สัญญาร้ายของประธานปีศาจ – ตอนที่ 275

ตอนที่ 275

ตอนที่ 275 รับปากทำตามความปรารถในวันเกิดของเธอหนึ่งข้อ

สีหน้าของเหอหย่าหานดูเขียวเล็กน้อยเพราะความโกรธ เหมือนกับรอมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว เธอก้าวขาเดินมาข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จ้องมองเผยลี่เชิน มองข้ามไป๋เสว่เอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างไปเลย

“ลี่เชิน ทำไมคุณถึงไม่ยอมพบฉัน?”

เผยลี่เชินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า “เวลาทำงาน ตารางงานยุ่งมาก”

ทันใดนั้น สีหน้าของเหอหย่าหานอึมครึมลงมาอย่างกะทันหัน ดูเหมือนกำลังกักเก็บอารมณ์เอาไว้ กลับทำได้เพียงฝืนทนไม่แสดงออกไป

เผยลี่เชินเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึกว่า “มีธุระอะไรไหม?”

เหอหย่าหานสูดหายใจเข้าเต็มปอด เอ่ยขึ้นอย่างจริงจังทีละคำทีละประโยคว่า “วันนี้เป็นวันเกิดของฉัน ก่อนหน้านี้คุณเคยรับปากฉันเอาไว้ว่า ทุกปีจะยอมรับปากทำตามความปรารถนาในวันเกิดของฉันหนึ่งข้อ”

เผยลี่เชินขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ได้ดึงมือของตัวเองออกมาแล้ว

เธอส่งยิ้มให้กับเผยลี่เชินเล็กน้อย “พวกคุณคุยกันไปก่อน ฉันออกไปรอคุณข้างนอก”

พูดจบ เธอก็ก้าวขาเดินออกไปทางด้านนอกในทันที

เผยลี่เชินขมวดคิ้วขึ้น มองดูแผ่นหลังที่ไกลออกไปเรื่อยๆของหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่ง ในใจก็เกิดความหงุดหงิดรำคาญออกมาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว เขาโน้มสายตาลงมามองเหอหย่าหาน แล้วเอ่ยปากออกมาว่า “ว่ามาสิ”

เหอหย่าหานสูดหายใจเข้าเต็มปอด หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ถึงได้เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “คุณไปเยี่ยมคุณแม่เป็นเพื่อนฉันได้ไหมคะ วันครบรอบวันเสียชีวิตของท่านใกล้จะมาถึงแล้ว”

คุณแม่ของเหอหย่าหานเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งเมื่อห้าปีก่อน นี่ก็คือเหตุผลที่ทำไมเหอหลิงเฟิงถึงได้รักและทะนุถนอมลูกสาวคนนี้มากขนาดนี้

ได้ยินเธอพูดเช่นนี้ เผยลี่เชินกลับค่อนข้างที่จะประหลาดใจเล็กน้อย เดิมทียังนึกว่าเธอจะเอ่ยคำร้องขออะไรที่มากเกินความพอดีออกมา แต่คิดไม่ถึงว่า…

ยิ่งไปกว่านั้น เผยลี่เชินก็เข้าใจความรู้สึกเช่นนั้นของการสูญเสียคุณแม่ดี คิดไม่ถึงว่าในใจจะเกิดความรู้สึกสงสารขึ้นมาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว

วันครบรอบวันเสียชีวิตคุณแม่ของเขาในปีนี้ เขาไปเองคนเดียว แม้กระทั่งไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ไม่ได้บอก

เขาเข้าใจความรู้สึกที่นำเอาความคิดถึงและความอาลัยอาวรณ์ต่างก็ฝากเอาไว้กับวันเพียงวันเดียวนี้ดี เผชิญหน้ากับเหอหย่าหานที่เอ่ยคำร้องขอนี้ออกมา คิดไม่ถึงว่าเขาเริ่มที่จะไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไรดีแล้ว

หลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็เอ่ยปากขึ้นเบาๆ ตอบตกลงกลับไป “ได้ ผมไปเป็นเพื่อนคุณ”

เหอหย่าหานได้ยินดังนั้น บนใบหน้าก็ปรากฎความปิติยินดีออกมาเล็กน้อย เธอยื่นมือออกไปอย่างตื่นเต้น ดึงมือของเผยลี่เชินมาจับเอาไว้ในทันที “ลี่เชิน ขอบคุณค่ะ!”

