ตอนที่ 268 ฉันต้องรับผิดชอบเรื่องนี้
หัวใจของไป๋เสว่เอ๋อร์เต้นแรงเหมือนเสียงกลอง ชายคนนั้นก้าวมาข้างหน้าเธอก็ก้าวถอยหลัง แบบนี้กลับไปกลับมาเพื่อยื้อเวลาไว้
รอจนทั้งสองเปลี่ยตำแหน่ง ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงค่อยโล่งอก พูดด้วยน้ำเสียงกลบเกลื่อนความกลังในใจ “หวั่นหวั่นอยู่ที่ไหน ฉันอยากเห็นว่าเธอปลอดภัย”
“ตามฉันมา” ชายผอมใช้มีดสั้นในมือกวัดแกว่งด้วยสีหน้าดุร้าย
ทันใดนั้นข้างหลังชายผอมปรากฏเงาคน เผยลี่เชินยกเท้าขึ้นถีบร่างของชายผอมจนเกือบล้มลงกับพื้น ยังไม่ทันได้โต้ตอบ มีดสั้นในมือก็ถูกเผยลี่เชินเตะทิ้ง “เพ้ง” ล่วงลงพื้น
เผยลี่เชินก้าวไปข้างหน้าจับไหล่คนผอม มืออีกข้างจับมือของเขาไขว้หลังไว้ จนชายผอมร้องด้วยความเจ็บปวด
ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบหยิบมีดสั้นที่หล่นลงพื้น กวาดตามองไปรอบๆ “หวั่นหวั่น! หวั่นหวั่นเธออยู่ไหน?”
เผยลี่เชินใช้แรงมากขึ้นจนชายผอมร้องออกมา “เจ็บ…เจ็บ.โอ๊ย!”
“พูดมาเร็ว คนอยู่ไหน”
“ที่….อยู่หลังต้นไม้ไ
ขณะกำลังพูด ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมา ไป๋เสว่เอ๋อร์และเผยลี่เชินต่างก็ตกตะลึง
ชายอ้วนจับเจียงหวั่นหวั่นที่ถูกมัดไว้ แล้วตะโกนใส่พวกเขา “พวกแกปล่อยเขาเดี๋ยวนี้!”
เมื่อเห็นชายอ้วนดูท่าไม่ค่อยมีแรง ทั้งการเคลื่อนไหว น้ำเสียงดูอ่อนแอ เผยลี่เชินคิดอยู่ในใจ แล้วมองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อร์พร้อมออกคำสั่ง “อยู่ข้างหลังฉันไว้ แล้วสงมีดสั้นมาให้ฉัน”
ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบทำตามคำสั่ง ส่งมีดสั้นในมือให้เผยลี่เชิน
เผยลี่เชินใช้มือข้างหนึ่งควบคุมชายผอม มืออีกข้างถือมีดสั้นจี้ไว้ที่คอเขา ปลายมีดเย็นๆ อยู่บนคอชายผอม จนทำให้เขาตกใจ
“ไอ้อ้วน…เร็ว! รีบปล่อยเธอ!”
เห็นได้ชัดว่าชายอ้วนตกใจ มองเจียงหวั่นหวั่นที มองคนผอมที ลังเลไม่กล้าตัดสินใจ
“รีบปล่อยคนเร็ว ไม่อย่างนั้นแกได้เห็นเลือดเขาแน่” เผยลี่เชินพูดอย่างโหดเหี้ยม ออกแรงจับมีดสั้น
ชายร่างผอมสั่นสะท้านด้วยความตกใจ
ชายอ้วนยังคงลังเล ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าก็ดังเข้ามาอย่างรวดเร็ว เสียงของโจ๋วฝันดังขึ้น “ประธานเผย”
“มาเร็ว”
คนกลุ่มหนึ่งรีบก้าวมาอย่างรวดเร็ว เผยลี่เชินผลักชายผอมที่อยู่ในมือเขาส่งให้โจ๋วฝัน
ชายสองสามคนที่อยู่ข้างๆ รับรู้ความหมายของเผยลี่เชินทางสายตา รีบก้าวไปข้างหน้าล้อมชายอ้วนไว้
ชายอ้วนตกใจจนรีบปล่อยมือ ยกมือขึ้นเหนือหัวทั้งสองข้าง เดินถอยหลังพูดเสียงสั่น “ฉัน…ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น”
เห็นชายพยุงเจียงหวั่นหวั่นออกมาจากพุ่มไม้ ไป๋เสว่เอ๋อร์ตื่นเต้น รีบก้าวมาหา “หวั่นหวั่น! เธอไม่เป็นไรใช่ไหม!”
เจียงหวั่นหวั่นส่ายหัว “ไม่…ไม่เป็นไร เสว่เอ๋อร์”
ขณะพูด ร่างกายของเธออ่อนแรง เป็นลมล้มลงข้างกายของไป๋เสว่เอ๋อร์
“หวั่นหวั่น!” ไป๋เสว่เอ๋อร์ใจเต้นแรง รีบมองดูคนข้างๆ “เร็ว…เร็วเข้ารีบพาเธอไปส่งโรงพยาบาล”
“โจ๋วฝัน…ที่เหลือให้นายจัดการ” เผยลี่เชินกำชับด้วยเสียงเข้ม จากนั้นก็อุ้มเจียงหวั่นหวั่น รีบออกจากสวนดอกไม้ไป
พอมาถึงโรงพยาบาลเห็นเจียงหวั่นหวั่นถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน ไป๋เสว่เอ๋อร์ยังคงไม่สบายใจ
เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร!
เธอเดินไปเดินมาอยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน รู้สึกกระสับกระส่าย
เผยลี่เชินเดินเข้ามาส่งน้ำอุ่นให้เธอ “ดื่มน้ำอุ่นก่อน ร่างกายจะได้อบอุ่น”
ไป่เสว่เอ๋อร์รับน้ำมาด้วยสองมือ “คุณว่าพวกเขาคือใครกัน เป้าหมายคืออะไร?”
เผยลี่เชินยื่นมือโอบไหล่เธอพร้อมกับพูดปลอบโยน “วางใจเถอะ ฉันให้คนไปสืบแล้ว ใช้เวลาไม่นานความจริงก็ปรากฏ” ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้า และจบลงโดยการไม่พูดอะไร
ผ่านมาครึ่งชั่วโมง ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก แล้วหมอก็เดินออกมา ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบเดินเข้าไปถาม “หมอคะ เพื่อนฉันเป็นอย่างไรบ้างคะ?ไ
“ไม่เป็นไรแล้ว เป็นเพราะตกใจกลัวจนเป็นลมไป ร่างกายมีรอยฟกซ้ำนิดหน่อย แต่ก็ไม่รุนแรง ไม่ต้องกังวลนะครับ”
ได้ฟังที่หมอพูด ไป๋เสว่เอ๋อร์จึงค่อยโล่งอก “ขอบคุณค่ะหมอ”
พยาบาลพาเจียงหวั่นหวั่นไปห้องวอร์ดทั่วไป ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบตามเธอไป เธอกำลังจะเดินถึงประตูห้อง ก็ถูกคว้าข้อมือไว้
เผยลี่เชินพูดเบาๆ “ดึกมาแล้ว เธอกลับไปก่อน ฉันจะให้คนมาดูทางนี้?”
“ไม่คะ” ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบปฏิเสธโดยไม่คิด “เป็นเพราะฉัน หวั่นหวั่นถึงได้ถูกลักพาตัว ฉันต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ เธอยังไม่ฟื้น ฉันก็จะไมไปไหนทั้งนั้น”
เห็นท่าทางแน่วแน่ของเธอ เผยลี่เชินจึงต้องเปลี่ยนใจพูดด้วยเสียงเบา “งั้นฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอ เธอไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ อันธพาลสองคนนี้ดูท่าทางขี้ขลาด ประสบการณ์ไม่มาก คาดว่าจะมีคนบ่งการ วางใจมีฉันอยู่ทั้งคน จะคอยปกป้องดูแลความปลอดภัยของเธอเองไ
ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ เธอพยักหน้าพูดเสียงเบา “ฉันเชื่อคุณ ฉันไปดูหวั่นหวั่นก่อนนะ…”
พูดแล้วเธอก็ผลักประตูห้องวอร์ด เดินเข้าไป
เห็นเจียงหวั่นหวั่นนอนหมดสติอยู่บนเตียง ไป๋เสว่เอ๋อร์รู้สึกละอายใจเล็กน้อย ถ้าให้เธอรู้ว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลัง เธอก็คงไม่ยอมลามือแน่
ไป๋เสว่เอ๋อร์นั่งลงข้างเตียงไม่รู้ว่านานแค่ไหน จนตาเริ่มปิดและก็ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหนด้วย
เช้าวันที่สองไป๋เสว่เอ๋อร์ลืมตาตื่นก็พบว่าเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ สมองว่างเปล่าจากนั้นเธอก็ค่อยๆ นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
เธอนั่งอยู่ข้างเตียงของเจียงหวั่นหวั่นไม่ใช่รึ? ทำไมถึงมาอยู่บนเตียงได้?
ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบลงจากเตียง ผลักประตูออกไปเห็นเผยลี่เชินนั่นหลับตาบนเก้าอี้ตรงทางเดินหน้าห้อง
ได้ยินเสียงเปิดประตู เผยลี่เชินรีบหันมามองเธอ “ตื่นแล้วหรือ?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้า ลังเลนิดหน่อยก่อนจะถาม “ฉันไม่ได้อยู่ข้างๆ เจียงหวั่นหวั่นใช่ไหม? ฉันมาอยู่ในห้องวอร์ดนี้ได้อย่างไร?”
เผยลี่เชินใบหน้าดูเหนื่อยล้าพูดเสียงเบาๆ “ฉันเห็นเธอหลับไป ก็เลยอุ้มเธอมานอนในห้องวอร์ดที่ว่างนี้
เห็นเผยลี่เชินในสภาพนี้ทำให้เธอรู้สึกปวดใจ เธอจึงเดินมาแล้วถาม “ฉะนั้นคุณก็เลยนั่งรอฉันอยู่ข้างนอกนี้?”
เผยลี่เชินยิ้มให้เธอ “ฉันไม่เป็นไร ไปเถอะ ไปเยี่ยมเพื่อนเธอว่าเป็นไงบ้าง?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าเดินตามเผยลี่เชินไปห้องวอร์ดถัดไป
เจียงหวั่นหวั่นตื่นแล้ว พยาบาลกำลังตรวจร่างกาย เมื่อเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ผลักประตูเข้ามา สายตาของเธอเป็นประกาย “เสว่เอ๋อร์!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์รีบเดินไปถามเธอ “หวั่นหวั่น เธอเป็นไงบ้าง ดีขึ้นรึยัง?”
เจียงหวั่นหวั่นรีบพยักหน้าดวงตามีสีแดง “ฉันไม่เป็นไร เสว่เอ๋อร์ ขอบคุณที่เมื่อคืนเธอมาทันเวลา ไม่งั้นฉันยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น….”
เผยลี่เชินเดินมาข้างๆ พูดด้วยเสียงเข้ม “ไหนเธอลองเล่ามาซิว่า เมื่อคืนมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”