ตอนที่ 285 พวกลูกทะเลาะกัน
ความรู้สึกแสบร้อนที่ฝ่ามือได้เตือนไป๋เสว่เอ๋อร์ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่า วันหนึ่งเธอจะมาถึงจุดที่ทะเลาะกันจนแตกหักกับเผยลี่เชินเช่นนี้ได้ ถึงขั้นเธอยังทนไม่ไหวจนลงไม้ลงมือ
โมโห ความผิดหวังและความสับสนวุ่นวายผสมปนเปเข้าไว้ด้วยกัน กดทับจนเธอหอบหายใจแทบจะไม่ทันอยู่แล้ว
วิ่งลงมาชั้นล่างด้วยความรีบร้อน ป้าจางที่กำลังทำความสะอาดถูกคราบน้ำตาที่เต็มใบหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร์ทำให้ตกใจเสียยกใหญ่ เธอรีบเข้ามาสอบถามในทันทีว่า “คุณหนูไป๋ คุณเป็นอะไรไปคะ?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่มีกำลังที่จะตอบคำถาม เพียงแต่ฝืนกลั้นน้ำตาเอาไว้พลางส่ายหน้าเบาๆ เดินไปยังปากทางเข้า เปลี่ยนรองเท้าถือโอกาสหยิบกระเป๋าที่วางเอาไว้บนตู้จากนั้นก็พุ่งพรวดออกไปในทันที
“คุณหนูไป๋!” ป้าจางร้องเรียกเสียงดัง แต่ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้วิ่งออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามอง
“นี่…นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ป้าจางไม่กล้าเหนี่ยวรั้งเอาไว้ เห็นว่าตามไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ทัน ก็รีบหันหลังกลับเข้าไปในตัวคฤหาสน์ พุ่งตรงไปยังหน้าประตูห้องนอนหลักที่ชั้นสองในทันที “คุณผู้ชายคะ คุณหนูไป๋เธอทำไมถึงร้องไห้แล้ววิ่งออกไปแล้วล่ะคะ? คุณดูหน่อยว่าจะส่งคนไปตามหรือเปล่า…”
หน้าประตูห้องนอนเปิดกว้าง เผยลี่เชินนั่งอยู่บนโซฟา สีหน้ามืดมน ได้ยินป้าจางพูดเช่นนี้ เขาก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ถือโอกาสหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ด้านข้างขึ้นมา แล้วกดโทรออก “ตามไป๋เสว่เอ๋อร์เอาไว้ รับประกันความปลอดภัยของเธอ เธอเพิ่งออกจากคฤหาสน์ไป”
ทำทุกอย่างนี้เสร็จสิ้น เผยลี่เชินก็ยืนขึ้นมา มองดูป้าจางที่ยืนอยู่หน้าประตูอย่างไม่รู้เหตุผลอะไรแวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า “เรื่องนี้ป้าไม่ต้องสนใจแล้ว ไปทำธุระต่อเถอะ”
ป้าจางได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าเล็กน้อยอย่างลังเล จากนั้นหมุนตัวเดินจากไป
เผยลี่เชินเดินมายังหน้าระเบียง ลมเย็นระลอกหนึ่งพัดเข้ามา ความเย็น ผ่านเข้ามาทางปกคอเสื้อของเขา ทำให้เขาได้สติขึ้นมาเล็กน้อยภายในทันที
หลังจากคิดเรื่องนี้อย่างละเอียดไปรอบหนึ่ง เผนลี่เชินก็ถอนหายใจออกมา เรื่องในคราวนี้เป็นความผิดของเขาจริงๆ ไม่ได้ถามให้ชัดเจนก็ใส่อารมณ์กับเธอ
ทว่าตอนเขากลับมาถึงคฤหาสน์ มองเห็นห้องนอนที่ว่างเปล่า โทรศัพท์หาเธอก็ไม่รับสาย สุดท้ายเขาไม่มีทางเลือกถึงให้ลูกน้องไปสืบหาร่องรอยการเดินทางของเธอ คิดไม่ถึงว่าจะสืบพบว่าเธอกำลังทานอาหารกลางวันกับผู้ชายคนอื่น นี่จะทำให้เขาไม่โมโหได้อย่างไรกัน?
