ตอนที่ 281 รักคนๆหนึ่งอย่างเต็มที่
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยกมือแตะไปบนใบหน้าของเผยลี่เชินเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น เอ่ยปากถามเบาๆว่า “ดื่มมาไม่น้อยใช่ไหมคะ? อาบน้ำแล้วใบหน้ายังร้อนขนาดนี้…”
ฟังการตำหนิในน้ำเสียงของหญิงสาวออก รอยยิ้มในดวงตาของเผยลี่เชินก็เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ยกมือขึ้นบีบไปที่เอวบางของเธอเบาๆ เอ่ยปากด้วยรอยยิ้มบางๆว่า “ก็เป็นเพราะดื่มมากจนเกินไป ดังนั้นถึงได้จะหาคุณเพื่อแก้เมา ใครจะรู้ว่าพอคุณมาแล้วก็จะหมุนตัวเดินหนีไป…”
ไป๋เสว่เอ๋อร์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย กวาดตามองไปยังน้ำซุปแก้เมาที่อยู่บนโต๊ะด้านข้างแวบหนึ่ง “รีบดื่มน้ำซุปแก้เมาค่ะ”
เผยลี่เชินราวกับตั้งใจที่เล่นลูกไม้อย่างหน้าไม่อายยังไงอย่างงั้น “ป้อนผม”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ทั้งโมโหทั้งขำ มองไปที่เขาแวบหนึ่งอย่างจนปัญญา “คุณไม่มีมือหรือไงคะ?”
เผยลี่เชินขมวดคิ้วเล็กน้อย แกล้งทำเป็นโกรธ “ไม่มี เร็วหน่อย”
ไป๋เสว่เอ๋อร์หัวเราะออกมาเบาๆ ยกมือถือถ้วยซ้ำซุปขึ้น หยิบช้อนป้อนเขาไปหนึ่งคำ
นัยน์ตาของเผยลี่เชินแฝงไปด้วยรอยยิ้ม ทั้งๆที่รู้ว่าดื่มทีละช้อนๆค่อนข้างที่จะยุ่งยาก แต่ก็ยังดันทุรังฝืนอดทนรอเธอป้อนทีละช้อนๆต่อไป
ป้อนเขาไปแล้วครึ่งหนึ่ง มือที่ถือถ้วยซุปของไป๋เสว่เอ๋อร์เมื่อยไปหมดแล้ว เธอวางถ้วยซุปลง แกล้งทำเป็นโกรธว่า “ที่เหลือฉันไม่ป้อนแล้วนะคะ เพื่อที่จะไม่เคยชินจนกลายเป็นนิสัยที่ไม่ดี ต่อไปอะไรก็ต้องป้อน!”
“งั้นผมป้อนคุณ?” เผยลี่เชินยกมือขึ้น เชยคางของเธอขึ้นมาเล็กน้อย “วันนี้ไปเที่ยวกับเพื่อนคนนั้นเป็นยังไงบ้าง?”
“ก็ดีค่ะ” พอคิดถึงฉากที่วันนี้เจียงหวั่นหวั่นไปขอช่องทางการติดต่อจากคนอื่นที่ร้านปิ้งย่าง ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะมุมริมฝีปากขึ้นยิ้มเล็กน้อย “ใช่แล้วค่ะ หวั่นหวั่นบอกกับฉันว่า วันนี้ตอนที่เธอไปเจรจาโครงการพบเข้ากับจินจิงจิง…”
พอไป๋เสว่เอ๋อร์เล่าเรื่องของจินจิงจิงให้กับเผยลี่เชินฟัง สีหน้าของชายหนุ่มก็เคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อยในทันที
ไป๋เสว่เอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามขึ้นมาว่า “คุณว่าเรื่องของเผยอี้ทำไมจินจิงจิงถึงแทรกมือเข้าไปได้? อีกทั้งทำไมเขาถึงยอมให้ภรรยาของตนเองไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อนคนอื่นล่ะคะ?”
เผยลี่เชินยักคิ้วขึ้นเล็กน้อย บีบมือของเธอเบาๆ “เด็กโง่ นี่ยังคิดไม่เข้าใจอีกหรอ?”
