ตอนที่ 310 อย่าให้ความสนใจกับการเข้ามาคุยของเพศตรงข้าม
หลังจากที่ไป๋เสว่เอ๋อเดินออกมา เผยอี้ยืนครุ่นคิดต่อบนดาดฟ้าเป็นเวลานาน ในที่สุด เขาก็หยิบมือถือขึ้นมาโทรหาจินจิงจิง
เสียงรอสายดังขึ้นแค่ครั้งเดียว มีคนกดรับสายทันที ฝ่ายหญิงรีบรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงที่ดีใจ “เผยอี้! ในที่สุดคุณก็ยอมโทรหาฉันสักที!”
“เรื่องที่ผ่านมา ฉันขอไม่ถือโทษโกรธเธอ” เผยอี้พูดด้วยเสียงนิ่งเรียบ “แต่ทว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ห้ามมายุ่งกับเรื่องของผมอีก! นี่เป็นโอกาสครั้งสุดท้าย!”
เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จินจิงจิงทั้งดีใจทั้งตกใจ รีบตอบกลับ “ฉันเข้าใจแล้ว! คุณสบายใจได้! ต่อไปฉันจะไม่ทำอีกแล้ว!”
ไม่รอให้หล่อนพูดจบ เผยอี้กดตัดสายทันที แต่สิ่งที่ยังคิดวนเวียนอยู่ในหัวอยู่ตลอดคือใบหน้าและสายตาอันจริงจังตอนที่ไป๋เสว่เอ๋อพูดกับเขาเมื่อครู่
หลังจากที่บริษัทตระกูลเผยได้โครงการก่อสร้างมา งานทั้งหมดมีมากขึ้นและยุ่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก พนักงานตำแหน่งน้อยใหญ่ในบริษัทต้องมทำงานล่วงเวลากันหมด ไป๋เสว่เอ๋อที่อยู่เคียงข้างเผยลี่เชิน งานเอกสารเกือบทั้งหมดหล่อนเป็นคนจัดการ ยุ่งจนไม่รู้วันรูคืน
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก็ถึงวันศุกร์ วันแห่งการเลี้ยงฉลอง สถานที่จัดงานอยู่ที่เรือสำราญซิงกวงแถบชานเมืองทางตะวันออก ตอนบ่ายวันนั้น ไป๋เสว่เอ๋อถูกพาไปที่ห้องทำงานของSaraโดยทีมงานแต่งหน้าทำผมของหล่อนโดยเฉพาะ
ตั้งแต่หัวจรดเท้า เส้นผมทุกเส้น ไป๋เสว่เอ๋ออดทนถูกพวกเขาเสริมสวยอยู่สามชั่วโมงกว่า จนเกือบจะเคลิ้มหลับไป กระทั่งรู้สึกหนักอึ้งที่บ่า มีคนปลุกให้ตื่น “เสว่เอ๋อ เสร็จแล้ว”
ไป๋เสว่เอ๋อลืมตาขึ้นมา มองดูตัวเองในกระจก รู้สึกตกใจขึ้นมาทันที การแต่งหน้าที่ดูเบาบาง แต่ทำให้ทั้งใบหน้าของหล่อนดูชัดเจนขึ้นมา เทียบกับการลองชุดครั้งที่แล้ว เมื่อดูโดยรวมทั้งหมดในครั้งนี้ดูสง่า มีชีวิตชีวา และ สดใสมากขึ้น
ไป๋เสว่เอ๋อมองไปที่Saraถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเหลือเชื่อ “ดูอลังการเกินไปหรือเปล่าคะ?”