เพียงแต่ จะพูดยังไงก็ยังคงเป็นเขาที่ผิด แต่ตอนนี้สิ่งที่ทั้งสองคนต้องการมากที่สุดก็คือความใจเย็น ทำได้เพียงรอจนกระทั่งหลังจากใจเย็นลงแล้ว เขาค่อยไปหาเธอ
วิ่งมาจนครึ่งถนน ในที่สุดก็วิ่งมาถึงถนนสายหลัก ไป๋เสว่เอ๋อร์ก้าวช้าลง จิตใจสับสนวุ่นวาย สีของท้องฟ้าได้มืดลงแล้ว ชั่วขณะนึง เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะไปที่ไหนดี
คิดไปคิดมา เธอก็เหลือเพียงแค่ทางเลือกเดียว กลับบ้าน
เพราะว่าเรื่องของคุณแม่ ช่วงนี้เธอจึงไม่ได้กลับบ้านเลยสักครั้ง แต่ตอนนี้เธอวิ่งออกมาจากคฤหาสน์ของเผยลี่เชิน ก็แทบจะไม่มีสถานที่ให้พักอยู่ได้ชั่วคราว สู้กลับบ้านยังจะดีซะกว่า
จิตใจตกลงมาจนถึงขีดสุด ไป๋เสว่เอ๋อร์เดินช้าๆไปตามถนน เห็นแท็กซี่คันนึงที่ว่าง จึงได้ถือโอกาสโบกให้หยุดลง
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เธอก็มาถึงจุดหมาย เพิ่งจะเดินเข้าประตูใหญ่ของคฤหาสน์ เธอก็ได้ยินเสียงเล็กๆของคุณแม่ เหมือนกับกำลังพูดคุยกับคนอื่นอยู่
เพิ่งจะเดินมาถึงหน้าประตู คุณแม่ไป๋ที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ได้ยินเสียง รีบลุกยืนขึ้นมาในทันที “ใครน่ะ?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ตอบรับเบาๆหนึ่งประโยค “แม่ หนูกลับมาแล้วค่ะ”
สีหน้าของคุณแม่ไป๋เปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบวางสายโทรศัพท์ลงไปในทันที ยืดตัวเดินเข้ามาที่หน้าประตูด้วยความรวดเร็ว “เสว่เอ๋อร์ ทำไมวันนี้อยู่ๆถึงได้กลับมา? ไม่บอกไม่กล่าวซักคำ”
ไป๋เสว่เอ๋อร์เหนื่อยล้าไปทั่วทั้งตัว ไม่มีเรี่ยวแรงมากมายขนาดนั้น ส่ายศีรษะเล็กน้อย เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “แม่ ตอนนี้หนูต้องการเพียงแค่อาบน้ำอุ่นๆ นอนหลับให้สบายสักตื่น แม่ไม่ต้องถามอะไรเลยได้ไหมคะ?”