“คุณชี้แนะๆหน่อย?”
เผยลี่เชินหัวเราะขึ้นมาเล็กน้อย เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “โดยนิสัยแบบนั้นของเผยอี้แล้ว จะต้องไม่อนุญาตให้จินจิงจิงปรากฏตัวต่อหน้าสังคมดื่มเหล้าเป็นเพื่อนคนอื่นอย่างแน่นอน ดังนั้น เธอไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อนคนอื่น เพราะเรื่องแกล้งท้องส่งผลให้ทั้งสองคนทะเลาะกัน เธออยากจะผูกมัดความสัมพันธ์ถึงได้ทำเช่นนี้”
พอได้ฟังเขาพูดขนาดนี้ ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็เข้าใจขึ้นมาในทันที เช่นนี้ ทุกสิ่งก็สามารถพูดได้อย่างชัดเจนหมดแล้ว
ไป๋เสว่เอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อย หยุดชะงักลงไปครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้นมาอีกว่า “ฉันได้ยินมาว่าเหมือนโครงการแบบนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบจะต้องสานสัมพันธ์จำนวนไม่น้อย หรือว่าพวกเราไม่ต้องทำอะไรหน่อยหรอคะ?”
ได้ยินดังนั้น เผยลี่เชินก็หรี่ตาลงเล็กน้อย หลังจากนั้นครู่หนึ่งถึงได้เอ่ยออกมาอย่างสบายๆว่า “ไม่ต้อง ผมมีขอบเขตเป็นของตนเอง”
คำพูดของเขาแม้ว่าจะพูดเช่นนี้ แต่ตารางงานที่ให้เธอจัดลงไปกลับไม่มีแพลนที่จะต้องไปติดต่อพบปะกับฝ่ายผู้เปิดการประมูลเลย ในใจของไป๋เสว่เอ๋อร์มีข้อสงสัย ยังต้องการจะเอ่ยปากถาม ทันใดนั้นก็รู้สึกบริเวณช่วงเอวถูกรัดตึงขึ้น ทั้งตัวถูกอุ้มยกขึ้นมา
“คุณ…” ไป๋เสว่เอ๋อร์ถูกเผยลี่เชินอุ้มเดินไปทางห้องอาบน้ำ ก็ตกใจขึ้นมาอย่างห้ามเอาไว้ไม่ได้ “คุณจะทำอะไรคะ!”
เผยลี่เชินโน้มสายตาลงมา กระพริบตาส่งให้กับเธอ เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “ดึกมากแล้ว อาบน้ำ นอน”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ลนลานเล็กน้อยขึ้นมาอย่างกะทันหัน “ฉัน…ทำเองได้ค่ะ”
ทว่าชายหนุ่มกลับยืนกรานอุ้มเธอเดินหน้าต่อไป “วันนี้ผมทำเป็นเพื่อนคุณ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ทั้งโกรธทั้งขำ แม้ว่าจะรู้สึกจนปัญญาไปทั้งหัวใจ แต่กลับรู้สึกได้ถึงความหวาน เธอยกมือขึ้น ถือโอกาสโอบรอบคอของชายหนุ่มเอาไว้ คิดถึงเป้าหมายเล็กๆที่กำหนดให้กับตนเองในตอนที่กินปิ้งย่างในวันนี้ ใบหน้าก็แดงขึ้นมาก่อนโดยไม่รู้ตัว
เธออยากจะเป็นแบบนั้นเหมือนจินหวั่นหวั่น ในด้านการแสดงออกทางความรู้สึกใจกล้ามากขึ้นอีกหน่อย…
มือที่โอบรอบคอของชายหนุ่มเอาไว้รัดแน่นขึ้นเล็กน้อย ไป๋เสว่เอ่อร์สูดหายใจเข้าเต็มปอด รวบรวมความกล้าขึ้นมา เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณค่ะ”
มองดูสีหน้าที่มั่นคงหนักแน่นดูกล้าหาญของไป๋เสว่เอ๋อร์ เผยลี่เชินก็เกิดความสนใจขึ้นมา เขายิ้มบางๆพลางเอ่ย “คุณว่ามา”
ไป๋เสว่เอ๋อร์กัดริมฝีปากเล็กน้อย ทำการตัดสินใจแน่วแน่ แหงนหน้าขึ้นประชิดไปยังข้างใบหูของเขา เอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาจนถึงที่สุดว่า “ฉัน…ชอบคุณค่ะ”
เผยลี่เชินรู้สึกชาขึ้นมาทันทีที่ข้างใบหู แม้กระทั่งหัวใจก็ยังรู้สึกพองฟูขึ้น รู้สึกเซอร์ไพรส์และดีอกดีใจอย่างชัดเจน แต่ภายนอกของเขายังคงแสร้งทำเป็นนิ่งสงบ หลังจากนั้นสองวินาที ถึงขั้นยังขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย โน้มสายตามองหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมแขน แล้วเอ่ยถามย้อนกลับว่า “ก็มีเพียงแค่ชอบ?”