ไป๋เสว่เอ๋อร์ที่ยืนอยู่ด้านนอกประตู มองเห็นฉากนี้ อยู่ๆหัวใจก็บีบรัดเข้าหากันแน่น ความรู้สึกสับสนที่ไม่อาจจะเอ่ยออกมาให้เข้าใจได้เกิดขึ้นภายในจิตใจ ในใจเชื่ออย่างชัดเจนว่าเผยลี่เชินจะไม่ทำเรื่องที่ผิดต่อเธอแน่ ทว่าเธอกลับยังรู้สึกใส่ใจอย่างประหลาด

ไป๋เสว่เอ๋อร์เบือนสายตาไปทางอื่น ไม่นานนัก ด้านหลังก็ดังสะท้อนเสียงฝีเท้าเข้ามา ยังไม่ทันจะได้หันกลับไป เธอก็ได้ยินเสียงของเผยลี่เชิน “ไปกันเถอะ”

กลับขึ้นมาบนรถ สำหรับเรื่องเมื่อสักครู่นี้เผยลี่เชินตั้งใจไม่พูดอะไรออกมา อารมณ์กลับยังดูค่อนข้างจะเยือกเย็นเสียด้วยซ้ำ

ไป๋เสว่เอ๋อร์กำลังคิดที่จะเอ่ยปากถามขึ้นด้วยความระมัดระวัง เผยลี่เชินอยู่ๆก็ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมา กดโทรออกไปในทันที “ฉีเฟิง เรื่องเหล่านั้นที่เกี่ยวข้องกับเย่หรงชิว เปิดเผยออกไปได้แล้ว”

ออกคำสั่งอย่างง่ายๆเสร็จ เขาก็วางสายลงไปในทันที

ไป๋เสว่เอ๋อรัสับสนมึนงงไปหมด เผชิญหน้ากับอารมณ์ที่อยู่ๆก็เปลี่ยนแปลงของเขา อยากจะเอ่ยปากถาม ก็กลัวว่าจะไปละเมิดเขาอีก แต่สุดท้าย เธอก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้นคะ?”

“ไม่มีอะไร” เผยลี่เชินเอ่ยปากอย่างราบเรียบ “เพียงแต่ทำให้คนกลุ่มนึงได้รับบทลงโทษที่ควรจะได้ก็เท่านั้น”

เย่หริงชิวกับเผยอี้ สำหรับเขาแล้ว ก็คือหนามอันหนึ่งที่อยู่ในใจ ทำให้เขาเจ็บขึ้นมาบ่อยๆ พอเจ็บก็เจ็บไปจนสุดขั้วหัวใจ

ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย คิดถึงเรื่องเหล่านั้นที่จินจิงจิงถูกเปิดโปงด้านมืด เธอแทบจะสามารถเดาออกได้ถึงผลลัพธ์หลังจากที่เรื่องที่เกี่ยวกับเย่หรงชิวถูกเปิดโปงออกไป

จินจิงจิงกับเย่หรงชิวเป็นคนประเภทเดียวกัน หากให้พวกเธอรู้ว่าเผยลี่เชินเป็นคนเปิดโปงข้อมูลเหล่านี้ กลัวเพียงแต่ว่าพวกเธอคงจะไม่ยอมวางมือยุติเรื่องราวแน่

ไป๋เสว่เอ๋อร์เอ่ยปากโน้มน้าวเบาๆว่า “ที่จริงแล้ว พวกเราไม่จำเป็นต้องยึดติดกับอดีตไม่ยอมปล่อย ยังไงซะชีวิตก็ต้องมองไปข้างหน้าไม่ใช่หรอคะ?”

ได้ยินดังนั้น เผยลี่เชินก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ “เรื่องบางเรื่องสามารถลืมได้ แต่มีบางเรื่องกลับต้องจดจำเอาไว้”

มองดูเผยลี่เชินที่เป็นแบบนี้ อยู่ๆไป๋เสว่เอ๋อร์ก็รู้สึกแปลกหน้าขึ้นมาอย่างกะทันหัน เธอไม่แน่ชัดว่าเหอหย่าหานพูดอะไรกับเผยลี่เชินกันแน่ ทำไมถึงกระตุ้นการตอบสนองของเขาได้รุนแรงขนาดนี้ แต่เธอเข้าใจดีแล้วว่า เรื่องที่เผยลี่เชินได้กำหนดเอาไว้ ต่อให้เธอไปโน้มน้าว เขาก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลง

ด้านมืดเหล่านั้นที่เกี่ยวข้องกับเย่หรงชิวราวกับไข้หวัดระลอกหนึ่งก็ไม่ปาน แพร่กระจายในกลุ่มคุณหญิงคุณนายในสังคมชั้นสูงของเมืองไห่เฉิง

เดิมทีเย่หรงชิวคิดว่าในที่สุดเธอก็สามารถเพลิดเพลินอยู่กับการใช้ชีวิตที่หรูหราร่ำรวยได้สักหน่อย โดยอาศัยสถานะของลูกชายที่อยู่ในบ้านตระกูลเผย อย่างน้อยที่สุดก็สามารถมีตำแหน่งผสมอยู่ในหมู่ของคุณหญิงคุณนาย แต่ใครจะรู้ว่า ด้านมืดที่ไม่รู้ว่าแตกออกมาจากที่ไหน นำเอาเธอกลับคืนสู่สถานะเดิมในทันที

เข้าร่วมงานเลี้ยงน้ำชางานหนึ่ง เพียงแค่เป็นช่วงที่ไปห้องน้ำรอบนึงเท่านั้น เธอก็ได้เห็นคนจำนวนมากชี้ๆมาที่เธอ แอบมองเธอด้วยสีหน้าท่าทางที่ประหลาด

พอกลับมาถึงห้องจัดงานเลี้ยง เธอเพิ่งจะเดินมาถึงด้านหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงที่จงใจกดให้เบาจนสุดความสามารถดังสะท้อนออกมาจากข้างใน

“ฉันดูเธอนะ เอาตัวเองทำเป็นคุณนายผู้ดีที่งามพร้อมจริงๆ ดูท่าทางที่วาดมาดใหญ่โตในวันปกติของเธอ ก็แค่เพชรพลอยไข่มุกไม่กี่เส้นนั่นแทบอยากจะเอามาแขวนไว้บนร่างกายให้หมด!”

“ก่อนหน้านี้ฉันก็รู้สึกว่าเธอน่ะลูกไม้เยอะ คิดไม่ถึงว่าภายในของเธอยังเคยให้ท่าคุณท่านของบ้านตระกูลดังมามากมายขนาดนั้น ถึงบั้นปลายชีวิตแล้วยังไม่สามารถรักษาเกียรติศักดิ์ของตัวเองเอาไว้ได้!คนของตระกูลเผยต่างก็ถูกเธอทำให้ขายหน้ากันหมดแล้ว!”

“นั่นน่ะสิ คาดว่าตัวเธอคงจะรู้สึกว่าในอนาคตลูกชายของตัวเองจะสามารถสืบทอดมรดกของบ้านตระกูลเผยได้ล่ะมั้ง!แต่พวกเราต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจ ก็แค่ลูกนอกสมรสไร้ความสามารถคนหนึ่งเท่านั้น! ทุกๆด้านต่างก็ถูกเผยลี่เชินเหนือกว่าจนหมด อยากจะเงยหน้าอ้าปากก็ยังเงยไม่ไหว!”

“ยังมีอีกนะ พวกเธอเคยได้ยินหรือยัง ใบหน้านั้นของเย่หรงชิวน่ะ ผ่านมีดมาไม่น้อยนะจ๊ะ บนงานเลี้ยงน้ำชาในคราวก่อนหน้าของเธอต่างก็แข็งทื่อไปหมด ท้ายหน้าผากยังมีร่องรอยจากการฉีดหลงเหลือเอาไว้ด้วยนะ!”

คุณหญิงคุณนายทั้งหลายเหล่านั้นปกติก็ชอบซุบซิบนินทาเป็นที่สุด เมื่อวานพอเรื่องซุบซิบที่เกี่ยวข้องกับเย่หรงชิวแตกออกมา ก็รีบเอาไปเม้าท์กระจายไปทั่วในทันที ตอนนี้เสียงที่ตื่นเต้นเธอประโยคนึงฉันประโยคนึงของพวกเธอดังมากขึ้นเรื่อยๆ

เย่หรงชิวที่ยืนอยู่หน้าประตูโมโหจนสีหน้าเขียวไปหมดตั้งนานแล้ว เธอกัดฟันแน่น โมโหจนกระทืบเท้า แทบอยากจะพุ่งตรงเข้าไปตบคุณหญิงคุณนายทั้งหลายเหล่านั้นเรียงคน แต่สุดท้ายสติเอาชนะความโกรธ เธอกลับไปยังห้องจัดงานเลี้ยงด้วยสีหน้าที่มืดมน หยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้น ภายใต้การจับจ้องของผู้คน เดินออกจากที่นี่ไปอย่างรวดเร็วโดยไม่หันหน้ากลับมามอง