เห็นท่าทางเช่นนี้ของเธอ คุณแม่ไป๋ก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ลังเลอยู่ครู่หนึ่งสุดท้ายก็นำคำถามที่ทะลักขึ้นมาถึงบนบริเวณขอบปากกลืนกลับลงไป “งั้นก็ได้ แม่จะไปเตรียมน้ำให้อาบเดี๋ยวนี้”
มองดูคุณแม่ที่ไม่พูดอะไรออกมาอีก ก็ก้าวขาขึ้นไปชั้นสองทันที ในใจของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็พรั่งพรูความรู้สึกอบอุ่นออกมา ปลายจมูกแสบขึ้นมาเล็กน้อย เธอรู้สึกอยากจะร้องไห้
เธอกลับไปถึงห้อง เปลี่ยนเป็นชุดนอน จากนั้นก็เดินไปยังห้องอาบน้ำอย่างช้าๆ มองเห็นร่างที่กำลังยุ่งอยู่ในห้องของคุณแม่ ใจก็อ่อนลงมาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
“แม่คะ ผ่านช่วงนี้ไปพวกเราไปเยี่ยมคุณพ่อด้วยกัน ได้ไหมคะ? ท่านจะต้องคิดถึงพวกเรามากอย่างแน่นอน”
การเคลื่อนไหวของคุณแม่ไป๋หยุดชะงักลง ลังเลอยู่นานก็ยังไม่ได้ให้คำตอบกลับมา ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ เธอถึงได้หมุนตัว หันหน้ามองมายังไป๋เสว่เอ๋อร์ เอ่ยปากขึ้นเบาๆว่า “ลูกอาบน้ำก่อน รอวันหลังลูกอารมณ์ดีกว่านี้หน่อย พวกเราค่อยมาคุยเรื่องนี้กัน”
บริเวณขมับทั้งสองข้างรู้สึกปวดขึ้นมาเล็กน้อย ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ไม่อยากจะคิดอะไรมาก เธอพยักหน้าเล็กน้อยตอบรับกลับไป “ค่ะ งั้นวันหลังพวกเราค่อยคุยกัน”
เธอรู้ดีว่า ไม่ช้าก็เร็วต้องมีสักวัน คุณแม่จะต้องสารภาพทุกสิ่งทุกอย่างกับเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่รีบร้อนในตอนนี้
อยู่ๆ โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะก็สั่นขึ้นมา ไป๋เสว่เอ๋อร์ก้มศีรษะลงไปมองแวบหนึ่ง เห็นที่กระพริบบนหน้าจอเป็นเบอร์โทรศัพท์บ้านของเผยลี่เชิน เธอก็ไม่แม้แต่จะคิด กดปิดเครื่อง เข้าไปแช่ตัวในห้องอาบน้ำภายในทันที
ของเหลวอุ่นๆทำให้ร่างกายของเธอกลับมาอบอุ่นขึ้นอย่างช้าๆ แม้แต่กับความคิดก็ยิ่งเพิ่มความคล่องตัวขึ้นมามากขึ้นกว่าเดิม
ในสมองพาดผ่านทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ด้วยความรวดเร็ว ไป๋เสว่เอ๋อร์หลับตาลง คิดไม่ถึงว่าจะนอนหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร อยู่ๆก็มีเสียงๆนึงดังขึ้นที่ข้างใบหู “เสว่เอ๋อร์ รีบตื่นขึ้น!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ลืมตาสองข้างขึ้นมาอย่างกะทันหัน มองเห็นคุณแม่ที่อยู่ข้างๆ
“เด็กคนนี้ ทำไมถึงได้นอนหลับในอ่างอาบน้ำ? อากาศหนาวขนาดนี้ หากเป็นหวัดขึ้นมาจะทำยังไง? รีบลุกขึ้น!”
พอได้ยินเธอพูดเช่นนี้ ไป๋เสว่เอ๋อร์ถึงได้มีสติกลับคืนมาโดยสมบูรณ์แบบ เป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ น้ำในอ่างอาบน้ำที่แต่เดิมค่อนข้างร้อนตอนนี้ได้กลายเป็นน้ำอุ่นแล้ว
ออกมาจากอ่างอาบน้ำ สมองของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็สะลึมสะลือ พอขึ้นไปบนเตียงก็นอนหลับไปเลย
รุ่งเช้าวันต่อมา ไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ถูกคุณแม่ไป๋ปลุกให้ตื่นขึ้น “เสว่เอ๋อร์ รีบลุกขึ้นมาจากเตียงได้แล้ว…”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วขึ้น เอ่ยพึมพำออกมาว่า “แม่คะ ให้หนูนอนต่ออีกสักหน่อย…”
มองเห็นไป๋เสว่เอ๋อร์ที่นอนติดอยู่บนเตียงไม่ยอมลุกขึ้นมา คุณแม่ไป๋ก็ทั้งโมโหทั้งขำ “ลูกแน่ใจว่ายังจะนอนต่อใช่ไหม? คนบางคนกำลังรอลูกอยู่ที่ด้านนอกนะ!”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ได้สติขึ้นมาเล็กน้อย เอ่ยปากถามขึ้นมาว่า “…ใครคะ?”