หากมีเพียงแค่ชอบ งั้นเขาก็คงไม่พอใจนัก
ไม่รอให้ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบกลับ เขาก็อุ้มเธอนั่งลงตรงข้างอ่างอาบน้ำ ถือโอกาสเปิดก็อกของอ่างอาบน้ำเริ่มปล่อยน้ำออกมา…
ฟังเสียงน้ำที่ไหล ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็หน้าแดงไปจนถึงกกหู เธอหลบสายตาลง สำหรับคำถามเมื่อสักครู่นี้ของเขานั้น ไม่ตอบแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ราวกับไม่ได้ยินเลยก็ไม่ปาน
เผยลี่เชินโน้มตัวลงมา มือทั้งสองข้างยันไว้บนอ่างอาบน้ำทั้งสองข้างของเธอ สบสายตา เอ่ยถามต่อไปว่า “หืม?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ใบหน้าแดงก่ำ “แน่นอนว่า…ยังมีอย่างอื่นอีกค่ะ”
“อย่างไหนบ้าง? ผมต้องการฟัง”
ไป๋เสว่เอ๋อร์เขินอายม้วนตัวพัวพันกันอุตลุด เธอยังไม่เคยเอ่ยคำสามคำที่น้ำเน่าตรงไปตรงมาขนาดนี้กับใครมาก่อน เดิมทีประวัติการคบหากับใครก็มีไม่มาก แม้แต่ชอบก็ยังเขินที่จะเอ่ยออกมา ตอนนี้มาให้เธอพูด “ฉันรักคุณ” ยิ่งยากกว่าเหยียบขึ้นไปบนฟ้าเสียอีก
ชายหนุ่มกลับดันเอ่ยปากเหมือนกับตัดสินใจแน่ชัดแล้วว่าจะต้องบีบบังคับให้เธอพูดออกมาให้ได้ เขารอเป็นเวลานานอย่างมีความอดทนเป็นอย่างยิ่ง เห็นแก้มของเธอแดงมากยิ่งขึ้น แต่ปากเล็กๆกลับไม่มีทีท่าว่าจะเปิดออก ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะส่งเสียงออกมาเบาๆ
เขาเข้าไปใกล้ข้างใบหูของเธออย่างช้าๆ เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “งั้นผมพูดก่อน…”
ในขณะนี้พูด เขาก็เปิดปากออก กัดติ่งหูของเธอเอาไว้เบาๆ พอรู้สึกได้ถึงอาการสั่นไหวไปทั่วทั้งตัวของหญิงสาว เขาก็ยักคิ้วขึ้นอย่างพึงพอใจ “…ผมรักคุณ”
หัวใจของไป๋เสว่เอ๋อร์สั่นไหวเบาๆ ร่างกายอยู่ๆก็ร้อนผ่าวขึ้นมา เธอหันศีรษะ ประสานเข้ากับสายตาที่เร่าร้อนของชายหนุ่ม คิดไม่ถึงว่าจะริเริ่มเชยคางขึ้นจูบเขาเข้าไปอย่างไม่รู้ว่ามีอะไรมาดลใจ
ไม่มีกำลังที่จะยืนหยัดต่อการรุกรานของชายหนุ่มได้อีกต่อไป ไป๋เสว่เอ๋อร์ตัวสั่นเบาๆ ในเวลาที่ใกล้จะหายใจไม่ทันนี้เอง คำสามคำก็ลอดออกมาจากไรฟัน “ฉันด้วยค่ะ…”
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรักคนๆหนึ่งอย่างเต็มที่ ยอมรับเขาอย่างแน่นอน ครึ่งชีวิตที่เหลือก็คือเขา…
