณจริงๆ นะ……”
จินจิงจิงยกมือขึ้น และพยายามผลักมือของเผยอี้ออกไป แต่ทว่าทันใดนั้น ชายหนุ่มก็ใช้แรงของเขา ผลักหญิงสาวเข้าไปติดกับกำแพงห้อง มือขนาดใหญ่ของเขากำอยู่ล้อมรอบคอของเธอ
“เผยอี้……”
จินจิงจิงหายใจไม่ออกใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ แม้แต่คำเพียงคำเดียวก็ไม่อาจที่จะพูดอะไรออกมาได้
เมื่อคนรับใช้คนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูห้อง เห็นหญิงสาวในสภาพนี้เข้า คนรับใช้ก็รีบพูดออกมาในทันทีว่า “คุณผู้ชายอย่าทำแบบนี้ค่ะ! คุณผู้หญิงท่านกำลังท้องลูกของคุณอยู่นะคะ!”
ทันใดนั้น ใบหน้าของเผยอี้ก็เคร่งเครียดมากขึ้นทันที ต่อมาเขาก็ค่อยๆ คลายมือที่กำรอบคอของจินจิงจิงลงอย่างช้าๆ
เท้าของจินจิงจิงอ่อนแรงลงในทันที ร่างกายของเธอค่อยๆ ทรุดตัวลงจนลงมานั่งกองอยู่กับพื้นในที่สุด พร้อมกับหอบอย่างรุนแรงโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุด “เผยอี้…ตั้งแต่ที่เราอยู่ด้วยกันมานี้ ฉันไม่เคยทำอะไรที่ทำให้คุณต้องรู้สึกเสียใจเลยสักครั้งนะ…”
ขณะที่เธอกำลังพูดอยู่นั้น เธอก็ร้องไห้และเอื้อมมือออกไปกอดขาของเผยอี้เอาไว้ “เผยอี้… ฉันจริงใจกับคุณจริงๆ นะ ในอดีตที่ฉันเคยทำแบบนั้นไป ฉันไม่ได้สมัครใจทำแบบนั้นเลยนะ!”
“คุณเองก็รู้ดีนี่คะ ว่าวงการบันเทิงมันซับซ้อนมากแค่ไหน ฉันเพิ่งเข้าวงการมาใหม่ๆ เงินก็ไม่มี คนสนับสนุนก็ไม่มี การจะเติบโตได้นั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก… ฉันทำคนเดียวไม่ไหวหรอกค่ะ……”
เธอพลางร้องไห้พลางปาดน้ำมูกและน้ำตาที่ไหลออกมา พร้อมกับกอดขาของเผยอี้เอาไว้แน่นโดยไม่คิดที่จะปล่อยมือออกเลยแม้สักนิดเดียว
สีหน้าของเผยอี้นั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ดวงตาทั้งสองข้างของเขาราวกับจะลุกเป็นไฟอยู่ตลอดเวลา เขากำหมัดของเขาเอาไว้แน่น และหักข้อนิ้วของเขาอย่างต่อเนื่อง
ความจริงแล้ว เขาคิดใคร่ครวญมาสักพักใหญ่แล้วว่า การที่จินจิงจิงอยู่ในวงการบันเทิงนั้น เธอจะมีประวัติที่ใสสะอาดได้อย่างไรกัน
แต่ทว่าความโกรธจัดเหล่านั้นที่อัดแน่นอยู่ในหัวใจของเขาก่อนหน้านี้ ก็ไม่อาจจะถูกลบเลือนอกไปจากใจได้
จินจิงจิงร้องไห้อย่างเงียบๆ “เผยอี้คะ ฉันขอร้อง… คุณช่วยยกโทษให้ฉันสักครั้งได้ไหมคะ ตอนนี้ฉันแค่อยากที่จะอยู่กับคุณและใช้ชีวิตในแต่ละวันร่วมกัน เลี้ยงดูลูกน้อยของเราที่กำลังจะเกิดมาให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่…….”
“ปล่อยผม!” สีหน้าของเผยอี้อึมครึมมากจนน่ากลัว “ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก!”
