ตอนที่ 314 เป็นหน้าที่ของนาย
ลู่เหยาหันหลังมา เห็นเผยลี่เชินยืนอยู่ที่ประตู เขาตกใจขึ้นมาทันที
เขากำลังจะพูดอธิบาย แต่ยังไม่ทันได้พูด เผยลี่เชินก็ได้ตรงเข้ามากระชากคอเสื้อเขา จนตัวลอยขึ้นจากเตียง
เผยลี่เชินยกมือขึ้น กำหมัดแน่นจะชกไปที่ใบหน้าของเขา แต่ไป๋เสว่เอ๋อรีบพูดตะโกนขึ้น “หยุดนะ!”
“ไป๋เสว่เอ๋อ” เผยลี่เชินขมวดคิ้ว มองไปที่หญิงสาวบนเตียงด้วยสีหน้านิ่งขรึม จิตใจสับสนวุ่นวายไปหมด
ไป๋เสว่เอ๋อถอนหายใจ พูดขึ้นมาด้วยอาการเหนื่อยหอบ “ฉันถูกคนทำร้ายแล้วขังไว้ในห้อง จากนั้นลู่เหยามาช่วยฉันไว้!”
เผยลี่เชินตะลึง มองหน้าลู่เหยาอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ท้ายสุดสายตาของเขาหยุดอยู่ที่ไป๋เสว่เอ๋อที่นอนอยู่บนเตียง เขาปล่อยมืออก รีบเดินเข้าไปใกล้ เอ่ยปากถาม “เกิดอะไรขึ้น? ใครเป็นคนทำ?”
ไป๋เสว่เอ๋อยังไม่ทันได้ตอบอะไร จู่ๆก็มีเสียงคนเดินมาที่ประตู จากนั้นผู้ช่วยของลู่เหยาก็รีบเดินเอากล่องปฐมพยาบาลเข้ามาให้ “ประธานลู่ ผมเอากล่องปฐมพยาบาลมาให้แล้วครับ”
ลู่เหยายื่นมือไปรับ รีบเปิดกล่องปฐมพยาบาลออก หยิบยาฆ่าเชื้อ ผ้าก๊อซ และ สำลีออกมา หันไปพูดกับไป๋เสว่เอ๋อ “เธอนอนหันข้างนะ ผมจะทำแผลให้”
“เดี๋ยวก่อน!”
เผยลี่เชินยกมือห้าม ดึงมือลู่เหยาไว้ หันไปมองเจียงหวั่นหวั่นที่ยืนอยู่หน้าประตู พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เธอมานี่”
เจียงหวั่นหวั่นไม่กล้าพูดอะไรโต้ตอบ รีบเดินเข้ามาทันที จากนั้นรับของจากลู่เหยา เดินไปข้างเตียงทำแผลให้ไป๋เสว่เอ๋อ
ขณะที่กำลังทำแผล เผยลี่เชินกับลู่เหยาคอยเฝ้าดูอยู่ด้านข้าง เห็นเลือดสดสีแดงที่แผลตรงท้ายทอยของหล่อน เผยลี่เชินกำหมดขึ้นมาทันที
ใครกล้าทำร้ายคนของหล่อนเช่นนี้! เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไรกัน?
เขาเหลือบมองลู่เหยาที่อยู่ด้านข้าง พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม “เราออกไปคุยกันหน่อย”
เมื่อพูดจบ เขารีบเดินออกไปด้านนอก
ลู่เหยาขมวดคิ้ว สายตาหยุดมองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อครู่หนึ่ง อดกลั้นความโกรธไว้ สุดท้ายก็เดินตามเขาออกไป
หลังจากปิดประตู เผยลี่เชินถามต่อ “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ลู่เหยาพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา “เจียงหวั่นหวั่นหวั่นบอกผมว่า พวกเขากำลังตากลมกันอยู่บนดาดฟ้า จู่ๆก็มีบริกรเดินเข้ามา อ้างชื่อนายแล้วพาหล่อนเดินออกไป จากนั้นก็ติดต่อหล่อนไม่ได้อีกเลย เราสองคนไปดูกล้องวงจรปิด แล้วเดินตามหาหล่อนทั่วชั้นนี้ สุดท้ายผมเดินไปถึงห้องเก็บของสุดทางเดินจึงหาหล่อนเจอ”
ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเผยลี่เชินซีเรียสมากขึ้น เขายังไม่ทันได้พูดอะไร ลู่เหยาที่อยู่ด้านข้างก็พูดต่อ
“เผยลี่เชิน ในฐานะที่นายเป็นแฟนของหล่อน ไม่สามารถดูแลหล่อนได้ ทำให้หล่อนต้องได้รับบาดเจ็บ จริงๆมันคือหน้าที่ของนาย”
น้ำเสียงของเขาเป็นการตำหนิอย่างตรงไปตรงมา สีหน้าของเผยลี่เชินนิ่งขรึม “ครั้งนี้ที่ทำให้หล่อนต้องบาดเจ็บ เป็นความผิดของผมเอง ผมจะต้องจับคนร้ายให้ได้!”