แสงสว่างยามฟ้าสางราวกับถูกปกคลุมไปด้วยม่านบางๆชั้นหนึ่ง ไป๋เสว่เอ๋อร์พลิกตัว ลืมตาขึ้นเล็กน้อย ก็เห็นชายหนุ่มตรงข้ามกำลังยกมุมริมฝีปากจ้องมาที่เธอ
ชั่วพริบตา ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ตื่นตัวขึ้นมาเล็กน้อย รีบลืมตาขึ้นมาในทันที “คุณ…ทำฉันตกใจหมด…”
เผยลี่เชินยื่นมือออกไป บีบไปบนปลายจมูกเล็กๆของหญิงสาวเบาๆ “นอนอย่างกับลูกหมู”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้ยินดังนั้น ก็ยกมือขึ้นจะส่งไปให้เขาหนึ่งหมัด แต่ใครจะรู้ว่าพอเขาหมุนตัว ยืดตัวลุกนั่งขึ้นมา หมัดของเธอก็ตกไปในความว่างเปล่า
ต่อยลงไปบนเตียง หมัดได้รับแรงสั่นสะเทือน ยังมีความเจ็บเล็กน้อย
“ซี๊ด…” ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วขึ้น วินาทีต่อมา หมัดน้อยๆก็ถูกกุมเอาไว้ในมือ
“เจ็บหรอ?” มือใหญ่ของเผยลี่เชินห่อหุ้มมือของไป๋เสว่เอ๋อร์เอาไว้ ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ราวกับหมัดนั่นต่อยมาบนร่างกายของเขาก็ไม่ปาน
ไป๋เสว่เอ๋อร์เกิดไหวพริบขึ้นมา ยื่นหมัดอีกข้างหนึ่งออกไปต่อยโดนเขาด้วยความรวดเร็ว
“ดื้อแล้วใช่ไหม?” เผยลี่เชินเงยหน้าขึ้น ยิ้มบางๆ โอบเธอเข้ามาไว้ข้างในอ้อมแขน
ทั้งสองคนอยู่ในระหว่างการหยอกล้อกัน อยู่ๆหน้าประตูก็สะท้อนเสียงเคาะประตูเข้ามา
“คุณผู้ชาย!คนขับรถมาถึงแล้วค่ะ บอกว่าของที่คุณต้องการได้เตรียมเอาไว้หมดแล้ว”
การเคลื่อนไหวของเผยลี่เชินหยุดชะงักลง ยืดตัวขึ้น เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “ครับ ผมจะลงไปเดี๋ยวนี้”
วันนี้เขาต้องไปสุสานเป็นเพื่อนกับเหอหย่าหาน เสียเวลาไม่ได้
“วันนี้วันพุธ คุณนอนต่ออีกหน่อย ผมต้องลุกขึ้นจากเตียงแล้ว”
“อือ” ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบรับหนึ่งคำ อารมณ์หล่นฮวบลงไปในทันที
“ไม่นานผมก็กลับมา อย่ากังวล” สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ของเธอ เผยลี่เชินก็เอ่ยปลอบใจออกมาเบาๆว่า “ตอนเที่ยงผมก็สามารถกลับมาทานข้าวเป็นเพื่อนคุณได้แล้ว อย่าคิดมาก”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ยักคิ้วขึ้น ตั้งใจทำเป็นเคร่งขรึมพลางเอ่ย “ค่ะ แต่ฉันอาจจะโทรศัพท์ไปตรวจสอบนะคะ!”
เผยลี่เชินหัวเราะขึ้นเบาๆ “ยินดีตลอดเวลาครับ!