“ไม่นะ เผยอี้…… ฉันขอร้องล่ะ ครั้งนี้ ยกโทษให้ฉันเถอะนะคะ……”
จินจิงจิงกอดต้นขาของเผยอี้เอาไว้แน่นไม่ปล่อยมือ แต่เผยอี้นั้นโกรธจัดมาก เขาก้าวเท้าออกไป เพื่อที่แยกมือของเธอทั้งสองข้างออกจากกัน
เมื่อแยกมือทั้งสองข้างของเธอออกจากกันได้แล้ว เผยอี้ก็เดินไปที่ประตูเพื่อออกไปอย่างไม่ลังเล
ขณะที่เขาเดินไปถึงบริเวณหน้าบันได เสียงของคนรับใช้ก็ดังขึ้นมาจากในห้องนอน “แบบนี้แย่แน่ๆ ! คุณผู้หญิงเป็นลมไปแล้วค่ะ!”
เผยอี้ขมวดคิ้วแน่น เขากำหมัดเอาไว้แน่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะหมุนตัวหันหลังกลับไป และรีบสาวเท้าเดินกลับเข้าไปที่ห้องนอน
คนรับใช้อุ้มจินจิงจิงไปวางอยู่บนเตียงนอน น้ำตาของเธอยังคงเลอะเปื้อนใบหน้าอยู่แบบนั้นโดยที่ไม่มีใครเช็ดออกให้ สภาพของเธอดูน่าสงสารไม่น้อยทีเดียว
“คุณผู้ชายคะ คุณผู้หญิงท่านจริงใจกับคุณจริงๆ นะคะ ครั้งนี้ คุณช่วยยกโทษให้เธอเถอะนะคะ”
“ใช่ค่ะ คุณผู้ชาย ตอนนี้คุณผู้หญิงท่านก็กำลังท้องลูกของคุณผู้ชายอยู่นะคะ อย่าโกรธไปเลยนะคะ!”
บรรดาคนรับใช้ต่างสลับกันพูดแสดงความเห็นอย่างไม่หยุด คนแล้วคนเล่า พวกเขาพูดไม่หยุดจนทำให้เผยอี้ในที่สุดก็เริ่มรู้สึกหวั่นไหวและเห็นตามด้วย ครู่ต่อมา เขาก็กวาดสายตามองบรรดาคนรับใช้ที่ยืมล้อมวงอยู่ในห้องนอนอย่างเย็นชา พร้อมกับพูดด้วยเสียงเข้มว่า “ทุกคนออกไป!”
บรรดาคนรับใช้ต่างเข้าใจสถานการณ์ดี ทุกคนปิดปากและค่อยๆ เดินออกจากห้องนอนไป
เมื่อประตูห้องนอนปิดลง ภายในห้องก็สงบขึ้นมาในทันที เผยอี้ยืนอยู่ที่ข้างเตียง เขาจ้องมองจินจิงจิงที่นอนอยู่บนเตียงเป็นเวลานาน จนในที่สุด เขาก็ยอมยกโทษให้เธอ
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และหันหลังไปเพื่อกดโทรออกไปที่เบอร์เบอร์หนึ่ง
“ผมไม่สนว่าคุณจะใช้วิธีการแบบไหน ไปคิดหาวิธีที่จะทำให้ประชาชนลืมเรื่องนี้ไปให้เร็วที่สุดให้ได้!”
ขณะที่เขาพูดอยู่นั้น เขาก็ผลักประตูห้องนอน และเดินออกไป
จินจิงจิงที่กำลังนอนอยู่บนเตียงนั้น เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าค่อยๆ ดังไกลขึ้นเรื่อยๆ เธอก็ถอนหายใจ และลืมตาขึ้นมา!
การถูกแฉในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันมากเกินไป และเนื้อหาที่ถูกแฉออกมานั้น ต่างก็เป็นข้อมูลภาพถ่ายที่เกี่ยวข้องกับตอนที่เธอเพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ ทั้งสิ้น ดูไม่เหมือนเป็นอุบัติเหตุเอาเสียเลย แต่เหมือนกับว่ามีใครบางคนเจตนาทำให้มันเป็นแบบนี้มากกว่า!
จินจิงจิงกัดฟันแน่นด้วยความโกรธจัด การที่เธอถูกแฉในครั้งนี้นั้น เป็นฝีมือของใครกัน! เธอจะต้องหาต้นตอมือปล่อยข่าวคนนี้ให้เจอให้ได้!