เขาพูดพลางหยิบมือถือขึ้นมา กำลังจะกดโทรออก แต่จู่ๆกำถูกบางคนกดไหล่เอาไว้ เมื่อหันกลับไป ก็สบตากับลู่เหยา ทั้งสองสีหน้านิ่งขรึมเคร่งเครียด สายตาโกรธเคืองราวกับอาวุธปรมาณู แฝงไปด้วยความไม่พอใจ ใครก็ไม่ยอมต่อรองให้ใคร
หลังจากนั้นสักพัก ลู่เหยาเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน “เผยลี่เชิน นายยังจำคำพูดที่ผมเคยพูดไว้เมื่อครั้งก่อนได้รึเปล่า”
เขาหยุดชะงัก จากนั้นก็พูดต่อ “ถ้านายไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของหล่อนได้ ผมพร้อมรับมือเสมอ ผมสามารถรับประกันได้ ถ้าเป็นผม ผมจะปกป้องหล่อนอย่างรอบคอบไม่ให้เกิดอันตรายแน่นอน!”
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ สีหน้าของเผยลี่เชินเย็นชาขึ้นมาก เขายกมือสะบัดมือของลู่เหยาออกอย่างเต็มแรง สีหน้าสายตาเยาะเย้ย “รักและห่วงใยหล่อน เรื่องนี้คงไปไม่ถึงนายหรอกนะ”
เขาทิ้งคำพูดนี้ไว้ด้วยความเย็นชา จากนั้นรีบโทรหาฉีเฟิง “ฟังคำสั่งฉันให้ดี คนที่อยู่บนเรือสำราญในวันนี้ทั้งหมด ห้ามใครกลับไปก่อน นายไปดูห้องควบคุมกล้องวงจรปิด หาบริการที่พาไป๋เสว่เอ๋อไป….”
หลังจากที่ออกคำสั่งเสร็จ เผยลี่เชินหันหน้าไปมองลู่เหยาด้วยสายตาเยือกเย็น จากนั้นรีบผลักประตูเดินเข้าไป
แผลที่ท้ายทอยของไป๋เสว่เอ๋อจัดการเกือบเสร็จดีแล้ว เจียงหวั่นหวั่นรินน้ำหนึ่งแก้วยื่นให้หล่อน พูดขึ้นด้วยความละอายใจ “เสว่เอ๋อ ขอโทษนะ ฉันควรจะอยู่ข้างเธอตลอด”
ไป๋เสว่เอ๋อฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อได้ยินเจียงหวั่นหวั่นพูดเช่นนั้น หล่อนจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เรื่องนี้ไม่โทษเธอเลย ห้ามคิดมากเด็ดขาด”
เผยลี่เชินเดินเข้ามา สายตามองไปที่เจียงหวั่นหวั่น พูดขึ้นด้วยเสียงนิ่งขรึม “ถ้าอยากจับบริกรคนนั้นให้ได้ คงต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเธอ”
เจียงหวั่นมองเขาด้วยความประหลาดใจ “ความช่วยเหลือจากฉัน?”
เผยลี่เชินพยักหน้า “เธอเคยเจอคนนั้น ฉันต้องการให้เธอไปชี้ตัวคนร้ายที่แผนกบริการกับลูกน้องของฉัน เธอยินยอมไปไหม?”
เจียงหวั่นหวั่นพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “ยอมแน่นอนค่ะ! ขอเพียงแค่จับคนร้ายได้ ฉันยอมให้การช่วยเหลือแน่นอนค่ะ”
“โอเค เธอออกไปรอผู้ช่วยฉันก่อน เขาจะพาเธอไป”
เจียงหวั่นหวั่นพยักหน้า เหลือบมองไปที่ไป๋เสว่เอ๋อที่นอนอยู่บนเตียง พูดขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา “เสว่เอ๋อ ฉันไปก่อนนะ มีเรื่องอะไร ติดต่อฉันมานะ”
ไป๋เสว่เอ๋อยิ้มให้หล่อน “ได้จ้ะ”
เจียงหวั่นหวั่นเดินออกไป ปิดประตูลง ทันใดนั้นภายในห้องเหลือเพียงเผยลี่เชินและไป๋เสว่เอ๋อสองคน
เผยลี่เชินสูดหายใจเข้าลึก มองดูหญิงสาวบนเตียงด้วยความสงสารและเอ็นดู จากนั้นค่อยๆนั่งลงไปบนเตียง
บรรยากาศภายในห้องเงียบสงัด เผยลี่เชินเหลือบตามอง พูดด้วยเสียงแผ่วเบา “เจ็บไหม? ขอผมดูหน่อยนะ”
เขาพูดพลาง ยื่นมือออกมาโอบหล่อนไว้ในอ้อมอก
มองดูผ้าก๊อซสีขาวที่ท้ายทอยของหล่อน เขาขมวดคิ้วขึ้น ตอนนั้นภายในใจเข้ารู้สึกเสียใจและโทษตัวเองตลอดเวลา เสียงของเขาพึมพำอยู่ในคอ สั่นเล็กน้อย “ขอโทษนะ ผมปกป้องคุณได้ไม่ดีเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้น ไป๋เสว่เอ๋อหูตั้งชันขึ้นมาทันที น้ำตาที่อดกลั้นไว้กลับไหลลงมาอีกครั้ง
หล่อนเข้าใจดี ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้ จะโทษเผยลี่เชินไม่ได้ เพราะเขาเป็นผู้จัดงานครั้งนี้ ต้องเจอผู้คนมากมาย เขาไม่สามารถแยกตัวออกไม่ได้
อีกทั้งคนที่เจตนาตั้งใจทำร้ายหล่อน หากหล่อนจะหลบก็คงหลบไม่พ้นอยู่ดี
ไป๋เสว่เอ๋อยื่นมือไปโอบเอวของเขา คัดจมูกสะอื้น ก้มลงไปร้องไห้ซบที่อกของเขา
เผยลี่เชินค่อยๆลูบหลังของหล่อน พูดปลอบ “สบายใจได้ ครั้งนี้ผมจะจับคนร้ายให้ได้อย่างแน่นอน ถ้าคุณอยากออกไป ผมจะพาคุณออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยากจะพักสักหน่อย คุณช่วยอยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยได้ไหมคะ?”
มองดูใบหน้าอันซีดเซียวของหญิงสาว เผยลี่เชินรู้สึกปวดใจอย่างที่สุด เขายกมือลูบหัวของหล่อน พูดขึ้น “ได้แน่นอน”
ไป๋เสว่เอ๋อจับมือของเขาไว้ รู้สึกสบายใจขึ้นมาเยอะขึ้นทันที ไม่นานนัก หล่อนก็ผล็อยหลับไป
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ฉีเฟิงส่งข้อความเข้ามา “ประธานเผย หาคนร้ายไม่เจอครับ”
เผยลี่เชินขมวดคิ้ว จากที่ผ่อนคลายอยู่เมื่อครู่กลับรู้สึกตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้ง เขาปล่อยให้คนที่ทำร้ายไป๋เสว่เอ๋อหลบหนีออกไปได้ยังไงกัน?
มองดูหญิงสาวที่นอนอย่างสงบอยู่บนเตียง เผยลี่เชินลุกขึ้น ค่อยๆย่องเดินออกไปนอกห้อง โทรหาฉีเฟิง “เกิดอะไรขึ้น?”
“ผมพาเจียงหวั่นหวั่นไปดูที่แผนกบริการแล้วหนึ่งรอบ แต่กลับหาคนนั้นไม่เจอ”
“หรือหล่อนจะจำผิดคน?”
“หล่อนแน่ใจมาก จำคนไม่ผิดแน่นอน อีกอย่างผู้จัดการที่ดูแลบริกรบอกว่าบริกรที่ทำงานในวันนี้ทุกคนยังอยู่ครบ” ฉีเฟิงหยุดชะงัก ลังเลสักพัก พูดขึ้นต่อ “ผมคิดว่า มีความเป็นไปได้อีกอย่าง บางทีคนนั้น อาจจะไม่ใช่บริกรบนเรือ แต่เป็นพนักงานคนอื่น หรืออาจจะเป็นคนที่มาจากที่อื่นก็เป็นได้”
เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น เผยลี่เชินขมวดคิ้วมากขึ้น หากเป็นเหมือนที่เขาคาดเดาไว้ คงต้องตรวจสอบกันเป็นวงกว้างขึ้นไปอีก
“ประธานเผยครับ ให้ผมตรวจสอบต่อไปไหมครับ?”
เผยลี่เชินลังเลอยู่สักพัก รีบพูดขึ้นทันที “ตรวจสอบ! ตรวจสอบต่อไป!”
หากยังจับคนที่บงการเรื่องนี้ไม่ได้ เขาจะวางใจได้อย่างไรกัน?