อันที่จริงวันนี้เป็นแค่งานเลี้ยงฉลองเท่านั้น ดูเด่นเป็นสง่าขนาดนี้ จะทำให้หล่อนดูไม่เป็นตัวเอง
Saraยิ้มและพูดขึ้น “เธอรู้รึเปล่าว่าที่งานวันนี้มีนักข่าวมาด้วยนะ! ทั้งรูปทั้งคลิปจะต้องเอาไปทำข่าวถ่ายทอดให้ประชาชนได้เห็น อีกทั้งยังมีนิตยสารเศรษฐกิจด้วย เชื่อฉัน หลังจากที่เธอถึงงานแล้วทุกคนแต่งตัวจัดเต็มกันหมดแน่นอน การแต่งตัวแบบเธอถือว่ายังน้อยไป! ”
ไม่ว่าจะเป็นยังไง ตอนนี้แต่งตัวแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อย หล่อนทำได้เพียงทนแต่งแบบนี้ไปที่ชานเมืองตะวันออกแล้ว หลังจากที่หล่อนพูดคุยกับSara เจิงหงเข้ามาตามหล่อน “เลขาไป๋ ถึงเวลาแล้ว ควรออกเดินทางได้แล้วครับ”
“โอเคค่ะ” ไป๋เสว่เอ๋อพยักหน้าลง หลังจากร่ำลากับSara หล่อนขึ้นไปบนรถมุ่งหน้าไปยังชานเมืองฝั่งตะวันออกทันที
เผยลี่เชินในฐานะผู้จัดงาน เขาไปถึงที่งานล่วงหน้าก่อนแล้ว เป็นเพราะแต่งหน้าทำผมใช้เวลานานจึงทำให้ล่วงเวลาไปหน่อย หล่อนจึงต้องเขางานพร้อมกับแขกคนอื่น
เมื่อถึงที่หมาย อากาศเริ่มเย็นลงอย่างมาก ไป๋เสว่เอ๋อลงจากรถ และขึ้นไปบนเรือสำราญทันที
มีคนคอยต้อนรับนำเดินไปที่ห้องโถงอันกว้างใหญ่ ไป๋เสว่เอ๋อกวาดสายตามองไปรอบๆ เห็นผู้คนมากมายมาถึงที่งานก่อนเวลา พวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน บรรยากาศครึกครื้น
ยังเดินออกไปได้ไม่ไกลนัก ไป๋เสว่เอ๋อก็เจอกับคนที่คุ้นเคยมากมาย บ้างก็เป็นเพื่อนร่วมงาน บ้างก็เป็นพนักงานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์หลินวู่ที่เคยร่วมงานกันก่อนหน้านี้
“เลขาไป๋ ดื่มกันสักแก้วหน่อยไหมครับ?”
ทันใดนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งเดินมากันหล่อนไว้ เอื้อมหยิบแก้วแชมเปญจากพนักงานต้อนรับด้านข้างยื่นให้ไป๋เสว่เอ๋อ
ไป๋เสว่เอ๋อเพียงแค่รู้สึกคุ้นหน้าผู้ชายคนนี้ เหมือนเป็นคนที่เคยร่วมงานกันที่อสังหาริมทรัพย์หลินวู่
ถ้าเป็นคนที่คุ้นเคยกัน แน่นอนว่าต้องรู้เรื่องความสัมพันธ์ของไป๋เสว่เอ๋อกับเผยลี่เชิน แต่เขากลับกล้าเข้ามาพูดคุยแทะโลมทั้งยังชวนหล่อนดื่มต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ ช่างกล้าอะไรเช่นนี้
ไป๋เสว่เอ๋อเหลือบมองแก้วในมือของคนนั้น ยิ้มพร้อมพูดขึ้น “ดื่มแก้วนึงได้ค่ะ แต่ฉันไม่ดื่มแอลกอฮอล์นะคะ”
หล่อนพูดพลาง เอื้อมไปหยิบน้ำส้มบนโต๊ะด้านข้างมาชนแก้วกับชายคนนั้น ยิ้มและดื่มอึกหนึ่ง “ตามสบายนะคะ”
ไป๋เสว่เอ๋อเดินเฉิดฉายออกไป ไม่ว่าจะเดินไปไหน ความสวยของหล่อนทำให้ผู้คนหันมองมาที่หล่อนกันสายตาเดียว คนที่ทักทายหล่อนเมื่อครู่ มีคนมากมายคอยสังเกตเหตุการณ์อยู่ด้านข้างไม่น้อย เมื่อคนนั้นถูกหล่อนปฏิเสธอย่างอ้อมๆ ต่างพากันขำออกมา
ชายคนนั้นไม่ละความพยายาม ยิ้มและยกแก้วดื่ม รีบเดินตามหล่อน “เลขาไป๋ ได้ยินมาว่าความสำเร็จในการร่วมมือครั้งนี้ ได้ความช่วยเหลือจากคุณเยอะเลย ผมนับถือคุณมาก”
เผชิญหน้ากับผู้ชายที่พูดจาจอแจไม่หยุด ไป๋เสว่เอ๋อยิ้ม สายตากวาดมองไปที่ผู้คนในงาน แต่มองไปรอบๆก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเผยลี่เชินเลยสักนิด
ทันใดนั้นมีเสียงอันนุ่มนวลดังมาจากด้านหลัง “เสว่เอ๋อ”
เมื่อหันหลังกลับไป ไป๋เสว่เอ๋อเห็นลู่เหยาเดินตรงเข้ามาหา เขารีบเดินเข้ามาใกล้ ยื่นมือออกมากันผู้ชายด้านข้างออกไป ยิ้มและถามขึ้น “เสี่ยวเมิ่ง นายทำอะไรเนี่ย?”
สีหน้าของผู้ชายคนนั้นนิ่งขรึม ดูเหมือนทำตัวไม่ถูก หัวเราะเหอะๆขึ้นมา “แค่อยากมาขอบคุณวีรสตรีในงานครั้งนี้!”
ลู่เหยายิ้มขึ้น แต่น้ำเสียงกลับดูแข็งข้อขึ้น “รับคำขอบคุณไว้แล้ว นายไปได้แล้ว”
ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าเสี่ยวเมิ่งยิ้มแห้ง มองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อ จากนั้นรีบหันหลังเดินจากไป
รอจนเขาเดินออกไปไกล ลู่เหยาจึงหันหลังกลับมา เขามองหน้าไป๋เสว่เอ๋อพร้อมเอ่ยปากขอโทษ “ขอโทษนะ นั่นเป็นผู้ชายที่เลื่องชื่อเรื่องเจ้าชู้ในบริษัทพวกเรา พอเห็นคนสวยก็อดใจไม่อยู่ อยากจะเข้าไปทักทายทำความรู้จัก แต่ขี้ขลาด คุณอย่าถือสาเลยนะ”
ไป๋เสว่เอ๋อยิ้ม “ไม่เป็นไรค่ะ”
ลู่เหยาพยักหน้า พูดเตือนขึ้นมาพอดี “งานเลี้ยงครั้งนี้แม้ว่าจะจัดโดยบริษัทของพวกเราทั้งสอง แต่ก็เชิญคนในโครงการก่อสร้างมาไม่น้อย คนค่อนข้างเยอะ มากหน้าหลายตา คุณต้องระวังตัวเองด้วย”
“ขอบคุณรุ่นพี่มากค่ะ ฉันจะระวังตัวเอง” ไป๋เสว่เอ๋อยิ้มตอบรับ เมื่อเงยหน้าขึ้นมากลับสบตากับดวงตาใสเป็นประกายของลู่เหยาทันที ชะงักไปครู้หนึ่ง ลู่เหยายิ้ม พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “วันนี้คุณสวยมาก”
ไป๋เสว่เอ๋อยิ้มเริงร่า กำลังจะเอ่ยปากพูด แต่กลับหันไปเห็นเผยลี่เชินที่กำลังคุยกับผู้ชายอยู่สองสามคนไม่ห่างออกไปนัก เขาก็กำลังมองตรงมาทางหล่อนด้วย
ไป๋เสว่เอ๋อสูดหายใจเข้าลึก รีบหันไปพูดกับลู่เหยา “ขอโทษด้วยนะคะ ฉันขอตัวก่อน”
เมื่อพูดจบ หล่อนรีบเดินตรงออกไปหาเผยลี่เชินทันที
เมื่อเห็นหล่อนเดินเข้ามา เผยลี่เชินพูดคุยกับคนรอบข้างต่ออีกนิดหน่อย จากนั้นรีบเดินเข้ามาหาหล่อน เมื่อเข้ามาใกล้ เขารีบยื่นแขนออกมา โอบเอวหล่อนไว้แน่น ดึงเข้ามาใกล้ตัวเอง
เขาก้มหน้าลง ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าไม่ค่อยพอใจ “ทำไมเมื่อครู่ไม่มาหาผม?”
ไป๋เสว่เอ๋อยิ้ม “ฉันเพิ่งเห็นคุณ”
เมื่อเห็นรอยยิ้มของสาวน้อย ความรู้สึกไม่สบายใจของเผยลี่เชินหายไปทันที เขายื่นมือออกมาหยิกคางของหล่อนเบาๆ ยิ้มเล็กน้อยพูดขึ้น “แต่ทำไมผมมองไปก็เจอคุณเลยล่ะ?”
รอบข้างมีผู้คนมากมายเดินผ่านไปผ่านมา เผยลี่เชินพูดเสียงค่อนข้างดัง อย่างไม่สนใครทั้งนั้น
เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะจากคนรอบข้าง ใบหน้าของไป๋เสว่เอ๋อร้อนผ่าวขึ้นมาทันที หล่อนรีบยืดตัวขึ้น ตีตัวออกห่างจากเขา “งานใกล้เริ่มแล้ว คุณไปเตรียมตัวพูดบนเวทีก่อนเถอะ”
“ไม่รีบ ผมขออยู่เป็นเพื่อนคุณก่อน”
เผยลี่เชินพูดพลาง โอบผู้หญิงด้านข้างเดินออกไปอีกด้าน
เมื่อเดินไปถึงโซฟาที่มุมพักผ่อน เผยลี่เชินพูดกำชับขึ้น “คืนนี้ผมคงจะยุ่งมาก คงไม่ได้อยู่เคียงข้างคุณตลอด คุณอย่าเดินไปไหนไกล มีเรื่องอะไรติดต่อผมมาได้ทุกเมื่อ เข้าใจไหม?”
ไป๋เสว่เอ๋อพยักหน้า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ”
สายตามองไปที่หล่อนอย่างหวงแหน เผยลี่เชินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ผมยังมีกฎอีกหนึ่งข้อ ห้ามพูดคุยกับเพศตรงข้าม”
เมื่อเขาพูดจบ แต่กลับดูเหมือนยังไม่พอใจ พูดต่ออีก “อย่าคุยกับเพศเดียวกันด้วยดีที่สุด”