ลืมตาทั้งสองข้างที่ยังสะลึมสะลือ ไป๋เสว่เอ๋อร์มองเห็นรอยยิ้มที่มีความหมายไม่ค่อยจะชัดเจนบนใบหน้าของคุณแม่ไป๋ อยู่ๆเธอก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจขึ้นมา รีบเอ่ยปากถามขึ้นอีกทีว่า “ใครกำลังรอหนูอยู่คะ?”
คุณแม่ไป๋เอ่ยถามย้อนกลับมา “ลูกว่าใครละ? นอกจากแฟนหนุ่มคนนั้นของลูก ยังมีใครได้อีก?”
ได้ยิน “แฟนหนุ่ม” สองคำนี้ ทั้งตัวของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็แทบจะดีดขึ้นมาจากเตียง ในชั่วพริบตาไม่มีความรู้สึกที่อยากจะนอนอีกต่อไป เธอนั่งตัวตรงรีบเอ่ยปากถามขึ้นมาว่า “เขามาที่นี่ได้ยังไงกันคะ?”
“นี่แม่จะรู้ได้ที่ไหนกัน ไม่เชื่อลูกลองลุกขึ้นมาดู?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ลังเลอีกต่อไป รีบลงจากเตียง เดินมายังริมหน้าต่างมองลงไปข้างล่าง เห็นเผยลี่เชินกำลังยืนอยู่ด้านนอกประตูใหญ่จริงๆ
ไป๋เสว่เอ๋อร์ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย จะคิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะมาหาถึงที่นี่ได้
คุณแม่ไป๋เดินไปยังด้านข้างของเธอ เอ่ยปากถามขึ้นมาว่า “พวกลูกทะเลาะกัน?”
ไป๋เสว่เอ๋อร์ไม่ได้ตอบกลับไป หมุนตัวหันกลับขึ้นมาบนเตียงใหม่อีกครั้งอย่างใจร้าย เอ่ยปากขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า “หากเขาอยากจะยืนอยู่ด้านนอกประตู ก็แล้วแต่เขา แม่คะเรื่องนี้แม่ไม่ต้องไปสนใจ”
พูดจบ ก็ไม่รอคำตอบจากคุณแม่ไป๋ ไป๋เสว่เอ๋อร์ใช้ผ้าห่มคลุมโปงขึ้น แล้วนอนหลับต่อไป
คุณแม่ไป๋ส่ายหน้าเล็กน้อยอย่างจนปัญหา ก้าวขาเดินออกนอกห้องไป
ประตูห้องปิดลงดัง “ปึ้ง” ภายในห้องเงียบลงในทันที ไป๋เสว่เอ๋อร์ขดตัวอยู่ด้านในผ้าห่ม เดิมทีคิดจะนอนหลับต่อ แต่ในสมองกลับปรากฏใบหน้าของชายหนุ่มขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำอีก
นอนพลิกตัวกลับไปกลับมา ไม่กี่นาที ความรู้สึกอยากนอนของไป๋เสว่เอ๋อร์ก็ไม่มีอีกต่อไป เธอลุกขึ้นมานั่งอย่างกะทันหัน ทั้งโมโหทั้งจนปัญญา กำหมัดทุบลงไปบนเตียงสองสามที ทำการตัดสินใจที่แน่นอน ลงจากเตียงเดินออกจากห้องนอนไปในทันที
เธอคิดอยากจะลองถามเขาต่อหน้าจริงๆว่า หรือว่าเมื่อวานทะเลาะกันยังไม่พออีกหรอไง วันนี้ยังจะมาตั้งแต่เช้ารบกวนการนอนหลับฝันดีของคนอื่น!ไม่รู้จักจบจักสิ้น!