เย่หรงชิวเดินออกมาจากประตูใหญ่ด้วยความเดือดดาล หยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นกดโทรไปยังเบอร์ของเผยอี้ รออยู่นาน ต่างก็ไม่มีใครรับ เธอกัดฟันแน่น แอบด่าในใจว่า “เจ้าเด็กเวร!อาศัยอะไรไม่ได้เลยจริงๆ!”

เธอกัดฟันแน่น ก้าวขาขึ้นไปบนรถ แล้วสั่งคนขับรถว่า “ไปคฤหาสน์ของเผยอี้!”

ไม่ถึงยี่สิบนาที รถก็มาจอดอยู่ที่หน้าประตูใหญ่ของบ้านสามชั้นสไตล์ยุโรป เย่หรงชิวผลักประตูเดินลงจากรถไป ตบประตูด้วยใบหน้าที่โกรธจัด “เปิดประตู!”

คนรับใช้เข้ามาเปิดประตู พอเห็นว่าเป็นเธอ ก็ตกใจจนใบหน้าเปลี่ยนสี “คุณนาย…”

“เผยอี้ล่ะ!เรียกเขาออกมาให้ฉัน!”

เธอมุมานะบากบั่นอย่างไม่ท้อถอยไม่ง่ายเลยที่จะทุลักทุเลมาถึงจุดนี้ ตอนนี้จะมาให้คนคิดมิดีมิร้ายทำลายชื่อเสียงของเธอลับหลังได้ยังไงกัน!

คนรับใช้ตามอยู่ที่ด้านหลังของเย่หรงชิว เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “คุณชาย…ไม่ได้กลับมาหลายวันแล้วค่ะ…”

“อะไรนะ!” เย่หรงชิวโมโหจนตาเขียวปั๊ด เดินมาถึงห้องรับแขก กวาดตามองไปรอบนึง แล้วเอ่ยถามขึ้นมาอีกว่า “จิงจิงล่ะ!เรียกเธอมา!”

คนรับใช้รับคำสั่ง รีบขึ้นชั้นบนไปเรียกในทันที

ไม่ถึงห้านาที จินจิงจิงก็ลงมาข้างล่าง มองเห็นเย่หรงชิวที่นั่งอยู่บนโซฟา ก็เอ่ยปากขึ้นอย่างรู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรมว่า “คุณแม่…”

ไม่รอให้เย่หรงชิวเอ่ยปากพูดอะไร จินจิงจิงก็ได้พุ่งตรงเข้าไปก่อน แล้วเอ่ยขึ้นอย่างน่าสงสารว่า “คุณแม่ เผยอี้เขาไม่ได้กลับบ้านมาสสามวันแล้วค่ะ คุณแม่ก็ถือว่ามาแล้ว ช่วยหนูพูดโน้มน้าวเขาหน่อยนะคะ…”

เย่หรงชิวคิ้วขมวดกันยิ่งแน่นเข้าไปอีก เธอเอ่ยปากอุทานออกมาอย่างประชดประชันว่า “ฉันยังติดต่อเขาไม่ได้ จะช่วยเธอโน้มน้าวเขาได้ยังไงกัน!

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

สัญญาร้ายของประธานปีศาจ

Status: Ongoing

บริษัทไป๋ซื่อเกิดเรื่องใหญ่ในด้านการเงิน พ่อของเธอถูกตำรวจพาไป แม่ของเธอก็ป่วย ร่างกายยิ่งอ่อนแอขึ้น เธอต้องการเงิน ต้องการหลักฐาน นอกจากเผยอี้แล้ว เธอนึกไม่ออกว่ายังมีใครที่จะสามารถช่วยเธอได้ แต่สุดท้าย เธอเพียงแค่ได้รับความเยาะเย้ยจากเขา ยังดีที่เผยลี่เชินออกมาช่วยเธอตอนที่เธอสิ้นหวัง ไป๋เสว่เอ๋อร์มอบตัวเองให้กับเขา แต่ความสัมพันธ์ของสองคนกลับยังไม่จบ พวกเขาจะมีเรื่องอะไรกันต่อนะ? คำแนะนำนวนิยาย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท